น้ำผึ้งพระจันทร์50%

1325 คำ
คล้ายได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง เสียงเพลงแห่งความรัก เพลงโปรดที่ใช้เปิดคลอในงานแต่งงานที่ผ่านไปเกือบเดือน แต่ยังดังหวานในความรู้สึก Take me to your heart take me to your soul Give me your hand before I’ m old Show me what love is haven’ t got a clue show me that wonders can be true* *เพลง take me to your heart ศิลปิน Michael Learns to Rock อืม เหมือนได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้น ร่างเล็กขยับพลิกตัวไปอีกด้านหนีแสงที่ผ่านเข้ามาเคาะหน้าต่าง เจ้าลำแสงแรกของวันกำลังเคาะหน้าต่างอย่างขมีขมันเพื่อบอกว่า เช้าแล้วนะ เจ้ามนุษย์ขี้เซาอย่ามัวแต่นอน รีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันเถอะ อือ รู้แล้วน่า ไม่ได้ขี้เซาสักหน่อย นี่ก็พยายามอยู่ แต่ทำไมเปลือกตามันหนักอย่างนี้นะ หนักเหมือนมีช้างมาทับทั้งตัว กว่าจะลุกขึ้นมาได้ทำไมยากชะมัด พอขุดตัวเองให้ลุกจากที่นอนได้ เมาขี้ตาอยู่สามสิบวินาทีก็ลืมตาขึ้นมา อ่าว แล้วไหนพระอาทิตย์!! หญิงสาวมองซ้ายมองขวา ก่อนพบว่ารอบตัวยังเป็นภาพไฟเปิดสว่าง ข้าวของทุกอย่างวางตำแหน่งเดิมเหมือนกับเมื่อคืนตอนเข้านอน แต่ได้ยินเสียงเหมือนใครอาบน้ำอยู่ แล้วอยู่ดีๆ น้ำจากฝักบัวก็หยุด ตามด้วยบานประตูที่ถูกเปิดออก นริศราพยายามมอง แต่ไม่เห็นอะไรเลย เธอได้ยินเสียงผิวปากฮัมเพลงคล้ายว่าจะเป็นพี่ภีม เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ผิวขาวออร่ามีหยดน้ำเกาะพราว ครึ่งล่างพันผ้าขนหนูผืนเดียวชวนให้ใจหวิวแบบแปลกๆ แต่… จะมาวงมาหวิวอะไรอะไรกันตอนนี้ นี่แกแต่งงานแล้วนะ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว!! เสียงจากอีกใจท้วงด่า แล้วเสียงนั้นก็เหมือนกระชากเธอกลับมายืนมองตัวเองว่าเมื่อกี้ที่คิดว่าลุกขึ้นมาลืมตาได้แล้วนั่นมันความฝัน ส่วนความจริงก็คือเธอยังนอนหลับซุกอยู่ในผ้าห่มไม่ได้ขยับไปไหนเลย มิน่าถึงไม่เห็นพระอาทิตย์ !! ตากลมปรือขึ้นมองเห็นสามีกำลังแต่งตัว แสดงว่าเรื่องพี่ภีมอาบน้ำไม่ใช่ความฝัน “พี่ภีมจะไปไหนเหรอคะ” เสียงงัวเงียของคนครึ่งหลับครึ่งตื่นเอ่ยถาม ภีมภัทรยิ้มมองคนสัพพะหงกที่พยายามปรือตาขึ้นมาจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยจึงเดินไปหา “มีงานค่ะ” เขาตอบ รั้งตัวเล็กของคนที่ทำท่าจะลุกขึ้นมา มาไว้ในอ้อมกอด กดจูบลงบนเปลือกตาบอกให้เจ้าของตากลมที่พยายามเปิดเปลือกตาตัวเองหลับต่อ แต่เสียงอู้อี้ก็ยังถามคำถามที่ทำให้สามีถึงกับกลั้วหัวเราะ “ให้เกดไปด้วยไหมคะ” “ไม่ให้ไปหรอกค่ะ จะลุกยังไม่มีแรงขนาดนี้” บอกเย้าๆ แล้วก็อดไม่ได้ต้องกดจมูกลงบนแก้มใสอีกฟอด รู้ดีเลยล่ะว่าต้นเหตุที่ทำให้ยัยตัวนุ่มนิ่มเป็นแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากตัวเอง “เกดพักผ่อนไปนะคะ เดี๋ยวบ่ายๆ พี่กลับมา” คุณหมอหนุ่มอมยิ้มมองคนที่พอได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ ไม่ได้ถามอะไรต่อ เธอทำอย่างหนึ่งเหมือนที่เคยทำทุกวัน “สวัสดีค่ะ” ตามด้วยสองมือเล็กประนมไหว้อย่างน่ารัก ตอนแรกเขาเคยนึกแปลกใจ ถามถึงเหตุผลว่าคิดยังไงถึงทำแบบนี้ ยัยตัวเล็กยิ้มอย่างเอาใจแล้วบอก ‘แม่สอนมาค่ะ พี่ภีมแก่กว่าเกดตั้งหลายปี กราบสามีเป็นเรื่องที่ดี พี่ภีมจะได้รักและเอ็นดูลูกเกดทุกวัน จะได้รู้ว่าเกดรักและให้เกียรติมากๆ ’ แปลกไปหน่อยแต่ก็น่ารักจริงๆ ภรรยาของเขา มันเกือบจะดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กับประโยคต่อท้ายที่ว่า… ‘อีกอย่าง สามีจะได้ไม่นอกใจด้วยค่ะ!!’ ดื่มน้ำอยู่ ตอนนั้นเขาจำได้ว่าเกือบสำลักกับรอยยิ้มแป้นๆ ของเมีย แต่เอาเถอะ เป็นเด็กดี ยังไงก็ต้องมีรางวัล ว่าแล้วชายหนุ่มก็รั้งร่างบางของคนที่มือไหว้แต่ท่าทางอยากจะหลับต่อมาไว้แนบอก กดจูบลงบนหน้าผากอีกฟอด “สวัสดีเหมือนกันค่ะ นอนต่อนะคะ” เสียงทุ้มตอบรับด้วยคำพูดแบบเดียวกัน ทว่าส่งคนตัวเล็กเข้านอนด้วยการกระทำที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วงแขนกว้างที่โอบเธอไว้แนบชิด ความอุ่นชื้นจากริมฝีปากร้อนที่บดเคล้าเนิ่นนานพาหญิงสาวดื่มด่ำสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข นริศราลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นรอบที่สองในอีกสามชั่วโมงต่อมา การได้นอนหลับสบายอยู่ในห้วงแห่งความฝันทำให้เธอรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ แม้ว่าตอนอาบน้ำไปแต่งตัวเสร็จ จนกระทั่งลงมาข้างล่างก็ยังครุ่นคิดไป ไม่แน่ว่าเมื่อได้ไหว้สามีก่อนที่เขาจะออกไปแล้วหรือยัง ก็อำเขาไปเล่นๆ ว่าถือเคล็ดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ความจริงเธอทำเพราะว่าอยากทำ พี่ภีมเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งพ่อ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป็นคนที่เดินข้างๆ บางทีก็อยู่ข้างหลังคอยผลักดันให้ไปในเส้นทางที่ดีๆ รับความไม่น่ารักที่ใครเขาไม่รักในหลายๆ เรื่องที่เป็นข้อเสียของเธอได้ โดยไม่บ่นไม่ต่อว่าว่าทำไมต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แม้ว่าบางครั้งการไม่บ่นของเขา จะมีดุเสียงเย็นแบบเรียบๆ สั้นๆ บ้างนิดหน่อย ให้มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนทำโทษเลยก็เถอะ!! แต่สัญญาเลยนะว่าจะทำให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน เธอไม่ได้อยากเป็นคนใหม่ แต่ความรักของพี่ภีมทำให้ลูกเกดคนนี้อยากเป็นคนที่ดีที่น่ารักขึ้นในแบบของเธอ ตลอดช่วงบ่าย เวลาของนริศราหมดไปกับการท่องอินเตอร์เน็ต หาสูตรอาหารแล้วออกไปจ่ายตลาด ทำอาหารเย็นง่ายๆ ไว้รอสามีเรียบร้อย แต่ระหว่างรอก็เผลอหลับไปอีกรอบ รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีเพราะแสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาแยงตา ร่างเล็กขยับตั้งใจจะลุกขึ้นไปเตรียมสำรับอาหาร ทว่ากลิ่นหอมเฉพาะตัวคุ้นใจกับไออุ่นจากท่อนแขนแข็งแรงที่พาดอยู่บนเอว เรียกให้ต้องหันกลับไปมอง ไม่แปลกใจหรอกที่พี่ภีมกลับมาแล้ว เพราะก่อนจะเผลอหลับไปเธอโทรไปหาและเขาบอกว่าอีกประมาณชั่วโมงน่าจะถึง แต่ที่แปลกใจคือตัวเองขี้เซาขนาดนี้เลยเหรอ ขนาดโดนกอดอยู่ตั้งนานยังไม่รู้สึกอะไรสักนิด นริศราขยับตัวหันกลับไปทางคนตัวโต ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขายังหลับสนิท หลังจากแต่งงาน จากเป็นนายแพทย์รักษาคนไข้ธรรมดาพี่ภีมขึ้นมาเป็นผู้บริหารอย่างเต็มตัว ช่วงนี้เขาจึงค่อนข้างต้องเดินทางบ่อย ไปดูงานโรงพยาบาลสาขาย่อยต่างจังหวัด ประชุม เยี่ยมเยียนบุคลากรตามประสาผู้บริหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน (อะไรของแก?? ) ซึ่งก็คงเหนื่อยมาก เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่เธอจะมีโอกาสแบบนี้ นริศราขยับตัวเข้าไปใกล้ เอียงคอมองคนหลับอยู่นาน นิ้วเรียวยกขึ้นจิ้มบนใบหน้าที่เริ่มครึ้มด้วยหนวดเคราเขียวจางๆ ภาพเซอร์แต่ความหล่อไม่ยักจะลดลงเวอร์ชั่นนี้รับรองว่ามีเพียงผู้หญิงที่ชื่อนริศราคนเดียวที่มีโอกาสได้เห็น ก่อนความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นมา… หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวย่องลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง เมื่อคืนโดนเขารังแกเยอะแยะไปหมด วันนี้เธอยังไม่ได้แกล้งพี่ภีมเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม