“เสร็จแล้วครับ”
เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหูเมื่อเขาถักผมแกะทั้งสองข้างให้ฉันเรียบร้อยแล้ว
“ไปแอบให้กิ๊กที่ไหนสอนมาคะ”
ฉันแซวแบบไม่ได้จริงจังพร้อมเอียงซ้ายเอียงขวาดูผมเปียที่ถักไม่ค่อยเป็นระเบียบจากฝีมือผู้ชายตัวโตผมสีน้ำตาลเข้มที่ยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง
“กิ๊กในยูทูบ”
เฮียมาคัสสวมกอดเอวฉันเบา ๆ เกยคางลงบนไหล่บางเอ่ยบอก
“เดี๋ยวนี้หัดมีกิ๊กนะเรา”
ยกมือไปบีบจมูกคมสันนั้นเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว
“ไปทำงานเถอะ” เจ้าของอ้อมกอดเอ่ยบอกหลังจากกอดดมกลิ่นกายฉันจนหนำใจแล้ว
“ยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงเลย” เริ่มงอแงเพราะไม่อยากตัวห่างกันกับเขาเลย
ไม่อยากบอกว่าเฮียมาคัสที่เป็นแฟนสุดที่รักฉันเนี่ยเขาเป็นผู้ชายที่ร่างกายโคตรอบอุ่น เวลาสวมกอดฉันแต่ละทีถ้าเป็นหน้าหนาวนี่คือไม่ต้องห่มผ้าอะ
จริงนะ ไม่ได้พูดโอเวอร์แต่อย่างใด แต่ไม่ท้าให้มาลองสัมผัสหรอกนะเพราะคนนี้ฉันหวง
“รีบทำงานรีบเสร็จ คืนนี้เฮียพาไปดินเนอร์”
ดวงตาฉันลุกวาวเมื่อสุดที่รักเอ่ยบอก
“จริงนะคะ” ยิ้มจนตาหยีมองอีกคนผ่านกระจกเงาตรงหน้า
“เฮียเคยโกหกเราด้วย?”
นั่นสิ! ตั้งแต่คบกันมาเกือบจะหกเดือน เฮียมาคัสไม่เคยพูดคำไหนไม่จริงสักคำ เขาบอกจะพาไปไหนคือพาไปจริง ๆ
“งั้นวันนี้เฮียไปส่งน้ำหน่อยนะ” อ้อนเบา ๆ ด้วยการยกมือลูบสันกรามที่เริ่มมีไรเคราอ่อน ๆ ขึ้นทิ่มมือให้รู้สึกระคายผิวเล็กน้อย
“ได้ครับ ไปกัน”
มือหนาที่แสนอบอุ่นกุมมือฉันไว้แล้วจูงออกจากคอนโดของฉันเพื่อไปขึ้นรถสปอร์ตคันหรูที่จอดรออยู่ด้านหน้าคอนโด
“มินโทร. มาค่ะ”
รถเลี้ยวออกจากคอนโดฉันได้ไม่ถึงสิบนาที มินตราเพื่อนรักเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมัธยมก็โทร. มาหา ฉันรีบกดรับสายเพื่อนทันที
“ว่าไงแก” กรอกเสียงใสลงไปตามปกติ
[แก! รถฉันพังอะ]
ดูอารมณ์เธอหงุดหงิดเล็กน้อย
“แล้วแกอยู่ที่ไหน”
วันนี้ฉันมีถ่ายแบบชุดแฟชั่นจากแบรนด์หนึ่งของเมืองนอกที่สตูดิโอในเมืองทอง ส่วนมินตราถ้าจำไม่ผิดเธอก็รับงานถ่ายแบบเหมือนกันแต่เหมือนจะออกนอกเมืองน่ะ
[จะออกชาญเมืองอยู่แล้วแก แต่แถวนี้โคตรเปลี่ยวฉันรอรถผ่านมาสิบกว่านาทีแล้วยังไม่มีสักคัน แถมโทร. หาช่างมาดูให้ก็บอกต้องรอเป็นชั่วโมง เซ็งว่ะ!]
เออ ถ้าฉันเป็นยัยมินตราเจอแบบนี้ก็อารมณ์เสียเหมือนกัน
“มีไรเหรอ”
“ยัยมินรถเสียค่ะ”
“อ้าว แล้วแถวนั้นไม่มีอู่เหรอ”
ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะคุยกับเพื่อนที่ถือสายรอต่อ
“แถวนั้นมีบ้านคนไหมแก”
[มีแต่ไร่มันสำปะหลังน่ะสิ]
นี่ไปที่ไหนของเพื่อนฉันเนี่ย ทำไมถึงได้ดูกันดารขนาดนั้น
“เอาไงดี ตอนนี้ฉันกำลังจะถึงเมืองทองแล้วอะ”
[คงต้องรอช่างหรือไม่ก็เสี่ยงดวงเผื่อมีคนผ่านมาแหละแก]
ยกมือดูเวลา ตอนนี้บ่ายสามแล้ว ถ้าเกิดเพื่อนฉันรอช่างไปถึงก็ประมาณสี่โมงเย็น ดูจากสภาพแวดล้อมที่นางเล่าก็เปลี่ยวเอาการอยู่นะ
“แกถือสายรอฉันแป๊บนึงนะ”
บอกเพื่อนเสร็จรถก็เลี้ยวเขาเขตสถานที่ทำงานฉันพอดี
“วันนี้เฮียมาคส์มีธุระด่วนที่ไหนต่อไหมคะ”
คนถูกถามหันมาสบตาเล็กน้อยก่อนกลับไปมองทางต่อ ปากหนาขยับตอบสั้น ๆ อย่างน่ารัก
“ไม่ครับ วันนี้ว่างเป็นบอดี้การ์ดให้คุณแฟนทั้งวัน”
เนี่ย ชอบหยอดให้เขินตลอดเลย
ไม่ใช่ ๆ นี่ไม่ใช่เวลามาสวีตกันนะยัยน้ำแข็ง
“งั้นเฮียช่วยไปรับยัยมินให้หน่อยได้ไหมคะ ถ้าเฮียซิ่งไปน่าจะถึงไวอยู่”
ข้อเสียอย่างหนึ่งของคุณแฟนฉันคือเขาเป็นคนขับรถเร็วมาก ยกเว้นเวลาอยู่กับฉันเขาจะขับพอประมาณเพื่อความปลอดภัย
“ไม่มีปัญหาครับ ให้มินแชร์โลเคชั่นมาได้เลย”
“น่ารักที่สุด แฟนใครเนี่ย”
“ถ้าน่ารักคืนนี้เฮียขอรางวัลด้วยนะ”
รีบยกมือปิดไมค์โทรศัพท์ทันทีที่อีกคนก้มลงมากระซิบเกือบชิดริมฝีปากฉัน
หวังว่ายัยมินตราคงไม่ได้ยินหรอกนะ
[ช่วยแคร์เพื่อนบ้างเถอะ ตอนนี้เพื่อนเดือดร้อนนะยะ เลิกสวีตกันให้ได้ยินได้ป้ะ]
ฮือ ๆ เธอได้ยินจริง ๆ ด้วย ฉันเลยลงโทษคนต้นเรื่องด้วยการขึงตาดุใส่เขาพร้อมขยับปากแบบไม่มีเสียงให้อีกคนอ่านปากว่า
‘ยัยมินได้ยินหมดเลย’
ทว่าอีกคนกลับไม่เดือดไม่ร้อน มีหน้ามาขำใส่ฉันอีก
“แกช่วยแชร์โลแคชั่นเข้าเครื่องเฮียมาคส์ที่นะ”
[อือ]
ติ๊ง!
ไม่นานเสียงข้อความเครื่องเฮียมาคัสก็ดังขึ้น คงเป็นยัยมินตราส่งโลเคชั่นที่นางรถเสียอยู่มาให้
“งั้นน้ำไปทำงานแล้วนะคะ ฝากดูแลเพื่อนน้ำให้ดี ๆ ด้วยนะ”
“...” อีกคนพยักหน้าให้
ฉันกำลังจะเปิดประตูรถลงไปทว่ากลับถูกรั้งแขนไว้ด้วยฝ่ามือหนา ตามมาด้วยใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้เพื่อขโมยหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
“นี่มัดจำ คืนนี้ต้องได้รางวัลใหญ่เป็นค่าเหนื่อยนะครับ”
ใบหน้าฉันแดงระเรื่อ
ถึงจะคบกันมาครึ่งปี ทว่าความหวานเลี่ยนของเฮียมาคัสไม่เคยแผ่วลงเลยสักวันเดียว
ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างกินดุด้วยนะ
อืม...แล้วฉันจะบอกความลับเขาทำไมเนี่ย เดี๋ยวมีคนอิจฉามาแย่งแฟนสุดที่รักฉันไปพอดี
“น้ำไปก่อนนะคะ ขับรถดี ๆ นะ อย่าซิ่งมาก”
ไม่ได้ให้คำตอบว่าคืนนี้จะมีรางวัลให้เขาไหม แต่เชื่อเถอะ!
ถ้าเขา ‘อยากได้’ อะไร ฉันก็ไม่เคยขัดเขาได้สักที