“เดี๋ยว! ทำหน้าแบบนี้คือ?”
ฉันอมลมจนแก้มป่องแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น
ถ้าจู่ ๆ แฟนคุณถามคำถามนี้มาจะคิดมากเหมือนฉันไหมล่ะ?
แหงแหละว่าต้องคิดอยู่แล้ว
“อ้อ สงสัยฉันจะใช้คำพูดผิดไป”
เรียกแก้ตัวหรือเชื่อเขาดีเนี่ย
“ฉันหมายถึง เรากับเพื่อนใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกัน แต่ทำไมพอเป็นบนตัวของเธอถึงได้หอมกว่า หอมแบบไม่ฉุนน่ะ”
“นี่เฮียมาคส์รู้ด้วยเหรอคะว่าน้ำกับยัยมินใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกัน?”
“วันนี้ตอนไปรับมินตราเห็นเธอหยิบขึ้นมาฉีด ฉันได้กลิ่นนั้นแล้วแต่รู้สึกว่ามันแตกต่างจากบนตัวเธอ”
อ้อ ที่แท้เขาก็หมายความว่าแบบนี้นี่เอง
“ไบโพลาร์เปล่าเนี่ย เดี๋ยวหน้าบึ้งเดี๋ยวยิ้ม”
“อื้อ”
ปลายจมูกถูกนิ้วสองนิ้วของเขาหนีบเบา ๆ เหมือนมันเขี้ยว
“ก็เมื่อกี้เฮียมาคส์พูดเหมือนนอกใจน้ำ”
บางครั้งฉันก็เป็นคนตรง ๆ ถ้าสงสัยก็จะถามออกไปตอนนั้นเลย
“ใครจะกล้า มีของรักอยู่ตรงหน้าทั้งคน”
แก้มฉันถูกอีกคนขโมยหอมซ้ายทีขวาทีแล้วจบลงที่หน้าผากมน
ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจฉัน
เขาค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกจากหน้าผากฉันอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าใบหน้ายังคงห่างกันเพียงไม่กี่เซนฯ
สองสายตาจ้องมองกันราวโหยหาบางสิ่งบางอย่าง
เฮียมาคัสค่อย ๆ ประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากสีส้มของฉันอย่างช้า ๆ และนุ่มนวล
“ดะ…เดี๋ยวค่ะ”
เพิ่งนึกได้ว่านี่มันกลางแจ้งจึงรีบผลักอกแกร่งเขาออก
เฮียมาคัสเหมือนไม่พอใจอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม
“ทำไมครับ”
ฉันมองซ้ายมองขวาพร้อมแก้มที่แดงปลั่ง
“คะ...แค่จูบนะคะ”
ฉันไม่ได้ไร้เดียงถึงจะอ่านสายตาคนรักไม่ออกว่าเขาจะไม่หยุดแค่การจูบธรรมดา ๆ นี้
“คิดงั้น?”
บอกแล้วไงความต้องการของแฟนฉันคนนี้ค่อนข้างสูง พูดง่าย ๆ คือ เขากินดุและถึกมาก
“อื้อ”
ยังไม่ทันได้ค้านต่อ ฉันที่นั่งอยู่บนตักเขาก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอดและถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากหยักลึกนั้นอีกครั้ง
แรงบดเสียดของกลีบปากนุ่มทำให้บริเวณนั้นเกิดความร้อน ลิ้นชื้นค่อย ๆ สอดแทรกเข้ามาควานหาน้ำหวานในโพรงปาก
เราแลกลิ้นกันพัวพันอย่างลืมอายว่านี่คือที่สาธารณะ
มือหนาค่อย ๆ สอดเข้ามาจากชายเสื้อยืดตัวสั้นของฉัน เสียงสายเสื้อชั้นในฉันดีดผึงออกจากกันจนเต้าอวบทั้งสองข้างเด้งดึ๋งตามแรงดีด มือเขาอุ่นวาบแถมยังเริ่มซุกซนลูบแผ่นหลังเนียนฉันจนบริเวณที่ถูกลากผ่านร้อนรุ่มไปหมด
การบดจูบยังคงดำเนินต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง เต้าอวบถูกมือหนากอบกุมบีบคลึงจนเสียวซ่านไปทั้งทรวง
เสื้อฉันถูกเลิกขึ้นมากองไว้บนเนินอก อวดสองเต้างามต่อหน้าเขาท่ามกลางหมู่ดาวนับพันและแสงจันทร์นวลผ่อง
“มะ...มา คัส”
เขาชอบให้ฉันเรียกชื่อเขาห้วน ๆ เวลาที่เรากำลังมีความสุขกัน
“อืม”
เสียงคำรามตอบก่อนจะก้มลงดูดยอดอกฉันที่ชูช่อล่อตาล่อใจเขา
แผ่นหลังฉันแอ่นอกให้อีกคนได้ชิมส่วนนั้นอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
เสียงดูดดึงยอดปทุมถันดังก้องจนมอบความสาดเสียวให้อย่างบรรยายไม่ได้
เสียงจักจั่นเรไรส่งเสียงร้องระงมเมื่อน้ำค้างยามดึกเริ่มตกลงมา
“อ้ะ อ่า มะ...มาคัส”
สองมือจิกลงบนลาดไหล่แกร่งเมื่อเขาทั้งดูดเม้มยอดอกและบีบเคล้นอีกเต้าควบคู่กัน
ส่วนอ่อนไหวฉันเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว ความรู้สึกอยากให้เขารีบเข้ามาเติมเต็มทำให้ฉันรีบเอื้อมมือปลดกระดุมกางเกงเขาอย่างไร้ยางอาย
เสียงมาคัสกลั้วหัวเราะอย่างชอบใจดังขึ้นเบา ๆ ก้นงอนงามฉันถูกฝ่ามือหนาอุ้มยกให้สูงขึ้น
แพนตี้ตัวน้อยถูกแหวกออกมากองข้างเดียวกัน ปล่อยให้ส่วนนั้นของฉันว่างโล่งต้องลมจนสั่นสะท้าน
“อ้ะ ดะ...เดี๋ยวสิ!”
รู้สึกถึงแก่นกายร้อนผ่าวจ่อตรงปากทางเข้าที่ฉ่ำแฉะ
มาคัสหยุดการเตรียมสอดใส่พร้อมเลิกคิ้วคล้ายส่งคำถาม
“ตะ...ตรงนี้ จะ จริงเหรอคะ”
มองซ้ายแลขวาทุกอย่างมันโจ่งแจ้งเกินไป หวั่นจะมีใครผ่านมาเห็นภาพอุจาดตาพวกนี้เข้าน่ะสิ
“อืม ไม่ต้องกลัว แถวนี้ไม่มีใครมาหรอก”
เสียงเขาแหบพร่าติดหอบเบา ๆ ราวกักกั้นอารมณ์อย่างว่าอยู่
ฉันเอียงหน้าผินมองไปทางอื่นเล็กน้อยไร้ข้อโต้แย้ง
พวงแก้มอุ่นวาบตามมาเมื่อถูกอีกคนหอมลงมาฟอดใหญ่
ปลายลิ้นสากชื้นค่อย ๆ ลากเลียตามหลังใบหูต่ำลงตามซอกคอแล้วฉกชิมดูดเม้มจนเสียวซ่าน
“อ๊ะ อ๊า”
แท่งแกร่งฉวยโอกาสตอนที่ฉันเคลิบเคลิ้มค่อย ๆ สอดแทรกเข้ามาด้านในส่วนอ่อนไหวฉัน
ความใหญ่โตของเขาคับแน่นจนฉันอึดอัดแทบจะผลักไสออก
“อืม ตอดรัดแน่นมาก” คำพูดทะลึ่งตึงตังถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหนาสีแดงติดคล้ำเล็กน้อยเพราะสูบบุหรี่หนัก
มาคัสบีบเคล้นก้นกลมกลึงฉันเพื่อให้ผ่อนคลายการหดเกร็ง
มือหนาข้างหนึ่งตีเข้าบั้นท้ายฉันจนเกิดเสียงดังทว่าไม่ได้เจ็บแสบเหมือนเสียงที่ดังออกมา มันแค่คันยิบ ๆ แต่เพิ่มความเสียวให้ฉันจนเป็นฝ่ายขยับสะโพกกลืนกินตัวตนเขาขึ้นลงช้า ๆ
สายลมเย็น ๆ รวมถึงหยดน้ำค้างทำฉันขนลุกซู่ ทว่าร่างกายกลับย้อนแย้งเมื่อเหงื่อกาฬเริ่มเกาะกุม
“ขยับ เร็วอีก”
มาคัสสั่งเสียงกระเส่า เขากระทุ้งสะโพกหนักหน่วงสองสามทีเพื่อให้ฉันตามจังหวะเขา
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงเรไรที่ดังก้องบริเวณโล่ง
อุ้งปากร้อนระอุคาบงับเต้างามฉันดูดดึงอย่างเมามัน ท้องฉันเริ่มบิดมวนเมื่อใกล้จะถึงฝั่งฝัน
มาคัสเองก็ไม่ต่าง เขาบีบเคล้นเต้างามอีกข้างพร้อมกระแทกส่วนแข็งขืนขึ้นมาย้ำ ๆ ถูกจุดเสียวจนฉันครางอย่างลืมอาย
เราขยับสอบสะโพกรับกันและกันต่ออีกไม่ดี่นาทีความสุขสมก็พรั่งพรูออกมาพร้อมกัน
“เก่งมากครับ”
เขามักชมฉันทุกครั้งที่เป็นฝ่ายควบขยับบนเรือนกายกำยำของเขา
หน้าผากอุ่นวาบเมื่อถูกอีกคนจุมพิตลงมาราวหวงแหน
มาคัสดึงเสื้อฉันลงมาในสภาพเดิม พร้อมติดตะขอเสื้อชั้นในให้ฉันเสร็จสรรพ
ทว่าส่วนนั้นของเรายังคงเชื่อมกันอยู่แบบนั้นจนเริ่มหวั่นใจว่าเขาจะยังไม่พอ
“ในรถมีทิชชู”
ทว่าฉันคงคิดมากเกินไป พอเขาบอกเหตุผลที่ยังไม่ถอดถอนตัวตนออกมาฉันถึงได้เบาใจไปส่วนหนึ่ง
ร่างหนาค่อย ๆ อุ้มฉันทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นเรายังเชื่อมกันแถมแท่งแกร่งเขายังไม่หยุดขยายพองโต เวลาเดินทำให้ส่วนนั้นมันขยับไปตามการก้าวของขายาว ๆ เขา
ฉันได้แต่กอดเขาแน่น กัดฟันไม่ให้เกิดอารมณ์อย่างว่าขึ้นมาอีก
ตุบ!
แต่แทนที่ฉันจะได้เข้าไปนั่งในรถและจัดการตัวเอง มาคัสกลับวางฉันนอนราบบนกระโปรงรถและเริ่มขยับส่วนนั้นอีกครั้ง
“อ๊ะ อ๊า มะ...มาคส์”
มือฉันถูกอีกคนรวบด้วยมือเดียวไว้เหนือศีรษะ เขากระแทกกระทั้นตัวตนแข็งขืนเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ขาทั้งสองข้างของฉันถูกกางออกกว้างเพื่อให้ตัวตนเขาเข้าสุดและลึกจนฉันจุกเสียด
อุ้งปากร้ายกาจก้มลงดูดดึงเต้างามฉันราวหิวโหย
มือฉันเป็นอิสระจึงกดศีรษะทุยของเขาให้จมลงไปกลางอกพร้อมแอ่นหน้าอกคู่สวยให้เขาดูดกิน
“แน่น เธอแน่นมาก”
เสียงคำรามของเขาทำฉันเขินอายหน้าแดงก่ำ เอวสอบถูกมือหนาจับไว้มั่นทั้งสองข้างพร้อมเพิ่มแรงกระแทกเข้ามาซ้ำ ๆ
มาคัสก้มลงดูดเลียใต้ราวนมฉันจนเจ็บจี๊ดและเสียวสะท้าน
ความรู้สึกอึดอัดตีตื้นขึ้นมาจนต้องกอดรัดอีกคนเอาไว้แน่น
หยาดเหงื่อเริ่มหลั่งไหลออกมาพร้อมแรงหอบหายใจที่เริ่มติดขัด
มาคัสสอบสะโพกแรงขึ้น เน้นย้ำขึ้น จนปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อม ๆ กันเป็นครั้งที่สอง
“เหนื่อยไหมครับ”
แววตาหยาดเยิ้มมองฉันจนต้องหลบสายตานั้น
“หะ...หิวน้ำค่ะ”
ตอนนี้รู้สึกคอแห้ง แต่ที่จริงคืออยากให้เขาเลิกมองเรือนร่างฉันมากกว่า
มันไม่ชินจริง ๆ นะ ต่อให้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเรา แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่ชินกับสายตาหื่นกระหายที่เขาจ้องเรือนร่างฉันอยู่ดี
“ได้ครับ เดี๋ยวไปเอาให้”
ตัวตนร้ายกาจนั้นค่อย ๆ ถอดถอนออกไป ฉันรีบลงขึ้นนั่งจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่
เสียงเปิดปิดประตูรถดังขึ้น มาคัสเดินกลับมาพร้อมขวดน้ำและทิชชูม้วนหนึ่ง
“อ้ะ เดี๋ยวน้ำจัดการเอง”
เขากำลังจะใช้ทิชชูทำความสะอาดส่วนนั้นให้ฉัน คนอะไรอ่อนโยนเกินจะต้านไหว
มาคัสพยักหน้าวางทิชชูไว้ข้าง ๆ แล้วหันหน้าไปอีกทางเพื่อดูดบุหรี่
“เหม็นไหม”
เขาเอียงหน้ามาถามพร้อมมองดูทิศทางของลม
“ไม่ค่ะ ตามสบายเลย”
ฉันไม่ชอบกลิ่นบุหรี่
แต่เมื่อไรก็ตามที่คนข้าง ๆ ดูดมันฉันกลับไม่รังเกียจและไม่รู้สึกขยะแขยง
“นั่งอีกสักหน่อยเดี๋ยวพากลับ”
ฉันพยักหน้ากอดตัวเองแน่นเมื่ออากาศเริ่มเย็นชื้นขึ้นเรื่อย ๆ
หมับ!
ร่างกำยำเดินเข้ามาโอบกอดฉันราวรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการในตอนนี้
ใบหน้าสวยซบลงบนอกแกร่ง นั่งมองหมู่ดาวและท้องฟ้าที่คืนนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
“น้ำรักเฮียมาคส์นะคะ”
จู่ ๆ ก็อยากบอกรักเขาขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
อีกคนไม่ตอบ เขาทำเพียงก้มลงมาจูบเบา ๆ กลางศีรษะฉันแล้วโอบกอดอยู่แบบนั้นเงียบ ๆ