ไม่โปรดปราน:6

947 คำ
[หืม? วันนี้ถ่ายชุดนี้?] ทันทีที่รับสายวิดีโอคอลจากเฮียมาคัส สายตาคมดุจเหยี่ยวก็จ้องมาที่ชุดของฉัน “ค่ะ สวยไหมคะ” ฉันยกกล้องขึ้นมุมสูงให้เขาเห็นชุดว่ายน้ำแบบบอดี้สูททว่าเว้าช่วงเอวทั้งสองข้าง [ถ้าใส่ต่อหน้าฉันเรียกสวย แต่แบบนี้เรียกหวง] หน้าแดงขึ้นมาทันทีที่อีกคนป้อนคำหวานแบบไม่ให้เตรียมใจ “แล้วนี่ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ” รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมาทำฉันเขินจนตัวแดงหมดแล้ว [ครับ ประชุมเสร็จก็รีบโทร. หาสุดที่รักทันที] “ช่วงนี้ปากหวานจัง ทำผิดอะไรมาหรือเปล่าคะ” แอบถามสักหน่อย แต่จริง ๆ ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอกเพราะแฟนคนนี้ฉันไม่มีแววเจ้าชู้เลยสักนิดเดียว [อาจจะ] “หือ?” ทว่าพอได้ยินอีกคนพูดแบบนี้แล้วหัวใจฉันกลับวูบไหวจนเกือบร้องไห้ [อาจจะเพราะรักมากขึ้นทุกวันเลยต้องหยอดคำหวานหนัก ๆ หน่อย] โธ่! ทำเอาฉันเกือบปล่อยโฮออกมาแล้วเนี่ย! “แหวะ เลี่ยนกว่าวิปครีมที่เพิ่งทานมาเลยนะคะ” เฮียมาคัสทำเพียงแค่ยิ้มหล่อมาให้ฉัน [แล้วนี่งานเสร็จยังครับ] “เพิ่งถ่ายเสร็จค่ะ เจ๊สุ่มชวนไปดูดวงด้วยนะคะ” [ดูดวง?] “ค่ะ แต่น้ำไม่เชื่อเรื่องพวกนั้นหรอกค่ะ พึ่งดวงอย่างเดียวไม่ทำให้เรามีชีวิตสุขสบายขึ้นหรอกเนอะ” [ดูไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ เผื่อกรรมเก่าอาจจะตามทัน] “คะ?” [ฉันก็พูดขำ ๆ] อา...เมื่อกี้สีหน้าเขาจริงจังนะ หรือว่าเฮียมาคัสเองก็เชื่อเรื่องดูหมอดูดวงเหมือนกัน “เฮียมาคส์สนใจไหมคะ” อีกคนเงียบก่อนจะส่ายหน้าตอบ [ไม่ล่ะ ฉันไม่เชื่อเรื่องดวง แต่ฉันเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม] ทำไมน้ำเสียงและสีหน้าเขาดูจริงจังขนาดนั้นนะ “ยัยน้ำ เจ๊บอลลูนมาแล้ว” เสียงมินตราตะโกนเรียก “โอเค ๆ แป๊บน้า” ฉันหันไปตอบเธอ [วันนี้มินตราก็ถ่ายด้วย?] เฮียมาคัสคงเห็นตอนที่ฉันแพนกล้องไปเมื่อกี้ “ค่ะ ถ่ายขึ้นปกคู่ด้วยนะคะ” [อืม งั้นก็ไปธุระต่อกับเพื่อนเถอะ คืนนี้เจอกัน] ว้า! เสียดายจัง ยังคุยไม่หายคิดถึงเลย “บายค่ะ” สุดท้ายต้องจำใจวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปด้านในเพื่อเปลี่ยนชุด “แกพกน้ำหอมติดตัวจริงด้วย” กำลังเปลี่ยนชุดอยู่มินตราที่เปลี่ยนเสร็จก่อนฉันนางก็หยิบขวดน้ำหอมแบบพกพามาฉีดพรมตามเส้นชีพจร “อื้อ แปลกเหรอ” ฉันส่ายหน้าพร้อมตอบ “เปล่า ฉันนึกว่าเฮียมาคส์โม้เสียอีก” “เกี่ยวไรกับแฟนแกอะ” “ก็วันที่แกรถเสียเฮียมาคส์กลับมาถามฉันเรื่องที่แกใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกับฉัน เขาบอกเห็นแกพกติดตัว ตอนนั้นยังไม่อยากจะเชื่อเลย” “อ้อ! วันนั้นฉันพกไปเพราะงานอยู่กลางแจ้งคิดว่าต้องได้ใช้แน่ ๆ ตัวคงเหนียวหนึบ ไม่คิดเลยนะว่าเรื่องเล็กน้อยแฟนแกยังจะรายงาน” ยัยมินพูดเหมือนประชดแฟนฉันหน่อย ๆ “นี่แหละเฮียมาคส์” “เห็นฉันใช้น้ำหอมแบรนด์เดียวกับแก คงไม่ได้บอกให้แกเปลี่ยนยี่ห้อหรอกใช่ไหม” ฉันมองหน้ายัยมินที่คิดเล็กคิดน้อย “แกจะบ้าเหรอ เฮียมาคส์ไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นสักหน่อย อีกอย่าง ใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันมันผิดตรงไหน ของแบบนี้ใคร ๆ ก็มีโอกาสใช้เหมือนกันได้ มันอยู่ที่ความชอบย่ะ!” “นั่นสิ ของบางอย่างชอบเหมือนกันก็ไม่เห็นจะแปลก” ฉันพยักหน้าให้กับคำพูดของยัยมินตรา ก่อนจะหันหลังให้นางช่วยรูดซิปเสื้อจากด้านหลังให้ “ไปกันเถอะ เจ๊ ๆ รอนานแล้ว” ฉันเดินนำหน้าออกจากห้องแต่งตัว โดยมีมินตราเพื่อนรักเดินตามออกมาติด ๆ ตอนนี้เรากำลังเดินเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านทรงเรือนไทยยกพื้นสูง “ทำไมบรรยากาศมันวังเวงจังอะเจ๊” ฉันสะกิดถามเจ๊บอลลูนพร้อมเกาะแขนเธอ รอบ ๆ พื้นที่กว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่หลายต้น ล้อมรอบ แถมยังเป็นเครือเถาวัลย์พันเป็นซุ้มทางเดินแทบจะมองไม่ออกว่านี่กลางวันหรือกลางคืน “ถึงบอกว่าไงว่าแม่หมอแกแม่นจริง ๆ นะ” มันเกี่ยวกับบรรยากาศรอบตัวด้วยเหรอไอ้ความแม่นไม่แม่นเนี่ย “นัดไว้หรือเปล่า” พอเดินมาถึงบันไดทางขึ้น มีผู้ชายสองคนใส่ชุดสีขาวยืนดักอยู่ “นี่จ้ะ” เจ๊สุ่มยื่นอะไรสักอย่างให้หนึ่งในนั้น ก่อนที่ประตูทางขึ้นเตี้ย ๆ ของบันไดจะถูกเปิดออก “เชิญด้านบนเลย แม่หมอรออยู่” เสียงบันไดดังจเอี๊ยดอ๊าดทำเอาขนลุกขนพอง นี่ถ้ามาถ่ายหนังผีคงอินน่าดู “ใครก่อนคนแรกคะ” พอมาถึงชั้นบนก็จะมีจห้องห้องหนึ่ง และลานโล่งสำหรับนั่งรอ มีพานพุ่ม ดอกไม้เป็นช่อ ๆ ธูปเทียน สารพัดของที่เหมือนไว้กราบไหว้บูชาตั้งอยู่บนโต๊ะขนาดกลาง ห้องที่อยู่ตรงด้านในมีม่านแบบมู่ลี่ลูกปัดปิดอยู่ทำให้มองเข้าไปไม่ชัดเพราะมันค่อนข้างมืด “เจ๊ก่อนนะ” เจ๊สุ่มหันมาบอกพวกเรา ฉันเลยสะกิดถาม “ต้องเข้าไปทีละคนเหรอเจ๊” แค่บรรยากาศก็ไม่อยากตัวห่างกันแล้วอะ “ใช่ แม่หมอจะดูส่วนตัว” อา...แบบนี้ฉันไม่เอาด้วยคนหรอกนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม