@ห้างสรรพสินค้า
"แม่เลือกให้นะคะคนสวย"
ขนมผิงยิ้มออกมาก่อนจะหยิบชุดเอี๊ยมวัยน่ารักไปทาบลงบนตัวของลูกสาว เธอไปสำรวจตู้เสื้อผ้าของลูกมาแล้วมีแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบเต็มชั้น ของแบรนด์เนมไม่มีเลยซักใบมีแต่กระเป๋าหนังที่เธอเคยซื้อให้ตอนวันเกิดสองปีที่แล้ว เธอเลี้ยงลูกมาแบบให้เงินเยอะมากแต่แปลกที่เด็กสาวไม่ใช้จ่ายอะไรเลย
"น่ารักไปมั้ยคะคุณแม่ น้ำหวานใส่เหมาะที่ไหนกัน"
"มันเหมาะกับหนูแน่นอนถ้ารู้จักปล่อยผม แต่งหน้า หาชุดน่ารักๆมาใส่บ้าง"
"มันไม่ชินนี่คะ ใส่ไปเพื่อนก็แซวกันอีก"
น้ำหวานเอ่ยออกมาก่อนจะมองไปรอบๆอย่างถูกใจ จริงๆชุดพวกนี้มันสวยมากเธอชอบมองเวลาคนอื่นใส่ แต่พอเป็นตัวเองไม่กล้าใส่ซะอย่างนั้น
"ถ้าหนูไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นทอมก็ต้องหัดแต่งตัวบ้าง อีกอย่างจะฝึกงานแล้วด้วยเราต้องมีบุคลิกที่ดีเหมาะสำหรับทำงานบริการนะ"
น้ำหวานรับฟังคุณแม่ของเธออย่างตั้งใจ ส่วนคุณพ่อพักหลังท่านก็ไม่ว่าอะไรที่คุณแม่จะจับเธอแต่งตัวสวยๆ แต่เป็นเธอเองมากกว่าที่ไม่เคยชินก็เลยต่อต้านมาโดยตลอด
"เชื่อแม่เขาเถอะ ปกติพ่อไม่ชอบนะให้หนูแต่งตัวสวยๆมันจะเด่นเดี๋ยวผู้ชายมาจีบเยอะ แต่ก็นั้นแหละหนูโตแล้ว ยิ่งวัยนี้ต้องฝึกงานด้วยพ่อว่าหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริการ ไม่ได้แต่งมากแต่ควรดูดีในระดับหนึ่ง"
คนเป็นพ่อเอ่ยแนะนำลูกสาว เขาหวงลูกมากโชว์นั่นนี่เขาไม่ชอบที่สุด แต่หลายปีมานี้ได้ภรรยาปรับทัศนคติให้จึงดีขึ้นเยอะมาก และยอมที่จะปล่อยลูกสาวใช้ชีวิตแบบวันรุ่นดูบ้าง แต่คงเป็นความเคยชินของน้ำหวานเองจึงไม่ยอมทำตามที่แม่แนะนำ
"ก็ได้ค่ะซื้อไว้ก็ได้"
เด็กสาวยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปเลือกพร้อมกับคุณแม่ วันนี้ท่านใจดีมากซื้อชุดให้หลายชุดแถมเครื่องประดับพวกนาฬิกา ตุ้มหู สร้อยคอ กำไร รองเท้าแบบผู้หญิงเขาใส่กัน มีกระเป๋าแบรนด์เนมให้อีกด้วย
"พอแล้วมั้ยคะทำไมซื้อเยอะจัง"
"ก็หนูเล่นไม่ซื้ออะไรเลยนี่คะ แม่ให้เงินเดือนหนึ่งหลายหมื่นนะลูก หรือว่ากินข้าวจนหมดมันไม่เหลือไปซื้อพวกของใช้แบบนี้"
ขนมผิงเอ่ยประชดลูกสาว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกินเดือนหนึ่งสี่ห้าหมื่น มันต้องมีเหลือเยอะมากถ้าไม่ซื้อของอะไร
"ก็อยู่ในธนาคารค่ะคุณแม่ คุณย่าก็ให้บ่อยแต่น้ำหวานไม่รู้จะซื้ออะไรนี่คะ"
คนเป็นแม่หันไปมองสามีก่อนจะกระทุ้งศอกใส่อย่างอารมณ์เสีย
"เพราะพ่อเลี้ยงคนเดียวเลยค่ะที่ทำให้ลูกกลายเป็นแบบนี้"
"โทษพี่ได้ยังไงเล่า ก็ตอนนี้ปล่อยแล้วไง ลูกไม่สนใจเองให้พี่ทำไง"
พ่อเลี้ยงคาวีไม่ยอมโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้ลูกสาวกลายเป็นแบบนี้ น้ำหวานมองคุณพ่อคุณแม่ของเธอเถียงกันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
"ไม่รู้แหละ ต่อจากนี้ห้ามบงการชีวิตลูกแล้ว ผิงไม่ยอมพ่อเลี้ยงแล้ว"
"จ้าๆ พี่ยอมแพ้แล้วค่ะ"
พ่อเลี้ยงหอมแก้มภรรยาอย่างยอมแพ้ รู้สึกว่าตัวเองยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งกลัวเมียจนน่าใจหาย หรือเพราะอยู่กันมานานเมียถึงไม่เกรงใจเหมือนก่อน ตอนนี้กลายเป็นเขาเองที่ต้องฟังภรรยาทุกเรื่องยอมทุกอย่างจริงๆ
"ดีมากค่ะ น้ำหวานลูกไปซื้อโทรศัพท์ใหม่กันหนูใช้เครื่องนี้มาสองปีแล้วเปลี่ยนใหม่ได้ค่ะ แม่ซื้อให้นะ"
"คุณแม่ใจดีที่สุดเลยค่ะ รักคุณแม่จังเลย"
น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะกอดแขนคุณแม่เดินตรงไปยังร้านโทรศัพท์ ส่วนพ่อเลี้ยงคาวีเดินถือของตามสองสาวไปอย่างเอ็นดู เมื่อก่อนเมียยอมทุกอย่างเดี๋ยวนี้สามียอมทุกอย่าง... ให้มันรู้กันไปเลยว่าใครใหญ่กว่าใคร
"ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะคะ"
"ค่ะ เอาจอใหญ่เลยค่ะ เอาความจำเยอะๆด้วยน้ำหวานมีข้อมูลเยอะค่ะคุณแม่"
"ได้เลย แม่เลือกให้นะ"
ขนมผิงหันไปสอบถามพนักงานเกี่ยวกับราคารุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนน้ำหวานที่มีโทรศัพท์ดังเข้ามาก็กดรับสายทันที
"สวัสดีค่ะน้ำหวานพูดค่ะ"
(น้องน้ำหวานนะคะ พี่โทรศัพท์มาจากบริษัท CG groupค่ะ จะมาแจ้งว่าพรุ่งนี้ท่านประธานนัดสัมภาษณ์ตอนสิบโมงเช้า น้องจะสะดวกมั้ยคะ)
"สะดวกค่ะ สะดวกมาก"
น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น ในที่สุดเธอจะได้ไปสัมภาษณ์กับท่านประธานแล้ว แสดงว่ามีโอกาสได้ไปฝึกงานที่นั่นสูงมากเลยด้วย
(งั้นพรุ่งนี้สิบโมงพี่ลงนัดไว้ให้นะคะ เจอกันนะ)
"เจอกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"
(จ้า เจอกันนะ)
น้ำหวานวางโทรศัพท์ก่อนจะวิ่งไปสวมกอดคุณพ่อของเธออย่างดีใจ และจะแจ้งข่าวดีให้ทราบด้วย
"คุณพ่อขา น้ำหวานมีข่าวจะมาแจ้งให้ทราบด้วย"
"ข่าวอะไร ทำไมดูดีใจขนาดนั้นลูก"
พ่อเลี้ยงคาวีเอ่ยถามลูกสาว น้ำหวานยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยออกมา
"โรงแรมที่หนูไปยื่นเขาเรียกให้ไปสัมภาษณ์พรุ่งนี้ค่ะ คุณพ่อรู้มั้ยคะว่าโรงแรมนั้นนะระดับห้าดาวและไม่รับนักศึกษาฝึกงานมั่วๆด้วยนะคะ เห็นว่ามีคนมายื่นแต่ถูกปฎิเสธไปเยอะ รุ่นพี่น้ำหวานมายื่นก็ไม่เคยมีใครได้เข้าฝึก แต่เขาเรียกน้ำหวานไปสัมภาษณ์ด้วยนะคะ มันต้องมีข่าวดีแน่นอนเลยค่ะ"
"จริงเหรอ... นี่คนเก่งอย่างลูกพ่อนี่ยังต้องไปลุ้นอะไรแบบนี้อีกเหรอเนี่ย เซอร์ไพรส์พ่อมากเลยนะ"
พ่อเลี้ยงคาวีทำหน้าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ลูกสาวของเขาฉลาดมาทั้งแต่เด็กไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งภาษาผลการเรียน ทุกอย่างลูกของเขาทำได้ดีเสมอ แปลกใจที่ไปยื่นฝึกงานยังต้องรอสัมภาษณ์พิจารณาอีก
"ก็ที่โรงแรมเครือ CG group เขาดังมากเลยค่ะ ค่าห้องราคาหลักหมื่นหลักแสนกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นต่างชาติ และเค้ายังมีบริษัททัวร์ด้วย เอาง่ายๆว่าถ้าได้เข้าไปฝึกงานก็จะได้ทำเหมือนพนักงานคนอื่นๆเลยค่ะเพราะเขาไม่มีพี่เลี้ยงคอยสอน คนที่จะเข้าไปฝึกงานได้จะต้องเก่งมากเท่านั้นค่ะ ถ้าสมมติว่าลูกสาวของคุณพ่อผ่านล่ะก็ หนูจะได้ปฎิบัติงานจริงเหมือนพนักงานคนหนึ่งและจะได้ประสบการณ์จากโรงแรมหรูๆมาพัฒนารีสอร์ทของเราต่อ"
เด็กสาวอธิบายคนเป็นพ่อให้เข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการ การไปฝึกงานที่นั่นมันคือความใฝ่ฝันของเด็กที่เรียนการท่องเที่ยวและการโรงแรมในมหาวิทยาลัยดัง มันจะมีแค่ไม่กี่โรงแรมที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ระดับเอเชีย ซึ่ง CG group เป็นหนึ่งในนั้นที่คนยอมรับมากที่สุด เธอจะต้องเข้าไปฝึกงานด้วยความสามารถของตัวเองให้ได้เลย
"มองการณ์ไกลดีมากลูก พ่อขออวยพรให้หนูสมหวังนะ การฝึกงานมันก็เหมือนการทำงานจริงซึ่งหนูเคยผ่านมันมาแล้วในหลายปีมานี้ จดจำในสิ่งที่เคยเรียนรู้มาจากรีสอร์ทแล้วแสดงฝีมือออกมาให้คนอื่นเห็น พ่อเชื่อว่าหนูจะทำหน้าที่ตรงนั้นได้ดีที่สุด"
"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ ถ้าพรุ่งนี้ผ่านแล้วต้องพาหนูไปฉลองนะคะ"
"ได้เลย พ่อให้คุณแม่พาไปจัดมื้อใหญ่เลย"
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาทันที สองพ่อลูกมีนิสัยคล้ายกันมากเข้ากันได้ดีมากกว่าลูกชายซะอีก รายนั้นเหมือนแม่มีนิสัยอ่อนโยนอะไรยอมได้ก็ยอมทุกอย่าง