บทที่4

1596 คำ
“คุณชรัส คุณชรัสอยู่ที่ไหนจ๊ะป้า! แพรอยากเจอเขา” “ป่านนี้คงจะคุมคนงานอยู่ที่ท้ายเกาะนู้นแหละค่ะ เย็นๆ ถึงจะกลับมาฝั่งนี้อีกที ยังไงเสียวันนี้คุณก็พักผ่อนให้หายสนิทจะดีกว่า ขืนเจอกันตอนนี้ป้าว่ามันคงไม่ดีแน่ๆ เพราะนายกำลังอารมณ์เสียเรื่องที่คนงานบนเกาะขโมยเอาหอยมุกของเราไปขายอยู่ด้วย ถ้าเกิดเจอคุณตอนนี้มีหวังได้เกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ” หญิงชราเอ่ยขึ้นราวกับจะรู้ทันความคิดของอีกฝ่ายว่ากำลังอยากที่จะพบหน้าเจ้านายของตน พิชญายอมที่จะเชื่อฟังคำบอกเล่าของป้าเพ็ญ หญิงชราผู้ใจดีที่นอกจากจะคอยดูแลหาข้าวหายาให้ตลอดทั้งวันอีกทั้งยังอาสาเล่าเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นกับชรัสให้เธอได้รับรู้อีกด้วย และเมื่อยิ่งได้รู้ความจริงในอดีตที่น่าเศร้าของเขาเข้า หัวใจดวงน้อยก็พาลอดไม่ได้ที่จะสงสารและเห็นใจในความรักที่ไม่สุขสมหวังเหมือนดั่งในเทพนิยายที่ตนเคยอ่าน “แย่แล้วแม่ๆ นายแย่แล้ว!!!” ทว่าความคิดทั้งหมดจำต้องสะดุดเมื่อเสียงร้องโวกเหวกของใครบางคนดังขึ้นก่อนชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงผิวสีแทนจะวิ่งกระหืดกระหอบตรงเข้ามาหาตนเองกับหญิงชราที่นั่งพูดคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านพักสีขาว “มีอะไรไอ้มิ่ง นายเอ็งเป็นอะไร” ผู้เป็นแม่ย้อนถามกลับไปอย่างอดสงสัยไม่ได้ ยิ่งเมื่อได้เห็นท่าทีร้อนรนอย่างหนักของลูกชายก็ยอ่งใจคอไม่ดีกลัวว่านายหนุ่ม ที่อายุยังน้อยจะเป็นอะไรไป “นายน่ะไม่เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอกแม่ แต่ว่าพวกไอ้ชัยนี่สิกำลังจะตาย ทันทีที่จับตัวได้นายก็สั่งให้ฉันวิ่งกลับมาเอาปืนไปให้เนี่ย จะทำยังไงดีล่ะแม่ นี่ถ้าเกิดนายบ้าเลือดฆ่าคนขึ้นมาแล้วเกิดติดคุก มีหวังพวกเราทุกคนจะไม่พากันตกงานกันรึไงเนี่ย” คำบอกเล่าที่ยาวเหยียดสร้างความตกใจให้ทั้งหญิงชราและหญิงสาวเป็นอย่างมาก ก่อนที่หญิงชราจะฉุกคิดอยู่ครู่ถึงค่อยๆ เอ่ยขึ้น “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เอ็งรีบฆ่าเวลาแกล้งทำเป็นไปหาปืนไปก่อน ประเดี๋ยวข้าจะลองไปช่วยพูดกับนายอีกแรง คุณรออยู่ที่นี่ก่อนเถอะนะคะคุณแพร ประเดี๋ยวป้าจะรีบไปรีบกลับ” ศรีเพ็ญไม่รอให้ได้รับคำตอบร่างท้วมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปพร้อมๆ กับชายหนุ่มคนดังกล่าวแต่มีหรือที่หญิงสาวนั้นจะยอมทนรออยู่เฉยๆ ได้ตามคำขอร้องสองเท้าเล็กๆ ออกวิ่งตามไปติดๆ เว้นระยะห่างเอาไว้เป็นช่วงๆ กันไม่ให้คนทั้งสองได้ทันสังเกตเห็นว่าเธอนั้นกำลังวิ่งตามพวกเขาไปติดๆ เพราะอยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่ท้ายเกาะ อีกทางฝากหนึ่งของเกาะ ร่างของชายฉกรรจ์สองคนถูกเหวี่ยงลงบนพื้นทรายอย่างแรงโดยฝีมือเหล่าคนงานด้วยกันที่พากันออกตามหาจนกระทั่งพบเจอคนทั้งคู่ที่หลบซ่อนอยู่ก่อนจะรีบพาตัวกลับมาหาผู้เป็นนายที่ยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้วทันที ชรัสเฝ้ามองภาพของคนงานทั้งสองด้วยอารมณ์ที่โกรธจัด “ยกโทษให้พวกผมสักครั้งเถอะครับนาย! ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนนังเอื้องเมียผมมันก็จะคลอดลูกแล้ว ถ้าไม่มีเงินเก็บ ผมกลัวว่าลูกที่จะเกิดมาจะลำบากเหมือนกับผมแล้วก็แม่ของมัน” หนึ่งในสองกล่าวขึ้นพร้อมๆ กับยกมือไหวร้องขอชีวิต เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นใจถึงเหตุผลที่ตัดสินใจทำลงไป “นั่นมันไม่ใช่กงการอะไรของฉัน! เพราะถ้าเกิดว่าแกตั้งอกตั้งใจทำงานเก็บเงินไม่เอาไปกินเหล้าเข้าบ่อนจนหมดเนื้อหมดตัวมีหรือจะไม่มีเงินเก็บสะสมเอาไว้ให้ลูกเมีย แต่แกกลับเลือกที่จะทรยศฉัน!!” ชรัสตวาดตอบอย่างหัวเสียอย่างหนัก มีหรือชายหนุ่มจะไม่รู้นิสัยใจคอของลูกน้อง ที่ทำงานด้วยกันมาเป็นปีๆ ตรงหน้า “ผมขอโทษจริงๆ ครับนาย ให้โอกาสพวกผมสองคนอีกสักครั้งเถอะนะครับ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว จะให้พวกผมไปสาบานที่ไหนก็ได้” “โอกาสของพวกแกสองคนมันหมดลงไปตั้งแต่วินาทีที่พวกแกกล้าเอาไข่มุกของฉันไปขายแล้ว! เอามีดมานี่สีนวล คงไม่ต้องรอปืนจากไอ้มิ่งมันแล้ว จะมืดหรือปืนฉันก็สามารถเอาเลือดคนทรยศอย่างพวกมันสองคนออกได้เหมือนกัน!” สิ้นเสียงที่ดังสนั่นร่างสูงก็เดินพรวดไปคว้าเอามีดจากมือแม่ครัวสาวสวยที่วิ่งออกมาดูเหตุการณ์จนลืมเก็บมีดในมือที่เผลอถือติดมือมาด้วยมากำเอาไว้แน่นแต่ยังไม่ทันจะได้ประชิดตัวผู้ต้องหาเสียงร้องห้ามของใครบางคนกลับดังสวนขึ้นเสียก่อน “หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ!” พิชญาร้องห้ามขึ้นอย่างลืมตัว มาได้สติอีกที หญิงสาวก็วิ่งเข้ามาขวางชายสองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่แล้ว “เธอเกี่ยวอะไรด้วย ถอยออกไป!” ชรัสเองก็รู้สึกตกใจไม่ใช่น้อยที่จู่ๆ แม่ตัวดีที่เขาช่วยขึ้นมาจากน้ำกลับวิ่งมาขวางหน้าเขาเอาไว้แบบนี้แต่ก็จำต้องเอ่ยถามออกไปอย่างคาดโทษนึกโมโหตัวเองขึ้นมาถนัด ที่น่าจะปล่อยให้หล่อนจมน้ำตายๆ ไปซะ! “ฉันไม่ถอยค่ะ! คุณจะฆ่าพวกเขาสองคนแบบนี้ไม่ได้นะคะ บ้านเมืองมีกฎหมาย คนทำผิดและสำนึกในความผิดที่ทำลงไปแล้วก็ควรที่จะได้รับการอภัยใช่ไหมหรือคะ คุณจะมาใช้ศาลเตี้ยตัดสินชีวิตของคนอื่นได้ยังไงกัน หรือว่าในชีวิตของคุณไม่เคยที่จะทำเรื่องอะไรที่มันผิดพลาดเลยหรือยังไงกัน!!” พิชญาร้องประท้วงขึ้นอย่างลืมรักตัวกลัวตายเพราะไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่คนตรงหน้าใช้ศาลเตี้ยของตัวเองตัดสินความผิดของคนอื่นด้วยวิธีการป่าเถื่อนอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้า “แต่นี่มันเรื่องของฉันกับคนงานของฉัน คนนอกอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรเข้ามาเสนอหน้าไม่ทราบ จะถอยออกไปดีดีหรือจะรับมีดแทนพวกมันก็เลือกเอา!” ชรัสตวาดอย่างหงุดหงิด คิดไม่ถึงว่าจะมีคนบ้าดีเดือดวิ่งเข้ามาทำในสิ่งที่ไม่มีใครสักคนบนเกาะแก้วตาแห่งนี้เคยทำมาก่อน ซึ่งนั่นก็คือเปลี่ยนใจเขา...ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครเปลี่ยนใจเขาได้หากเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว! “คุณไม่กล้าหรอกค่ะ” หญิงสาวย้อนกลับทันควัน ใบหน้าหวานเชิดรั้นขึ้นอย่างเหลืออดแม้ว่าลึกๆ ในใจจะหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนับต่อแต่นี้ไปมากแค่ไหนก็ตามที แต่เพราะเธอเองก็ทนเห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันครั้นจะมัวแต่กลัวต่อสิ่งที่ยังไม่ทันจะได้เกิดขึ้นยืนมองคนตรงหน้าให้ถูกลงโทษอย่างป่าเถื่อนไม่ได้ด้วยเช่นกัน “อะไรที่มันทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้น!” ชายหนุ่มตวาดถามกลับไปอย่างเดือดจัดไม่เคยมีใครกล้ามาต่อปากต่อคำกับเขาเหมือนอย่างที่เธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้ และเชื่อเถอะว่าเรื่องนี้เขาจะไม่ยอมให้มันผ่านเลยไปง่ายๆ อย่างแน่นอน! “เพราะถ้าคุณคิดจะฆ่าฉันคุณคงปล่อยให้ฉันจมน้ำตายไปตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้ากันแล้ว คุณคงไม่อาสาว่ายน้ำไปช่วยชีวิตฉันหรอกจริงไหมล่ะคะคุณชรัส ธีรภรณ์!” ความจริงที่ไม่ได้รู้สึกไปเองทำให้หญิงสาวเอ่ยบอกกลับไปแบบนั้น สายตามุ่งมั่นจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว “หึ! เธอรู้ตัวไหมว่านั่นคือสิ่งผิดพลาดมหันต์ของฉันที่เคยทำมาเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากตายแทนพวกมันนักล่ะก็...ฉันจะสนองให้เองก็แล้วกัน!” สิ้นเสียงกังวารที่ดังขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามคำขู่ร่างของคนงานทั้งสองที่ก่อนเคยนั่งคุกเข่ากลับพากันลุกกรูขึ้นก่อนจะกระชากเอาแม่ตัวดีเข้าหาตัวอย่างแรงพร้อมกับมีดพกที่ถูกจ่อเข้าที่ลำคอของหญิงสาวเอาไว้แน่น “ถอยไป! เตรียมเรือให้พวกกูเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นอีนี่ตาย!” สัจธรรมของคำว่า ‘ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว’ เป็นเช่นไรพิชญาถึงได้เข้าใจก็วันนี้ วันที่เธอถูกผู้ชายสองคนที่ตนเองนั้นเสี่ยงชีวิตวิ่งเข้ามาปกป้องจับเอาไว้เป็นตัวประกันเสียเอง ยิ่งภาพของชายหนุ่มเบื้องหน้าที่แสยะยิ้มอย่างพออกพอใจกับภาพที่ได้เห็นของชรัสด้วยยิ่งแล้วเข้าไปใหญ่ ทุกๆ สิ่งเด่นชัดขึ้นบนใบหน้าโดยที่เขานั้น ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมาให้ได้แสลงหูอีกเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม