1 เดือนผ่านไป
เป็นหนึ่งเดือนที่ฉันพยายามจะลืมเรื่องราวในวันนั้น แต่มันก็ยากเหลือเกิน เพราะทุกครั้งที่หลับตาก็มักจะคิดถึงเหตุการณ์นั้น ไม่รู้เมื่อไหร่จะลืมได้สักที
แต่ก็ยังดีที่พี่ติณรักษาคำพูด เขาไม่ไประรานเฮียเหนือกับรินอีก ฉันเองก็ไม่ได้โผล่หน้าไปให้เขาเห็นอย่างที่เคยพูดเอาไว้
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็จะบอกกับตัวเองว่าอย่าตามหาเขาอีก
“น้ำมนต์คิดอะไรอยู่ได้เวลาไปเรียนแล้วนะ” เสียงแอนนาเพื่อนของฉันท้วงขึ้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งเหม่ออยู่
ตอนนี้ฉันอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพิ่งจะเปิดเทอมเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนนี้ฉันเรียนคณะบริหารอยู่ปีสี่แล้วแหละ
“แล้วไนท์กับใบข้าวล่ะ” ฉันถามหาเพื่อนอีกสองคนเพราะยังไม่เห็นหน้าเลย
ไนท์คือเพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม เพราะเพื่อนของเขานั้นเรียนมหาวิทยาลัยอื่นกันหมด ไม่รู้ไปไงมาไงรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันมาจนถึงปีสี่แล้ว
ส่วนใบข้าวคือเพื่อนที่ฉันสนิทมากที่สุด ถึงชื่อจะออกไปทางใสซื่อแต่เธอก็ค่อนข้างปากจัดใช้ได้เลยแหละ แถมยังฮ๊อตมากๆ อีกด้วย
“สองคนนั้นคงมาสายตามเคยนั่นแหละแกยังไม่ชินหรือไงอยู่กันมาจนถึงปีสี่แล้วนะ”
สิ้นสุดเสียงของแอนนา ไนท์กับใบข้าวก็เดินมาพอดี
“ทำไมเพิ่งมา แล้วนี่มาด้วยกันหรอ” แอนนาถามใบข้าวกับไนท์
“อื้อรถไนท์เสียฉันก็เคยต้องไปรับ แล้วกว่าคุณชายจะเสร็จลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำได้ รอจนลากจะงอก” ใบข้าวบ่นไนท์ยาวเหยียด
“เออ! บอกจะเลี้ยงข้าวไงวะหยุดบ่นสักที บ่นตั้งแต่อยู่ห้อง ในรถ จนมาถึงมหาวิทยาลัย ปากดีแบบนี้ไงถึงไม่มีผัวสักที”
ด้วยความที่ไนท์เป็นผู้ชาย แถมยังปากจัด คำพูดพวกนี้ฉันได้ยินจนชินแล้วแหละ แต่ไนท์จะพูดแบบนี้แค่กับใบข้าวกับแอนนา ส่วนฉันไนท์ไม่เคยพูดไม่ดีด้วยเลย
“ไอ้ไนท์!! ทีหลังฉันจะไม่ไปรับที่ห้องแล้วนะถ้าปากหมาแบบนี้น่ะ”
“พอเลย! หยุดเถียงกันแล้วก็รีบไปเรียนค่ะ สายแล้ว” เป็นแอนนาที่พูดให้ทั้งคู่นั้นแยกย้าย จากนั้นเราสี่คนก็เดินไปเรียนพร้อมกัน
ในขณะที่เดินๆ อยู่ แอนนาก็พูดขึ้น “อื้อนี่พวกแก วันก่อนฉันไปดื่มมา….”
“ไม่ชวน” ใบข้าวรีบขัดทันที
“ฉันก็ไปอ่อยผู้ไหมละ แกไปด้วยก็อดสิยัยข้าว”
“แล้วได้ผู้ไหมคะ” ใบข้าวถามต่อ
“ได้สิ! ขอบอกว่าหล่อมากค่ะ วันนี้เขาชวนฉันไปดื่มด้วย คืนนี้แหละฉันต้องได้กินเขาแน่ๆ”
“เล่ามายาวเหยียดสรุปยังไม่ได้กิน ?” ใบข้าวพูดขัดแอนนาอีกครั้ง
“เออค่ะ! คืนนี้ไม่พลาดแน่ เพื่อเป็นการฉลองที่ฉันจะได้ผู้หล่อ ฉันก็เลยจะชวนพวกแกไปด้วย ^_^”
“ไปค่ะ ฉันไปแน่นอน” ใบข้าวตอบตกลงเป็นคนแรก
“ไนท์ว่าไงอย่าเงียบค่ะ สายตี้แบบนายไม่พลาดอยู่แล้วชะ ?” แอนนาถาม
“เออๆ ไปอยู่แล้ว”
“คนสุดท้าย แก!! ยัยน้ำมนต์ลูกคุณหนูของกลุ่มเรา ว่าไงคะจะไปหรือเปล่า”
“ฉัน….”
“เอาจริง คือแกปฏิเสธตลอดเลยนะ ครั้งนี้ก็ไปด้วยกันไม่ได้หรือไง” ฉันยังไม่ได้ตอบอะไรแอนนาก็พูดขัดขึ้นมา เพราะฉันไม่ค่อยจะไปดื่มกับเพื่อนตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล่ว
“ฉันก็กำลังจะตอบตกลงอยู่นี่ไงเล่า”
การตอบตกลงของฉันทำให้เพื่อนทั้งสามคนถึงกับหันมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อหู
“หูฝาดเปล่าวะเนี่ย” ไนท์พูด
“น้ำมนต์อารมณ์ไหนของแกเนี่ย ปกติแกไม่เคยจะไปกับพวกฉัน”
“ฉันก็อยากไปดื่มบ้างไม่ได้หรือไง” ฉันตอบและอดยิ้มให้กับท่าทางของเพื่อนไม่ได้
หลักจากเลิกเรียนฉันกลับมาที่บ้าน ขออนุญาตพ่อกับแม่ว่าจะไปคลับ ซึ่งพ่อกับแม่ก็อนุญาต ฉันจึงเก็บเสื้อผ้าเพราะจะไปแต่งตัวที่ห้องของใบข้าว
ที่ฉันตัดสินใจไปคลับกับเพื่อนก็เพราะว่าอยากจะไปเปิดหูเปิดตา อยากเห็นอะไรที่มันแปลกใหม่ไม่จำเจ เผื่อจะทำให้ฉันลืมเรื่องนั้นได้บ้าง
ฉันมาหาใบข้าวที่ห้องนั่งคุยเล่นกันพักใหญ่ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะเดี๋ยวแอนนาจะมารับแล้ว
“น้ำมนต์นั่นแกแต่งตัวจะไปคลับหรือจะไปวัด?” พอใบข้าวเห็นชุดที่ฉันใส่ก็ท้วงขึ้นมาทันที
ฉันใส่เสื้อแขนยาวลายหมีพูแล้วก็กางเกงยีน เพราะแต่งตัวไม่เป็น ต่างกับใบข้าวที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูป
“สาบานเลยถ้าแกแต่งตัวแบบนี้ฉันไม่ให้นั่งโต๊ะด้วยแน่ๆ”
“ฉันเอามาแค่ชุดเดียว จะกลับไปเอาชุดที่บ้านก็เสียเวลาพวกแกอีก”
“มานี่ ใส่ชุดฉันก็ได้”
ไม่พูดเปล่าใบข้าวพาฉันเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็เปิดตู้เสื้อผ้าเลือกหาชุดให้ฉัน เมื่อได้ชุดที่ถูกใจแล้วก็ไล่ให้ฉันมาเปลี่ยนชุด
“บะ ใบข้าว ฉันว่าชุดนี้มันโป๊ไปนะ” ฉันค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำอย่างเขินอาย เพราะชุดที่ใส่ทั้งสั้นและโชว์ผิวเนื้อมากจนเกินไป
“สวยมากค่ะเพื่อน มาๆ เดี๋ยวฉันแต่งหน้าให้” ใบข้าวไม่ได้ฟังที่ฉันบอกเลย พอฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็รีบจับฉันมานั่งที่โต๊ะเพื่อแต่งหน้า
“ข้าวฉันว่ามันโป๊ไปจริงๆ นะ”
“เอาน่า นานๆ ทีแกจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา โชว์บ้างนิดหน่อยจะเป็นไรไป”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เอาก็เอา นานๆ ทีจะได้ทำอะไรแบบนี้ ลองดูสักครั้งก็ไม่เห็นจะเป็นไรหนิิ
หลังจากแต่งหน้าเสร็จตอนนี้ฉันกำลังยืนมองกระจกและตกตะลึงกับตัวเองอยู่ มันเหมือนไม่ใช่ฉันเลย ชุดที่ใส่และการแต่งหน้าทำให้ฉันรู้สึกแปลกตากับตัวเองเอามากๆ
แอนนาโทรมาบอกว่าตอนนี้มาถึงแล้วจอดรถรอที่ด้านล่างคอนโด ฉันกับใบข้างจึงรีบลงมาจากห้อง พอมาถึงที่รถก็โดนทั้งไนท์และแอนนาแซวเรื่องชุดที่ใส่จนฉันเขินอายหน้าแดงเถือกไปหมด
#คลับ
“แอนนา ผู้ชายของแกอยู่ที่ไหน”
“เขาโทรมาบอกว่านั่งรออยู่ที่โต๊ะวีไอพี ถ้ามาถึงให้บอกการ์ดหน้าร้านว่ามาหานายใหญ่ เดี๋ยวการ์ดจะพาไปที่โต๊ะ”
“หู้ย! เริสนะผู้แกน่ะ เขาชื่ออะไรหรอ”
“ไม่รู้ ฉันลืมถามชื่อเขา”
“ได้ไง! วันนี้แกจะจับเขากินยังไม่ถามชื่ออีกหรอ”
“เออน่า เข้าไปในคลับกันก่อน”
ฉันสี่คนพากันเดินมาที่หน้าคลับ แอนนาบอกการ์ดตามที่ว่าไว้ จากนั้นผู้ชายร่างใหญ่ที่เป็นการ์ดก็พาเราเดินเข้ามาในคลับ
บรรยากาศข้างในคลับค่อนข้างทึบและมีกลิ่นอับ ไฟที่มีก็เป็นแสงจากไฟเท็กทั้งนั้น ฉันที่กลัวว่าจะหลงกับเพื่อนๆ จึงจับมือไนท์ไว้ ยิ่งใส่ส้นสูงอยู่ด้วยมันยิ่งเดินลำบากในที่มืดๆ แบบนี้
เดินมาไม่นานก็มาถึงที่โต๊ะ ซึ่งมีผู้ชายนั่งรออยู่ เมื่อได้เห็นหน้าชัดๆ ขาของฉันมันก็แข็งทื่อ ตัวเริ่มชา เพราะคนที่นั่งรอที่โต๊ะคือ ‘พี่ติณ’
ปะ เป็นเขาได้ยังไง พี่ติณคือผู้ชายที่แอนนาพูดถึงอย่างนั้นหรอ
“เอ้า! ยัยน้ำมนต์รีบๆ เดินมาสิ” เสียงของแอนนาเรียกชื่อฉัน ทำให้พี่ติณที่ก้มหน้าอยู่เงนหน้าขึ้นมามอง เราสองคนจึงได้สบตากันโดยบังเอิญ
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ไนท์ถามฉันเพราะเห็นว่าฉันเงียบไป ฉันจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “เปล่าไม่เป็นอะไร”
พี่ติณมองฉันครู่หนึ่ง เขาทำเหมือนเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็เบือนหน้าหนี
“รอนานหรือเปล่าคะ” แอนนาเดินไปนั่งข้างๆ กับพี่ติณแล้วถามอย่างออดอ้อน
ส่วนฉันใบข้าวแล้วก็ไนท์ก็เดินมานั่งที่ฝั่งตรงข้าม
มันบ้าที่สุด! ทั้งที่ฉันตั้งใจมาที่คลับเพราะอยากจะลืมเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้น แต่กลับได้มาเจอกับผู้ชายที่ฝากรอยแผลไว้กับตัวเองแบบนี้
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันก็แย่มากพอแล้ว ยิ่งได้มาเจอกันอีกครั้งมันยิ่งทำให้เรื่องราววันนั้นย้อนกลับมาในหัวของฉันอีกครั้ง
“นี่ใบข้าว ไนท์ แล้วก็น้ำมนต์ เพื่อนของแอนนาเองค่ะ”
แอนนาแนะนำพวกฉันให้พี่ติณรู้จัก แต่สายตาของพี่ติณกลับเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉัน จนฉันต้องก้มหน้าหลบสายตาเย็นยะเยือกคู่นั้น