ไม่ว่าจะถามอะไรไปก็ไม่ได้คำตอบกลับมาฉันจึงเงียบจนกระทั่งพี่ติณเช็ดตัวให้ฉันเสร็จ เขาลุกออกจากห้องไปพร้อมกับกะละมัง ส่วนฉันก็ได้แต่ถอดหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปวดหัวมากแค่ไหนในเวลานี้มันกลับนอนไม่หลับ สมองของฉันมันคิดถึงแต่เรื่องงี่เง่าที่เพิ่งขอร้องพี่ติณไป พี่ติณหายไปครู่ใหญ่ ในขณะที่ฉันกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่พี่ติณก็เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเขาถือชามมาด้วย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าชามอะไรเพราะจมูกมันไม่รับรู้กลิ่น จนกระทั่งพี่ติณเอาชามที่ตัวเองถือมาวางลงบนโต๊ะข้างๆ เตียงฉันถึงได้รู้ว่ามันคือข้าวต้ม “กินซะ จะได้กินยา” “เป็นห่วงหนูหรอคะ” ฉันมองหน้าพี่ติณเพื่อรอคำตอบแต่เขากลับหันหน้าหนี “พี่ติณออกไปข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวจะติดไข้หนู” ก่อนหน้านี้ฉันอารมณ์ร้ายพูดประชดประชัน แต่พอเห็นว่าพี่ติณเช็ดตัวให้ เอาข้าวต้มมาให้ ฉันที่เคยปากร้ายก็พูดดีกับเขาอย่างง่ายดาย ต่างจากพี่ติณทั้งที่ไม่พูดดีๆ