ตอนที่ 1
ลักษณะของบ้านที่เป็นแบบทรงยุโรปที่ดูหรูหราอลังการ สามารถเรียกคฤหาสน์ได้เป็นอย่างดี เพราะหลังนี้นั้น ใหญ่โตอัครฐานสมชื่อ พร้อมทาด้วยสีขาวสะอาดทั้งหลัง ปูด้วยกระเบื้องมุงหลังคาทั้งสีน้ำเงินกับแดงและมีพื้นที่กว้างขวางถึงสามไร่ ภายในตัวบ้านไม้ประดับไม้ผล และดอกไม้ชนิดต่างๆ ให้ร่มเงาครื้ม แนวของรั้วคือกำแพงอิฐสีขาวพาดพันเลื้อยระไปด้วยกิ่งของอัญชัญกับเล็บมือนางสีแดงอมชมพูขาว ที่บริเวณโรงจอดรถของบ้านมีรถยนต์ชนิดต่างๆ ล้วนหรูราคาแพงและนำเข้าจากต่างประเทศ จอดเทียบด้วยกันสิบกว่าคัน
ชายหนุ่มผิวขาวจัดรูปร่างสูงโปร่งจัดว่าสูงมากทีเดียว ผมเผ้าเรียบตรง เปิดใบหน้าที่แจ่มใสหน้าตาสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา สมกับเป็นทายาทมหาเศรษฐี ผู้มีชื่อเสียงร่ำรวยติดอันดับทำเนียบของประเทศไทย และหายออกจากบ้านไปหนึ่งเดือน หากแต่วันนี้ ได้กลับเข้ามา ในบ้านอีกครั้ง ทำเอาผู้เป็นแม่ นางใจหายใจคว่ำนัก ด้วยความห่วงใยลูก ที่เขาไม่เคยสนใจและคิดถึงความรู้สึกของคุณหญิงผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้า
เขาชื่อ วินท์ เป็นหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยและมีฐานะชาติตระกูลอีกทั้งทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง ด้วยทรัพย์สินทางด้านกิจการโลจิสติกส์เป็นผู้ให้บริการด้านสินค้านำเข้าและส่งออก
รวมทั้งจัดระบบให้บริการต่างๆช่วยออกเอกสารเป็นตัวแทนในการดำเนินการที่เกี่ยวกับกรมศุลกากรทุกประเภท รวมทั้งมีให้บริการเช่าตู้สินค้าขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ตู้คอนเทนเนอร์
หากแต่สิ่งที่คุณหญิงหวาดกลัวนั่นคือลูกชายคนเดียวไปคว้าเอาใครที่ไหนก็ไม่รู้ นางเลยกลัวนักหนา เกี่ยวเรื่องลูกสะใภ้ที่นางไม่ปรารถนาและไม่มีหัวนอนปลายเท้า หรือสกุลรุนชาติที่สูงส่งพอทัดหน้าเทียมตากันอย่างที่นางยอมรับได้
ขณะที่นิ่งครุ่นคิดอยู่คนเดียวในบ้านพักด้วยประการนี้รู้ถึงภัยอันตรายที่เข้ามากล้ำกรายใกล้ชีวิตลูกชายจากพวกสาวๆนักท่องราตรีสาวสังคมที่คงจะพยายามผูกมัดเพื่อจับตัวลูกชายให้อยู่หมัด เพราะความเป็นหนุ่มโสดของเขา ที่ชอบเที่ยวเล่นตามประสา ทำตัวคึกคะนองเป็นหนุ่มเพลย์บอยระเริงราตรี คบเพื่อนฝูงเที่ยวกลางคืน
นางหวาดกลัวถึงปัญหามันจะบานปลายขึ้นมา นางจะต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันเอาไว้ก่อน
นั่นเองคือสาเหตุที่คุณหญิงจำเป็นต้องติดต่อ บริษัทนักสืบชั้นนำของเมืองไทยเลือกใช้บริการบริษัทนักสืบเอกชนของที่นี่ ให้ช่วยติดตามดูพฤติกรรมและสืบเสาะหาแหล่งที่อยู่ของบุตรชาย ที่ มักหนีออกจากบ้าน ไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ รวมทั้งพวกผู้หญิงที่ ลูกชายเข้าไปพัวพันคบหา ทำให้เกิดความไม่สบายใจแก่นางล้นเหลือ
“นี่พวกคุณ ถ้าอย่างงั้นก็ตกลงทำตามที่ฉันบอกเอาไว้ ก็แล้วกัน ฮึ เพราะที่ฉันเข้ามาพึ่งพาบริษัทของคุณ เห็นว่าใหญ่โตพอเชื่อถือ และไว้ใจได้บ้าง นี่ แล้วก็ อย่ามาทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน ไม่งั้นพวกคุณจะเดือดร้อน”
คุณหญิงบุรีมาศบอกอย่างนั้นกับพนักงานบริษัทนักสืบเอกชน
ครั้นแล้วช่วงเวลาผ่านไปสองอาทิตย์ หลังจากที่ให้บริษัทนักสืบทำงานสืบเสาะตามหาที่อยู่ของบุตรชาย ให้ ก็ทำให้ คุณหญิง นั้นต้องโทร.มาด้วย ใจคอร้อนรน กระวนกระวายใจ อย่างที่สุด ที่ไม่ทราบข่าวคราวลูกชาย จากพวกนักสืบแห่งนี้อีกเลยที่เขาหายออกจากบ้านไปเหมือนเคย และเรื่องทุกอย่างเหมือนเงียบ ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่สุด
นางจึงมาโวยวายใส่
“แล้วนี่คุณพวกคุณจะว่ายังไงงานการให้มันได้เรื่องบ้างสิเพราะฉันว่านะมันก็ผ่านไปนานเป็นสองอาทิตย์แล้ว พวกคุณยังไม่รู้อะไรอีก ว่าลูกชายของฉันแอบซ่อนอยู่ที่ไหน เฮอะ ส่วนเงิน นี่ ฉันก็จ่ายไปล่วงหน้า ให้พวกคุณไปแล้ว เรื่องลูกชายของฉันล่ะ ได้ข่าวคราวบ้าง หรือเปล่า กันยะ พ่อนักสืบ ฮึ แล้วนี่ สืบสาวราวเรื่องถึงไหนแล้ว”
“ใจเย็นๆครับ คุณหญิง นักสืบของเรากำลังได้เบาะแสเกี่ยวกับตัวลูกชายของท่าน”
“เออดี แล้วอยู่ที่ไหน หาเจอหรือเปล่า”
“เรากำลังทราบที่อยู่ครับ แต่ไม่อยากให้ลูกชายของคุณหญิงรู้เท่านั้นเอง”
“ฮึ เร็วๆด้วยนะ ฉันใจร้อน ลูกหายไปทั้งคน นี่เป็นเด็กก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่ เป็นหนุ่มแล้ว ฉันก็ต้องหวงลูกชายเป็นธรรมดานะคุณ”
คุณหญิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เร่งเร้า ชักจะอึดอัดจากการทำงานอืดอาดล่าช้าของบริษัทนี้ เห็นทีจะเลิกใช้บริการแน่นอน ทำงานแบบไม่รับผิดชอบ ทั้งๆที่รับเงินของนางไปแล้ว
“แล้วนี่ จะมีความคืบหน้าบ้างหรือเปล่า ฉันรอคอยดูผลงานพวกเธอตั้งนานแล้วนและจะให้รอดูต่อไป แต่บอก ถ้าไม่ได้เรื่องนี้ ฉันโละทิ้งหมดแน่”
เสียงตอบโต้คุยสนทนานั้น เป็นคุณหญิงบุรีมาศซึ่งใจคอร้อนรนกระวนกระวาย ถามว่าเรื่องคืบหน้าไปถึงไหนหลังจากที่ตกลงว่าจ้างบริษัทนี้
“เอางี้ดีกว่า อีกอาทิตย์ ถ้าไม่ได้เรื่องราวอะไร ฉันจะเลิกจ้าง”คุณหญิงบุรีมาศพูดเสียงเด็ดขาดจากนั้นก้าวฉับออกจากที่ทำการสำนักงานนักสืบ
ที่กลัวและนึกหวาดหวั่นใจที่สุดของคุณหญิงกลัว นางกลัวเพียงอย่างเดียว คือลูกชายจะไปเสียทีเสียเหลี่ยมให้กับแม่ผู้หญิงหยำฉ่าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอาชีพนักร้องนางบาร์ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้นั้นผ่านการซุบซิบใส่หูของนาง จากคนในวงสังคมชั้นสูง ซึ่งแอบนินทาค่อนแคะมานาน กระเซ็นกระสายเข้าไปถึงรูหูของนาง จนเธอแทบจะอดรนทนไม่ได้เช่นกัน เพราะนางจะไม่ยอมรับ แม่ผู้หญิงเหล่านี้อย่างเด็ดขาด
แต่แล้วเรื่องทั้งหมดก็ถูกระงับ เมื่อบริษัทนักสืบเอกชนตรงนั้นปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่สบอารมณ์นางเลิกใช้บริการ พร้อมกับคำด่ากลับไปกับบริการที่ห่วยแตก
แต่หลังจากนั้นนั้นเอง ปาฏิหาริย์ ที่วินท์ก็โผล่ตัวมาที่บ้านเอง โดยไม่ต้องมีใครติดตาม แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ติดบ้านได้กี่วัน แล้วก็หนีไปอีกเหมือนเคย ลูกหนอลูกทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย..
เพราะยังจำภาพได้ดีเมื่อสองเดือนก่อนหลังจากที่หายหน้าไปนาน เขาแวะเข้ามาทีบ้านแล้ว อยู่ไม่ถึงอาทิตย์ พอบทจะไปก็เหมือนนินจา แอบล่องหนหายหน้าไปเฉยๆ โดยไม่บอกกล่าวแก่คนในบ้าน จนบัดนี้ ดีหน่อยที่ครั้งสุดท้าย ครั้งหลังนี้ นางจับได้ทัน เพราะเฝ้าสังเกต จนวินท์ไม่มีทางปฏิเสธ เขามีปัญหาอะไรที่คาใจ ก็ไม่เคยเล่าบอกนาง.. เล่าแต่เรื่องบางเรื่อง แต่ที่อึดอัดไม่สบายใจ ก็ไม่กล้าเล่าให้ฟัง..แล้วนางจะรู้ไหมว่าเขามีปัญหาอะไรที่หนักใจ