EP.07 รูปคู่

1992 คำ
สัมพันธ์เพื่อนรักวิศวะ 07 รูปคู่ "ยัยรัน" "..." "รันดา" เลล่าเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ในมือพร้อมหันมองเพื่อนรักที่นั่งนิ่งเหม่อลอยไม่พูดไม่จาเมื่อเธอเรียกหลายรอบแต่ไร้เสียงตอบรับกลับมา "..." "ยัยรันดา!" "ฮะ...ฮะ!?" รันดาสะดุ้งออกจากห้วงภวังค์แห่งความคิดก่อนจะหันหน้ามองเลล่าเป็นการถามว่ามีอะไร "ฉันเรียกแกตั้งนานแกมัวเหม่ออะไร?" "เปล่า ฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย" "แต่ฉันเห็นแกเหม่อตั้งแต่อยู่ในคลาสเรียนแล้วนะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?" วานิลเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วงเพราะสังเกตเห็นรันดานั้นเหม่อลอยตั้งแต่อยู่ในคลาสเรียนแล้วแต่เธอก็ไม่ได้ซักถามอะไร "ฉันไม่ได้เป็นไร สงสัยจะเมาค้างจากเมื่อคืนแหละเลยรู้สึกมึน ๆ" เธอเลี่ยงตอบความจริงที่ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอคิดมากอยู่แบบนี้ก็ไม่พ้นเรื่องของไคเพราะเมื่อเช้าหลังจากเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนเขาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมามหาวิทยาลัยโดยไม่คิดที่จะบอกเขาแต่อย่างใด และตอนนี้เธอกำลังคิดมากเรื่องความสัมพันธ์ที่คลุมเครือในตอนนี้อยู่ว่าจะหยุดหรือไปต่อยังไงในเมื่อในตอนนี้เธอเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ ก่อตัวขึ้นแล้ว "งั้นเหรอ งั้นแกกลับไปพักก่อนไหมวันนี้ก็ไม่มีเรียนแล้วแหละส่วนเรื่องชอปปิงก็เอาไว้คราวหน้าก็ได้" ยังไงเรื่องสุขภาพของเพื่อนก็ต้องมาก่อนถึงแม้ว่าจะเอะใจบ้างในท่าทางของรันดาที่ดูเหมือนคิดและกังวลอะไรอยู่ในใจแต่ก็เลือกที่จะไม่ซักถามเพราะถ้าพร้อมเธอก็คงจะระบายมันออกมาเอง "อืม ถ้างั้นฉันกลับกาอนะไว้เจอกัน" เธอบอกลาเพื่อนรักทั้งสองคนก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาแล้วเดินเลี่ยงออกไปยังลานจอดรถของคณะ ครืด~ ครืด~ ในระหว่างที่เธอกำลังจะสตาร์ทรถเพื่อขับออกไปเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้าง ๆ ก็ดังขึ้นทำให้เธอหยิบมันขึ้นมาแต่เมื่อเห็นชื่อของไคที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะตัดสินใจวางไว้ที่เดิมโดยไม่ได้กดรับสาย "คุณแม่ขา~" หญิงสาววิ่งเข้าไปกอดเอวของหญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงความสาวและสวยที่ยืนหันหลังอยู่กับเคาน์เตอร์ครัวพร้อมกับขยับใบหน้าเข้าไปหอมแก้มเบา ๆ อย่างออดอ้อน เมื่อหลายวันที่ผ่านมาทั้งพ่อและแม่ของเธอไปคุยงานที่ต่างประเทศทำให้เธอไม่ได้กลับบ้านเลยทั้งสัปดาห์ "หืม? มาได้ยังไงคะเนี่ยรู้ไหมคะว่าคิดถึง" รรินเอ่ยออกมาพร้อมกับหันกลับมามองหน้าลูกสาวพร้อมรอยยิ้มเพราะรันดาไม่ค่อยได้กลับบ้านบ่อยนักเนื่องจากมีเรียนและระหว่างคอนโดมิเนียมของลูกสาวกับบ้านก็ห่างกันพอสมควร อีกอย่างเธอก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหลังจากไปคุยงานมาเมื่อวันก่อน "รู้สิคะ หนูก็คิดถึงคุณแม่กับป้าวาดมาก ๆ เลยค่ะ" หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับเดินเข้าไปกอดแม่บ้านวัยห้าสิบปีที่เลี้ยงดูเธอมาเหมือนกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง "ปากหวานจังเลยค่ะคุณหนูของป้า" วาดส่งยิ้มพร้อมกับกอดตอบร่างเล็กของคุณหนูเอาไว้ เธอรักรันดาราวกับเป็นลูกหลานคนหนึ่งที่เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก "คิกคิก~ แล้วทำอะไรกันอยู่คะหอมมากเลยหิวมากด้วยค่ะ" หญิงสาวเอ่ยถามพลางลูบท้องน้อย ๆ เป็นท่าประกอบในขณะที่เบนสายตามองหม้อที่วางอยู่บนเตาแก๊ส อาหารในหม้อส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมาจนเธอถูกสูดจมูกดม "กำลังทำของหวานอยู่ค่ะ แล้วหนูมาทำไมไม่โทรบอกแม่ก่อนล่ะคะจะได้ทำของโปรดหนูไว้ให้ด้วย" รรินลูบศีรษะทุยเล็กของลูกสาวอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ตอนนี้รันดาจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แต่สำหรับหัวอกคนเป็นแม่ยังไงในสายตาก็ยังเห็นลูกเป็นเด็กอยู่เสมอ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะยังไงฝีมือของคุณแม่กับป้าวาดก็อร่อยที่สุดอยู่แล้วค่ะ" "ป้าวาดดูสิคะลูกสาวคนนี้ปากหวานเป็นที่สุดเลย" รรินหันไปพูดกับแม่บ้านร่างท้วมที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ ๆ "ฮ่า ๆ ปากหวานจริง ๆ ด้วยค่ะ" วาดเองก็ยิ้มเห็นด้วย "คุณผู้หญิงกับคุณหนูออกไปรอข้างนอกก่อนดีกว่าค่ะเดี๋ยวตรงนี้ป้าทำต่อเอง" "ไม่ให้หนูอยู่ช่วยเหรอคะป้าวาด" รันดาเอ่ยถามถึงแม้เธอจะทำอาหารทั้งคาวและหวานไม่เป็นเลยก็ตาม "ไม่เป็นไรค่ะคุณหนูตรงนี้ก็มีสาวใช้อีกหลายคน" "โอเคค่ะเดี๋ยวหนูจะออกไปรอทานฝีมือป้าวาดนะคะ" พูดจบหญิงสาวก็โอบเอวของผู้เป็นแม่เดินออกไปจากห้องครัวตรงไปที่ห้องโถงของบ้านก่อนจะนั่งพูดคุยกันตามประสา "แล้วคุณพ่อไปไหนเหรอคะ?" "เห็นว่าไปตีกอล์ฟกับหุ้นส่วนน่ะ แล้วหนูล่ะทำไมดูหน้าตาไม่สดใสเอาซะเลยล่ะคะมีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังไหม" หญิงสาวที่ได้ยินคำถามของผู้เป็นแม่ก็นิ่งไป เธอรู้ว่ารรินนั้นเป็นห่วงมาก "หนูขอถามอะไรคุณแม่หน่อยได้ไหมคะ" "หืม? ว่าไงคะ" "คุณแม่รู้ตัวได้ยังไงคะว่ารักคุณพ่อ" เพราะพ่อกับแม่ของเธอแต่งงานกันเพราะความเห็นของผู้ใหญ่ไม่ได้เกิดจากความรักอย่างคู่ทั่วไปแต่ก็ครองรักกันยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ และพ่อกับแม่เธอก็ดูจะรักกันมาก ๆ เสียด้วย "ตอนแรกแม่เองก็ไม่มั่นใจหรอกค่ะว่ารู้สึกยังไงกับคุณพ่อเพราะอย่างที่หนูรู้ว่าพ่อกับแม่เราแต่งงานกันเพราะคำสัญญาของทางผู้ใหญ่แล้วก็อย่างที่หนูรู้ว่าคุณพ่อเป็นผู้ชายเย็นชาและปากหนักมาก แต่มันก็จะมีความรู้สึกบางอย่างคล้ายกับเรามีเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเพราะการที่เราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตร่วมกันในหลาย ๆ อย่างมันก็จะทำให้เรามั่นใจว่านั่นแหละคือความรัก ซึ่งบางครั้งเราอาจจะสับสน" เธอนั่งคิดตามคำพูดของผู้เป็นแม่เพราะนิสัยของไคก็คล้ายคลึงกับพ่อของเธอมากแต่ความรักของเธอคงจะไม่สมหวังเหมือนกับแม่ของเธอ "แล้วคุณแม่ใช้เวลานานไหมคะกว่าจะรู้ตัวว่ารักคุณพ่อ" "อืม...สำหรับแม่ แม่ว่ากว่าเราจะมั่นใจว่ารักในแต่ละคู่มันใช้เวลาไม่เท่ากันหรอกค่ะ อยู่ที่อีกฝ่ายว่ารู้สึกยังไงกับเราแล้วแสดงออกกับเราแบบไหนมากกว่า" "...แสดงออกเหรอคะ?" "ใช่ค่ะ เพราะถ้าเรารู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวแต่แรกฝ่ายเราไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเรามันก็มีส่วนที่ทำให้เราเลือกที่จะปิดกั้นตัวเองจากความจริง แต่แม่สำหรับแม่นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่โชคดีเพราะพ่อเขายอมบอกความรู้สึกกับแม่ตรง ๆ ไม่ฉะนั้นแม่เองก็คงจะตัดใจแล้วก็ไม่ได้มีวันนี้มีลูกที่น่ารักแบบหนู" รรินว่าพลางหยิกแก้มลูกสาวเบา ๆ อย่างเอ็นดู "คุณแม่โชคดีจังเลยค่ะ" เธออมยิ้มให้กับชีวิตรักของพ่อกับแม่ที่ดูเหมือนจะราบรื่นดีแต่ก็มีอุปสรรคมากมายที่ร่วมกันฝ่าฟันมาได้ "แล้วหนูล่ะคะมาถามแม่แบบนี้หนูมีแฟนแล้วเหรอ?" รรินส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกสาวเพราะเธอไม่ได้ปิดกั้นหากรันดาจะมีความรักเพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ลูกสาวเธอนั้นเลือกคือสิ่งที่เจ้าตัวมั่นใจแล้ว "ปะ...เปล่าหรอกค่ะ" รันดาตอบอึกอักอย่างลนลานเมื่อเจอคำถามจี้จุด เธอจะตอบได้ยังไงในเมื่อตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเลยกับความรู้สึกตัวเอง "หนูไม่ต้องคิดมากนะคะเพราะพ่อกับแม่ไม่ได้ปิดกั้นหากลูกจะมีความรัก เราสองคนมั่นใจว่าสิ่งที่หนูเลือกเป็นสิ่งที่หนูมั่นใจดีแล้ว" "...แล้วถ้าหนูเลือกสิ่งที่มันผิดพลาดล่ะคะ" "หนูฟังแม่นะคะไม่มีมนุษย์คนไหนที่ไม่เคยผิดพลาด ทุกคนย่อมมีความผิดพลาดกันทั้งนั้นมันอยู่ที่เราจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้ยังไงมากกว่า" "สองคนแม่ลูกคุยอะไรกันอยู่ครับ" เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หันไปมองหน้าประตูก็พบกับร่างสูงของชายวัยกลางคนที่ยังคงความหล่อเหลายืนยิ้มอยู่ "คุณพ่อขา~" รันดาลุกขึ้นวิ่งเข้าไปกอดรณกรผู้เป็นพ่อเต็มแรงด้วยความคิดถึงพร้อมกับหอมแก้มสากเบา ๆ เช่นเดียวกับที่ทำกับรรินผู้เป็นแม่ "ว่าไงครับคนสวยของพ่อ ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านได้หืม หรือว่าค่าขนมหมดแล้ว" รณกรเอ่ยหยอกล้อลูกสาวพร้อมรอยยิ้มทำให้รันดาหน้ามุ่ยอย่างงอน ๆ จนเขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ "หนูมาเพราะคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะไม่ได้มาเพราะค่าขนมสักหน่อย~" "ฮ่า ๆ ครับ ๆ" "คุณขึ้นไปอาบน้ำเถอะค่ะจะได้ลงมาทานข้าวกัน" รรินเอ่ยบอกกับสามีเพราะนี่ใกล้จะได้เวลาอาหารเย็นแล้ว "ครับคุณภรรยา" "เอ๊ะคุณนี่ลูกมองอยู่นะคะ" เธอตีแขนสามีเบา ๆ เมื่อถูกขโมยหอมแก้มใบหน้าสวยก็แดงก่ำอย่างเขินอายถึงแม้รณกรจะทำแบบนี้กับเธอทุกวันแต่มันก็ไม่เคยชินเอาเสียเลย "ไม่ต้องอายหรอกค่ะหนูเห็นบ่อยแล้ว" รันดาอมยิ้มให้กับความน่ารักของพ่อกับแม่ ถึงรณกรจะเป็นผู้ชายที่เย็นชาและก็ปากหนักแต่กับครอบครัวเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนจนเธอยังนึกอิจฉาผู้เป็นแม่ที่มีคู่ชีวิตที่น่ารักแบบพ่อของเธอ @คอนโดรันดา รันดากลับมาถึงคอนโดในเวลาสองทุ่มกว่าหลังจากทานอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อแม่ทั้งที่รรินอยากให้เธอนอนที่บ้านแต่เธอให้เหตุผลว่าพรุ่งนี้มีเรียนเช้าเลยขอกลับมาที่คอนโดแทนเพราะใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่าที่บ้าน มือเรียววางกระเป๋าสะพายลงบนเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเพราะเธอปิดเสียงเอาไว้แต่สายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็มีแค่สองสายเท่านั้นกับข้อความของกลุ่มที่เด้งขึ้น เลล่า : ยัยรันแกเป็นไงบ้าง? ดีขึ้นรึยัง วานิล : ถ้าไม่ไหวโทรบอกฉันกับเลล่าเลยนะเป็นห่วงมาก เธออ่านข้อความของเพื่อนรักก่อนจะอมยิ้มออกมาบาง ๆ แล้วกดตอบกลับไปแต่ในระหว่างที่เธอจะวางโทรศัพท์ลงนั้นโพสต์แจ้งเตือนของแอปพลิเคชันดังก็เด้งขึ้น ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอนิ่งไปเพราะเป็นภาพของไคกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกถ่ายในผับของวันนี้พร้อมกับแคปชันที่ทำให้เธอชะงักไปไม่ถูก 'แอบไปเห็นพี่ไคแห่งวิศวะมาเลยถ่ายมาฝาก อยากรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ใช่ตัวจริงของราชาวิศวะของเรารึเปล่า' ------- อ่าวอีไคคคคค อ่านแล้วอย่าลืมกดใจ + คอมเมนต์ให้ไรท์ด้วยน้าต่อไปจะพยายามมาบ่อยๆ นะคะถ้ากำลังใจดี เนื้อหามันไม่สนุกมันไม่โอเครึเปล่าคะ เรื่องนี้ดูเงียบเหงามากเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม