รักอุ่นใจนายเย็นชา 4

1595 คำ
ีัรักอุ่นใจนายเย็นชา 4 WEL TALK คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ย? ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อจนกระทั่งได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าขาวใสที่ไร้เครื่องสำอางของเธอทำให้ผมแทบจะลืมจังหวะหายใจ ดวงตาเศร้าๆของเธอทำเอาผมอยากจะเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าแล้วคว้าเธอเข้ามากอดแน่นๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่รักอิสระมาก ไม่อยากจะเอาชีวิตไปติดกับใครหรือเอาใครมายึดติดกับผมจนกระทั่งพ่อบอกให้ผมแต่งงานผมปฏิเสธอย่างเดียวโดยไม่ยอมฟังอะไรเลยแต่แล้วโลกทั้งใบของผมก็แทบจะหยุดหมุนเมื่อรูปถ่ายใบหนึ่งถูกวางลงตรงหน้า ใช่แล้วล่ะผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่เห็นรูปถ่ายใบนั้น จะว่าบ้าก็ได้นะแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมได้ที่อยู่และช่องทางติดต่อต่างๆจากพ่อ ผมตามเธอเงียบๆทั้งเข้าไปทานข้าวที่ร้านเดินตามตอนที่เธอเดินห้าง บางทีที่รู้ว่าเธอไปเที่ยวกับเพื่อนผมก็ตามไป จนกระทั่งวันที่ทั้งสองครอบครัวนัดทานข้าวกันนั่นแหละ ผมถึงได้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่กับพ่อของเธอและมันคงมีอีกหลายๆเรื่องที่ผมยังไม่รู้ “โอ๊ยๆๆ เจ้าชายเรานั่งจ้องโทรศัพท์รอเมียโทรมาว่ะ ฮ่าๆๆๆ” เสียงกวนๆของไอ้คิสดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงแซวนรกของเพื่อนผมดังตามมา “เขาว่าไงล่ะ” “น่าจะกำลังกลับมั้ง” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเก็บมือถือไว้ เดินออกไปที่ขอบระเบียงร้าน อ้อตอนนี้ผมอยู่ผับของตัวเองที่จะพาทับทิมมาครั้งก่อนนั่นแหละแต่ว่าไม่ได้มาเพราะฝนตกแล้วเหมือนยัยนั่นจะอึดอัดใจผมเลยพาเธอไปส่งที่คอนโด ตอนนี้ผมกวาดสายตาไปทั่วร้านก่อนจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งดื่มอยู่คนเดียวรอบๆข้างเธอมีผู้ชายจ้องอยู่ตามัน ผมยืนจ้องผู้หญิงคนนั้นไม่วางตากระทั่งมีหญิงชายคู่หนึ่งเดินฝ่าผู้คนเข้าไปหาเธอ “กูลงไปข้างล่างนะ” ผมบอกเพื่อนก่อนจะเดินลงไปยังข้างล้างแล้วเบียดร่างไปยังจุดที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ ใช่แล้วล่ะผู้หญิงคนนั้นคือทับทิมยังไงล่ะ ตลอดทางที่เดินไปผู้หญิงรอบข้างๆส่งสายตายั่วยวนมาให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงควงใครสักคนที่ถูกตาไประบายความใคร่แต่ตอนนี้ผมเลือกที่จะเดินไปหาทับทิมอย่างแน่วแน่ จะว่าผมเลวก็ได้นะผมมันก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีอารมณ์เหมือนคนทั่วๆไป “สี่ปีที่ฉันเรียนพร้อมกับทำงานเขาไม่เคยแม้แต่จะสนใจฉัน แต่พอบริษัทเขามีปัญหาเลยให้ฉันไปแต่งงานกับลูกเพื่อนเขางั้นเหรอ ก็รู้หรอกว่าเขาไม่ได้รักฉันเหมือนเหมือนลูกของเขาแต่ทำแบบนี้มันคงไม่ต่างจากขายฉันหรอกนะ” ทับทิมระบายความในใจออกมามือเล็กคว้าแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด พอกำลังจะยกแก้วที่สองผมเลยยื่นมือไปดึงแก้วออกจากมือเธอก่อนจะมองดุๆ “เอาคืนมา!” “ดื่มมากไปแล้ว พอเลย” ผมวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะก่อนจะหันไปแนะนำตัวกับเพื่อนทับทิม “สวัสดีครับ พี่ชื่อเวลนะ เพื่อนทิมหรอ” “เอ่อ...ค่ะ เพื่อนทิม” “ยินดีที่ได้รู้จักนะเรียกพี่เวลก็ได้นะ ทับทิม!!” ผมเรียกทับทิมเสียงเข้มเพราะระหว่างที่ผมคุยกับเพื่อนเธอคนที่เริ่มเมาแอบยื่นมือมาหยิบแก้วเหล้าไปดื่มต่อซะงั้น “พี่เป็นอะไรกับทิมคะ” “เราจะแต่งงานกันน่ะ” “พี่เองงั้นเหรอ?” เพื่อนทับทิมถามพรางทำหน้าคิดไปด้วย “ทิมน่ะมันเกลียดการโกหกที่สุดพี่รู้มั้ย? มันกลัวโดนคนที่รักและไว้ใจหลอกถ้าพี่ไม่มั่นใจยกเลิกงานแต่งเถอะ ฉันไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเองเจ็บหวังว่าพี่คงจะเข้าใจนะ” **“แล้วเราเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ยล่ะ?”** “ทิมหยุดดื่มได้แล้ว ทับทิม!” ผมเริ่มดุคนเมาจริงจัง เผลอเป็นไม่ได้จริงๆแอบหยิบมาดื่มตลอดเพื่อนเธอสองคนส่ายหน้าอย่างระออ “ปล่อยให้มันดื่มเถอะ มันมีเรื่องเครียดมันไม่บอกใครหรอกแต่มันจะดื่มแบบนี้แหละถ้าไม่ไหวแค่รอมันระบายออกมาแล้วอยู่ข้างๆมันก็พอ” ผู้ชายคนนั้นบอก สายตาที่สองคนนี้มองทับทิมมันมีทั้งความเป็นห่วงความรักของมิตรภาพ เธอโชคดีจริงๆที่มีเพื่อนดีๆแบบนี้ “เอ่อ พี่ขอเบอร์เราสองคนไว้หน่อยเผื่อติดต่อทิมไม่ได้” ผมยื่นมือถือตัวเองให้เพื่อนทับทิม ก่อนจะหันไปมองทับทิมที่เริ่มจะนั่งไม่ตรงแล้ว ผมยกแขนโอบไหล่ทับทิมไว้ก่อนจะดึงมาพิงตัวเองไว้ อาจจะเพราะผมยืนใบหน้าเล็กเลยซบลงที่หน้าท้องพอดี เสียงกรี๊ดดังขึ้นรอบๆข้างแต่ผมไม่สนใจหรอก สนใจก็แต่คนตรงหน้านี่แหละขนาดนั่งยังไม่ค่อยโอเคยังจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าอีก “ดื้อจริง” ผมลูบผมทับทิมเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับมือถือคืนจากเพื่อนยาหยี “ถ้ายังไงเดี๋ยวพี่พาทิมกลับเลยแล้วกันนะ จะกลับบอกผู้จัดการลงบิลพี่ไว้นะ” “ฝากยัยทิมด้วยนะคะ เราว่าจะกลับเลยเหมือนกันค่ะ” “อ๋อ แล้วกลับกันยังไงให้คนของพี่ไปส่งมั้ย” “เราขับรถมาน่ะค่ะ ไม่ต้องห่วง” “งั้นพี่พาทิมไปก่อนนะ ทิมกลับได้แล้ว” ผมค่อยๆพยุงทับทิมให้ยืนมือก็หยิบกระเป๋าสะพายทับทิมขึ้นมา ยังดีหน่อยที่ทับทิมยังพอมีสติที่เดินได้อยู่แต่ก็นะผมไม่วางใจให้เดินเองหรอกผู้จัดการร้านวิ่งมาทางผมอย่างตกใจ “คุณเวลครับ รบกวนเซ็นเอกสารการซื้อของให้หน่อยครับ” “อ๋อ แล้วเอกสารอยู่ไหน” ระหว่างถามผู้จัดการร้านผมก็ต้องคอยดึงทับทิมเข้ามาใกล้ๆเพราะยัยนั่นเริ่มเซไปอีกทางแล้วไหนจะสายตาพวกผู้ชายคนพวกนั้นที่มองเธอล่ะ ผมคงจะอยู่นิ่งได้หรอกนะ “อยู่บนห้องทำงานแล้วครับ” “เดี๋ยวผมขึ้นไปเซ็นให้ ทิมมานี่ก่อน” โอ๊ย เหมือนผมมีลูกเลยล่ะแบบนี้น่ะ ผมพาทับทิมขึ้นมาห้องทำงานด้วยอย่างทุลักทุเลเรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาดูแลทับทิมล่ะผมอยู่ทั้งคนผมดูแลของผมเองได้น่า “กูว่าพายุเข้าว่ะ แม่งไอ้เวลพาผู้หญิงขึ้นมาห้องทำงาน” “ก็คนนี้ตัวจริง มันก็ต้องพามาสิ” ผมไม่สนใจเสียงแซวของเพื่อนปากนรกตัวเองก่อนจะพาทับทิมไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานที่ไม่มีใครเคยได้นั่งนอกจากผม นั่นยิ่งทำให้เพื่อนผมแซวหนักกว่าเดิมผมไม่น่าให้พวกมันขึ้นมาดื่มที่นี่เลยจริงๆ ผมอ่านเอกสารของที่ต้องซื้อแต่ก็ต้องสะดุ้งหันไปมองด้านหลังเมื่อทับทิมทำมือถือตกเธอลงจากเก้าอี้แล้วก้มลงไปเก็บมือถือขึ้นมา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รับสายแต่ที่น่าแปลกใจคือคนที่โทรมาคือพ่อเธอนะ ทับทิมเดินเซๆไปทางตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมห้องมือเรียวหย่อนมือถือลงในตู้ปลาอย่างไม่ใส่ใจ ทับทิมเดินกลับมาทางผมแขนเล็กโอบเข้าที่เอวผมใบหน้าหวานซบลงที่แผ่นหลัง ผมแอบร้อนไปทั้งหน้าเธอเป็นคนแรกที่เข้ามาใกล้ชิดผมและทำให้ผมใจเต้นแรงมากถึงขนาดนี้ “อยากกลับบ้าน” เสียงหวานบอกอ้อแอ้ ผมใช้มือข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ส่วนมืออีกข้างก็ถือเอกสารพยายามเช็คให้เร็วที่สุดจะได้พาคนขี้อ้อนกลับเร็วๆ “แปปนึงนะ ขอเซ็นเอกสารก่อน” “โฮ๊ยๆๆ พี่เวลหวานจังเลยยย” “ถ้ามึงไม่กัดกูมันจะตายมั้ยวะ” ผมตะโกนถามไอ้คิสมันไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะอย่างสะใจรวมถึงเพื่อนคนอื่นๆด้วย ผมเลิกสนใจพวกมันก่อนจะหยิบปากมาเซ็นลงบนแผ่นกระดาษ “กลับเลยมั้ย?” “ไม่ๆ อยากดื่มต่อ” “ไม่เอา กลับได้แล้วมาอย่าดื้อ พวกมึงกูกลับนะเว้ย” ผมตะโกนบอกเพื่อนก่อนจะประคองทับทิมออกจากห้องทำงานไม่วายได้ยินเสียงแซวเสียงโห่ของเพื่อนตามมาด้วย พวกมันคงปากว่างล่ะมั้งเลยเห่าหอนแบบนี้น่ะ ผมอุ้มร่างคนเมาวางบนเตียงก่อนจะย่อตัวถอดรองเท้าออกให้ ทับทิมพลิกตัวนอนตะแคงไปทางด้าน ผมดึงผ้าห่มคลุมร่างทับทิมไว้ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ สงสัยล่ะสิว่าผมพาทับทิมกลับมาที่ไหน ที่นี่ห้องผมเองแหละ พรุ่งนี้ผมมีเรียนอีกชีวิตผมวนเวียนอยู่แค่นี้แหละพ่อกับแม่อยู่บ้านใหญ่ทำงานกลับดึกออกงานแทบจะทุกคืนผมเลยตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คนเดียวที่คอนโดตั้งแต่เข้าม.ปลายแล้วล่ะ “ฝันดีนะครับ เจ้าหญิง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม