6
สมรส(เมีย)แสนชัง
ตอนที่ 6 รองรับอารมณ์ผู้ชายใจร้าย
“แกไม่ใช่คนโง่ ไปสืบเอาเองแล้วกัน แต่ถ้าแกไม่เชื่อฉันก็แล้วไป โตๆ กันแล้ว บอกความจริงไม่เชื่อก็แล้วแต่แก” คุณพิมพ์แก้วพูดอย่างหงุดหงิด
หลังจากมีเรื่องกับมารดาวันนั้น พันทัพก็เข้าหน้าบุพการีไม่ติดเอาเสียเลย เหตุผลคือเขาผิดเต็มประตูนี่แหละ
“ว้าย! คุณพัน” โมโหหงุดหงิดไปหมด เขาไม่รู้จะไปลงกับใคร ก็ลงกับคนที่ทำให้เขาหงุดหงิดนี่แหละ
“เป็นอะไรนักหนา ดีดดิ้นขนาดนี้ ไม่อยากให้ฉันแตะต้องตัวเธอหรือไง”
“คุณเมาแล้วก็ควรจะไปนอน”
“ฉันนอนแน่ นอนกับเธอไง ทำให้ฉันโดนคุณแม่ด่าว่าโง่ เธอคงกำลังหัวเราะสะใจฉันอยู่ใช่ไหม”
“กังวานไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอยู่เลยค่ะ” เธอพูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็อุ้มเธอขึ้นพาดบ่า
“คนป่าเถื่อน!” เธอกรีดร้อง
จุดมุ่งหมายคือเรือนเล็กหลังเดิม ยิ่งโดนมารดาต่อว่า ขู่จะยกสมบัติให้เด็กในบ้าน เขาก็ยิ่งอยากระบายอารมณ์กับเธอให้สาสม
กังวานโดนโยนโครมไปบนเตียงนอนหนานุ่ม เขาเข้าไปกดทับแนบชิดเธอกับพื้นเตียง ไม่ให้เธอดิ้นหนีไปไหนได้ แล้วสัมผัสร้อนแรงของเขาก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดค่ำคืน
เขาไม่เคยพอที่หนึ่งครั้ง แต่จัดให้เธอถึง สอง สาม สี่ยกจนเธอแทบคลานลงจากเตียง
“จืดชืดยิ่งกว่าแกงจืดที่ฉันเคยกิน จำเอาไว้เป็นเมียฉันต้องตอบสนองฉันทุกที่ทุกเวลาที่ฉันต้องการ” เขาผลักไสเธอลงจากเตียง หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมาย ร่างกายของเธอบอบช้ำและร้าวรานไม่ต่างจากหัวใจ เธอทำผิดอะไร เขาถึงได้ทำกับเธอแบบนี้ แค่มารดาของเขาต้องการเธอเป็นสะใภ้ ก็ทำให้เขาโกรธขนาดนี้เชียวหรือ
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอฮุบสมบัติที่ควรจะเป็นของฉันไปอย่างแน่นอน” เขาเกลียดความรู้สึกที่เหมือนพวกขี้อิจฉา โลภอยากได้สมบัติ ทั้ง ๆ ที่ทรัพย์สมบัติพวกนั้นควรจะเป็นของเขา ซึ่งเป็นทายาทโดยชอบธรรมของมารดา แต่เขาต้องมาแก่งแย่งกับเด็กในบ้าน
เรื่องที่มารดาพูดไม่ใช่เขาจะไม่สืบและไม่อยากรู้ความจริง เขาก็ไม่ได้โง่ให้ใครหลอกได้ง่ายๆ แต่ที่เขายังไม่ยอมเลิกรากับกนกวดี เพราะอยากทำให้ใครอีกคนได้เจ็บช้ำน้ำใจ โทษฐานที่เธอริอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่น
“พี่พันต้องแต่งงานกับนังเด็กนั่นจริงๆ เหรอคะ”
กนกวดีรู้เข้าก็หงุดหงิดใจเป็นอันมาก
“จริงครับ ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะยกทรัพย์สมบัติให้กังวานทั้งหมด แล้วพี่จะไม่ได้อะไรเลย”
“ทำไมคุณป้าทำแบบนั้นล่ะคะ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย พี่พันเป็นลูกนะคะ ไม่ใช่นังเด็กนั่น หรือว่าเด็กนั่งออดอ้อนออเซาะคุณป้า แล้วก็ยุแยงตะแคงรั่วให้คุณป้าบังคับพี่พันแต่งงาน ทำให้เราต้องเลิกกัน” เธอระแวงและคิดว่าเป็นจริง เพราะพิมพ์แก้วแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดเธอ ไม่ชอบหน้าเธอ
“พี่ไม่รู้ แต่พี่จะแต่งงานเพื่อไม่ให้สมบัติตกไปเป็นของเด็กนั่น แต่งแล้วพี่จะให้เด็กนั่นเซ็นเอกสารยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้พี่ แล้วพี่ค่อยหย่า” พันทัพหาทางออกเอาไว้ให้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว
“ก็ดีนะคะ” เธอเห็นด้วย ระหว่างเธอได้พันทัพแต่ตัวไม่มีอะไรเลย กับยอมให้เขาแต่งงานแล้วค่อยเลิกกันแต่มีทรัพย์สมบัติมากมายเหมือนเดิม เธอยอมให้เขาแต่งงานดีกว่า
“แล้ววดีไม่หึงหวงพี่เหรอครับ”
“ทั้งหึงทั้งหวงเลยค่ะ แต่วดีไม่อยากให้ใครมาชุบมือเปิบทรัพย์สมบัติที่จะเป็นของพี่พันเพียงคนเดียวไปน่ะสิคะ”
“ถ้าพี่มีแต่ตัว ไม่เอาอะไรเลย วดียังจะรักพี่อยู่ไหมครับ” เขาเอ่ยถาม
“วดีรักพี่พันที่พี่พันเป็นพี่พันนะคะ ไม่ใช่รักเพราะทรัพย์สินเงินทอง ถึงพี่พันไม่มีอะไรวดีก็รัก แต่พี่พันจะยอมทิ้งทรัพย์สมบัติตั้งมากมาย แล้วออกมาเป็นพนักงานธรรมดาๆ กินเงินเดือนหมื่นกว่าบาทเหรอคะ ดีไม่ดีต้องเตะฝุ่นเดินหางานไปทั่ว เพราะงานในยุคนี้งานหายากนะคะ”
“พี่มีความสามารถ คงไม่เตะฝุ่นหางานหรอกครับ” เขาบอกเธออย่างหยิ่งๆ เขาก็มีศักดิ์ศรี เป็นคนมีการศึกษา มีความสามารถ ถึงไม่มีบริษัทของมารดา เขาก็สามารถหางานดีๆ ทำได้ และใครๆ ก็อยากได้คนที่มีความสามารถอย่างเขาด้วยกันทั้งนั้น
เขาเองมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่ไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวแต่แรก จริงๆ ถึงมารดาไม่ยกอะไรให้ เขาก็ไม่ได้อดตาย แต่กนกวดีอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ คิดว่าธุรกิจทั้งหมดที่เขาดูแลมาจากครอบครัวแต่ดั้งเดิม
“วดีรู้ค่ะว่าพี่พันเก่งและมีความสามารถ แต่วดีก็ไม่อยากให้พี่พันทิ้งทุกอย่างกลายเป็นคนพ่ายแพ้ แล้วให้เด็กเมื่อวานซืน ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมหัวเราะเยาะเอานะคะ เด็กนั่นไม่ได้เป็นอะไรกับครอบครัวของพี่พัน จู่ ๆ จะมาชุบมือเปิบ มีเงินมีทองใช้ไปสบายตลอดชาติ มันยุติธรรมกับทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลอุ่นตะวันอย่างพี่พันเหรอคะ”
กนกวดีชักแม่น้ำทั้งห้า เมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มคิดจะถอนตัวจากสมบัติเพราะรักศักดิ์ศรี โดยการจะไม่เอาอะไรเลย ถ้าเขาทำแบบนั้น เธอก็พร้อมที่จะทิ้งเขาเช่นกัน ใครจะไปกัดก้อนเกลือกิน ลำบากยากเข็ญไปกับเขากันเล่า
“ครับ พี่ไม่ยอมหรอกครับ” เขาตอบกลับไป ทำให้กนกวดีลอบผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถึงกนกวดีไม่พูดเช่นนี้ พันทัพก็จะไม่ยินยอมให้กังวานเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่สมควรจะเป็นของเขาเด็ดขาด แต่ประโยคคำถามที่เขาได้พูดคุยโต้ตอบกับดาราสาว ซึ่งกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ก็ทำให้เขาได้รู้ความนึกถึงหลายๆ อย่างจากเธอ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกต แต่พอสมเกต เขาก็เห็นว่าเธอไม่คู่ควรกับเขาเอาเสียเลย
การแต่งงานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจกับที่คุณพิมพ์แก้วต้องการ ท่านยิ้มสมใจยิ่งนักที่ทำให้ลูกชายแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านต้องการ และสลัดดาราสาวที่แสนโด่งดังเรื่องฉาวโฉ่ออกไปจากชีวิตลูกชายได้
ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมถึงจะไม่รู้ว่าพันทัพคิดเช่นไร คิดว่าแต่งแล้วจะหย่าอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก เพราะสำหรับท่านแล้ว หากพันทัพหลวมตัวแต่งแล้วก็ต้องแต่งเลย และท่านคิดว่ากังวานจะทำให้ลูกชายของท่านรักได้ไม่ยาก ความใกล้ชิด ความดีงาม ความเรียบร้อนอ่อนหวานและการปรนนิบัติพัดวี ทำให้ผัวรักผัวหลง มัดใจผัวมานักต่อนักแล้ว ไหนจะรสมือที่ยอดเยี่ยมในกานทำอาหารของกังวานอีก ทุกวันนี้พันทัพก็ติดการรับประทานอาหารที่บ้าน เขาเอ่ยชมเสมอว่ากับข้าวที่บ้านอร่อยกว่าข้างนอกเสียอีก
โดยลืมคิดไปว่าทุกวันนี้คนที่ลงครัวทำกับข้าวให้คนในครอบครัวรับประทานตั้งแต่หัวรุ่งคือกังวาน แม้เธอจะทำงานประจำ แต่อาหารมื้อเช้า และวันหยุดก็เป็นฝีมือของเธอ
การแต่งงานของพันทัพกับกังวานคือการจดทะเบียนสมรสกันเท่านั้น ไม่มีงานแต่งอย่างที่ควรจะเป็นเพราะพันทัพไม่ต้องการ และคุณพิมพ์แก้วก็ไม่ได้ว่าอะไร จะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ จะแต่งตอนนี้หรือในอนาคต ยังไงนางก็ได้ลูกสะใภ้ที่ชื่อกังวานเรียบร้อยแล้ว
“เราสองคนน่ะเป็นสามีภรรยากันแล้ว แม่ขออวยพรให้ลูกทั้งสองจงมีแต่ความสุขมาเจริญ มีชีวิตครอบครัวที่ดีมีหลานให้แม่อุ้มไวๆ นะจ๊ะ” ประโยคของคุณพิมพ์แก้วเต็มไปด้วยความเอื้อเอ็นดูลูกชายและลูกสะใภ้เป็นอันมาก
ท่านไม่สนใจหรอกว่าลูกชายจะมีสีหน้าเช่นไร แต่งแล้วคือแต่งเลย ท่านไม่เคยมองอะไรพลาด รับรองว่าไม่หย่าแน่นอน คนที่จะไม่หย่าก็คือพ่อตัวดีของท่านนั่นแหละ
“ที่ฉันแต่งงานกับเธอ เพราะถูกคุณแม่บังคับหรอกนะ แต่ฉันจะขัดขวางทุกทางไม่ให้คนเห็นแก่เงินอย่างเธอเอาอะไรของคุณแม่ไปได้เด็ดขาด” เมื่อมารดาออกไปจากห้องแล้ว เขาก็หันมาเล่นงานคนข้างๆ ในทันที
“กังวานไม่เคยคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของคุณท่านหรือคุณพันเลยนะคะ”
“อย่ามาโกหกตาใส ฉันรู้เท่าทันคนอย่างเธอ ที่ฉันแต่งงานกับเธอเพราะฉันมีความจำเป็น ไม่ได้คิดพิศวาสอะไรเธอนักหรอก หลังแต่งงานเธอจะต้องเซ็นสัญญายกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ฉัน เธอจะไม่เอาทรัพย์อะไรไปเลย หลังจากเราหย่าขาดจากกัน เธอทำได้ไหมล่ะ”
“คุณพันต้องการให้กังวานเซ็นอะไรกี่ฉบับ กังวานก็เซ็นให้คุณค่ะ คุณจะได้สบายใจ เพราะกังวานขอยืนยันตรงนี้ว่ากังวานจะไม่เอาทรัพย์สมบัติอะไรของคุณเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว”
เธอมีงานทำและพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง หากวันไหนเขาจะเฉดหัวเธอออกไปจากบ้านหลังนี้ เธอก็คงต้องไปตามทางของเธอ สิ่งเดียวที่เธอระลึกนึกถึงคือบุญคุณของคุณพิมพ์แก้วที่ให้เธอ ท่านให้ที่อยู่ที่กินกับเธอตั้งแต่เล็กแต่น้อย แถมยังส่งเสียให้เธอได้เล่าเรียน พอมีวิชาความรู้ติดตัว ต่อไปภายภาคหน้าจะได้ไม่ลำบากก เพราะมีวิชาติดตัวหาเลี้ยงตัวเองได้