5
สมรส(เมีย)แสนชัง
ตอนที่ 5 เรือนเล็กแสนเร่าร้อน
“คุณพันปล่อยนะคะ” เธอร้องเสียงหลงเมื่อถูกกดไปกับเตียงนอนกว้าง มือหนาของเขากดมือน้อยของเธอเอาไว้แน่น ร่างแกร่งสอดแทรกทาบทับเข้าตรงหว่างขา ใช้แรงชายที่เหนือกว่าทำให้เธอหนีไปไหนไม่ได้
“ฉันได้ยินแต่เธอบอกให้ฉันปล่อย แต่การกระทำของเธอมันสวนทางกับคำพูดนะ เธอไม่ได้อยากให้ฉันปล่อยหรอก เธออยากให้ฉันจับเสียมากกว่า”
เขาซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นสาบสาวกระตุ้นความกระสันอยากในเรือนกายของเขาให้แข็งคึกรุนแรง
ในเมื่อเธอต้องการแบบนี้เขาก็จะสนองให้อย่างถึงอกถึงใจ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ มือหนาจัดการกระชากเสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอออกจากกายอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้กังวานเปลือยเปล่าในเวลาอันรวดเร็ว
“คุณพัน ปล่อยนะคะ อย่าทำแบบนี้เลย คุณเกลียดกังวาน ไม่ชอบกังวานไม่ใช่เหรอคะ แล้วจะทำแบบนี้ทำไม”
เขาไม่ตอบและคงไม่มีอารมณ์อยากตอบเมื่อริมฝีปากหนาเลื่อนลงไปสัมผัสกับยอดอกสวย เขาอ้าอมดูดรัดอย่างเร่าร้อน ขบกัดฟอนเฟ้นทั้งมือและปากประสานกันอย่างรุกเร้ารุนแรง ทำให้เธอเสียวซ่านเป็นที่สุด
อาจเพราะสัมผัสของเขามันทำให้เธอนึกถึงค่ำคืนนั้น เธอจึงตัวสั่น เสียวสะท้านเมื่อเขากดปากร้อนลงบนหน้าท้องเนียนละเอียดของเธอ
“อื้ม... คุณพัน” เธอหลุดเสียงครางออกมาด้วยความวาบหวามที่ก่อเกิดขึ้น ร่างน้อยสะดุ้งเมื่อเขากดปากลงกับหน้าท้องแบนราบ ปลายลิ้นสากร้อนลามเลียจนเปียกชุ่ม ความรู้สึกของเธอคือความสะท้านหวามไหวที่ก่อตัวขึ้นจากช่องท้อง ตีวนขึ้นมายังยอดอกสีสวยที่นิ้วแกร่งของเขาเขี่ยเบาๆ จนมันแข็งเป็นไต
เธอสั่นสะท้านเมื่อใบหน้าของเขาเลื่อนขยับลงไปตรงเนินอวบอิ่มกลางร่างสาว
เธอไม่คิดว่าเขาจะขยับลงไปแนบชิดตรงสัดส่วนนั้นเพราะมันเป็นจุดที่น่าอายเป็นที่สุด
ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาทำให้เธอตัวสั่น ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
“อื้อ...” เธอครางออกมาไม่เป็นส่ำ เมื่อปลายลิ้นของเขาสัมผัสซุกแทรกเข้าไปบดบี้กับยอดเกสรสวาทอันหยาดเยิ้ม
ลิ้นหนาปาดเลีย ดูดรวบเส้นไหมอ่อนหวานของเธอจนเปียกชุ่ม สร้างความสุขสมให้เธอเป็นอันมาก
ยามที่ลิ้นของเขาสอดแทรกชำแรกเข้าออกในร่องสวาทอันฉ่ำแฉะ เธอก็ร้องครางออกมาไม่เป็นส่ำ
เขาไม่คิดว่ากลิ่นกายสาวของเธอจะหอมระรวยรินถึงเพียงนี้
กลิ่นสวาทของสาบสาวสร้างความรัญจวนให้เขาเป็นอันมาก เขาโบกลิ้นร้อนเข้าหาระรัว สร้างความเสียวซ่านให้เธออย่างต่อเนื่อง
กลีบฉ่ำสะท้านสะเทือนด้วยความวาบหวาม ยามที่นิ้วและลิ้นของเขาวนเวียนเล้าโลมสร้างความสุขสมให้เธออย่างต่อเนื่อง
เขาเลียไล้ไปยังซอกขาด้านใน แทรกเข้าหาบดบี้ขยี้ปุ่มกระสันแรงๆ จนเธอดิ้นพล่าน
มือหนาลูบไล้ลงไปตามสะโพกผายงอนงาม ละเลียดเลียไปตามจุดสัมผัสที่สร้างความเสียวซ่านให้เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจของเธอสั่นระริก ทรมานจนแทบขาดใจกับสัมผัสและการเล้าโลมของเขา ร่างกายของเธอดีดเด้งไปตามการควบคุมของเขา เขาอยากให้หยัด อยากให้ถอยหนี ก็แค่ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ไปตามสัดส่วนอันแสนอ่อนไหว
ร่างกายสาวฉ่ำเยิ้มผลิตน้ำหวานออกมาต้อนรับการรุกรานของชิวหาร้อน รอคอยแก่นกายชายที่จะแนบชิดเข้ามาพักพิงอิงแอบ ฝากฝังในร่องฉ่ำจนมิดเม้น
เธอสัมผัสได้ถึงส่วนปลายของความแข็งแกร่งที่เสียดสีกับปากทางสวาทอันหยาดเยิ้ม ในขณะที่เขาจะกดแทรกลงมาหา สร้างความเสียวซ่านให้เธอสุดจิตสุดใจ
“อ๊า... คุณพัน” เธอร้องครางเรียกชื่อเขาด้วยความกระสันเสียว ยามที่เขาเริ่มขับเคลื่อนในร่างกายของเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะขยับกายแรงขึ้น เร็วขึ้น ทำเอาเธอร้องครางไม่เป็นส่ำ ร่างกายของเธอสั่นระริก และทุกอย่างก็หยาดเยิ้มแตกพร่าอย่างรุนแรง
เธอหอบหายใจสะท้าน และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอ จับเธอคลานเข่าก่อนจะกระแทกเข้ามาอีกครั้ง จับสะโพกผายของเธอรวบเอาไว้แน่น แล้วโยกกายเขาออกเป็นจังหวะล้ำลึกมิดเม้น หยาดความรักกำลังไหลบ่าเข้าในร่องสวาทอย่างรุนแรง ให้เธอดูดกลืนจนทะลักล้นออกมาตามเรียวขา หยดย้อยหยาดเยิ้มไปกับผ้าปูเตียงสีเข้ม
ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจริงๆ สำหรับคนที่บอกว่าเกลียดเธอจับใจ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากแต่งงานและรับเธอมาเป็นเมีย ร่างกายของเธอยังโยกคลอนอยู่ใต้ร่างหนานานนับชั่วโมง กว่าที่เธอจะคลานหนีลงมาจากเตียงได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อเขาเผลอเธอก็รวบเสื้อผ้ามาสวมใส่ด้วยมืออันสั่นเทา พอวิ่งออกมาด้านนอกก็ต้องอุทานสุดเสียงเมื่อเจอเข้ากับคุณพิมพ์แก้ว
“คุณท่าน”
“คุณแม่” คนที่ตื่นมาแล้วไม่เจอคนที่เขาเพิ่งขย่มจนจมเตียงก็วิ่งตามออกมาตามเธอ จึงได้เห็นว่ามารดายืนใบหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้า
“รอบนี้เราเมาหรือเปล่าตาพัน” น้ำเสียงเข้มงวดนั้นทำให้พันทัพพูดไม่ออก ในขณะที่กังวานก้มหน้างุด มือน้อยรวบคอเสื้อเอาไว้อย่างสั่นเทา รู้สึกผิดที่ทำตัวไม่ดีเอาเสียเลย
“ถ้าเด็กในบ้านของแม่ท้องโย้ขึ้นมา ก็คงจะเป็นฝีมือของเราสินะ”
“คือว่าผม”
“ครั้งก่อนบอกว่าเมา ครั้งนี้เราไม่ได้เมานี่!!! ลากมาปล้ำถึงห้อง เราจะว่าไงล่ะ”
พันทัพพูดไม่ออก..
“แต่แม่คงไม่รอดให้กังวานท้องโย้ออกมาประจานใครๆ หรอกนะ” คำประกาศิตของท่าน ทำให้รอบนี้พันทัพเถียงไม่ออก เพราะโดนจับได้คาหนังคาเขา
“ถ้าแกไม่แต่งงานกับกังวาน แม่จะไม่ให้อะไรแกเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว"
พันทัพต้องแต่งงานจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้สมบัติจากมารดาเลยสักชิด
ประโยคที่ว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเธอเด็ดขาดดูเหมือนจะถูกสั่นคลอน เมื่อคุณพิมพ์แก้วยืนคำขาดว่าหากเขาไม่ยอมแต่งงานกับกังวาน เขาจะชวดทุกอย่างที่ควรจะเป็นของตัวเองไป
“แม่จะยกสมบัติให้กังวานทั้งหมด”
“คุณแม่!”
“ถ้าแกอยากได้สมบัติของแม่ แกก็ต้องแต่งงานกับกังวาน”
“นี่ผมเป็นลูกของคุณแม่หรือกังวานเป็นลูกของคุณแม่กันแน่ครับ”
“แม่ไม่มีลูกโง่ๆ อย่างแกหรอก” ดูเหมือนท่านจะโกรธจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าโกรธอะไร แค่เขานอนกับเด็กในบ้าน ท่านก็โกรธถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ผมโง่ตรงไหนครับ ไหนคุณแม่ลองชี้แจงให้ผมรับรู้หน่อย” เขาหงุดหงิดที่โดนหาว่าโง่ แล้วการที่เขาแต่งงานกับกังวานมันฉลาดตรงไหนมิทราบ
“โง่ให้ดาราคนนั้นหลอกยังไงล่ะ บ้านหล่อนน่ะเต็มไปด้วยหนี้สิน พ่อแม่ติดการพนัน แล้วแม่กนกวดีนั่นก็สำส่อนมั่วไปทั่ว ถ้าเขาบอกว่าท้องกับแก แม่ขอพูดเลยว่าแกโดนสวมเขาแน่ ๆ ดีไม่ดีได้เลี้ยงลูกคนอื่นจนโต ซึ่งยังไงแม่ก็ไม่รับหลานที่เกิดจากแม่นั่นแน่นอน” ท่านบอกให้ลูกชายตาสว่าง
“คุณแม่เอาอะไรมาพูดครับ คุณแม่อคติเลยพูดแบบนี้ใช่ไหม”
“อีโธ่เอ๊ย! ฉันนี่นะจะใส่ร้ายคนอื่น ที่ฉันพูดคือเรื่องจริงล้วน ๆ”
“คุณแม่ไม่ชอบวดีเลยพูดแบบนี้ ใส่ร้ายเธอ”
“แม่อยากจะตายสักร้อยรอบพันรอบ ไปหลงไหลอะไรนักหนากับแม่นั่น สำส่อนมั่วไม่เลือก แกนอนกับมันระวังแกจะเป็นเอดส์ตาย”
“คุณแม่!”
“ฉันหาคนดีๆ ให้แก ถ้าแกไม่คว้าเอาไว้แล้วจะเสียใจ เงินทองน่ะของนอกกาย คนดีๆ ที่จะอยู่กับเราน่ะหายากยิ่งกว่าเงินทองอีกนะ แกก็อย่าโง่ให้มากนักเลย”
โดนด่าว่าโง่ทำเอาพันทัพฉุนจัด หงุดหงิดมารดาแต่ไม่กล้าต่อปากต่อคำมากเพราะนี่ก็คือผู้ให้กำเนิด เขาเลยไปพาลเอากับคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างกังวาน
ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง เขาไม่อยากโดนเด็กในบ้านฮุบสมบัติไปหรอกนะ