8

1184 คำ
เขาตอบอย่างไม่คิด “ได้สิครับ ผมจะเตรียมแชมเปญมาเอง” เขาตอบรับรวดเร็วราวกับรอให้ชวนอยู่แล้ว บัวบุษยามองด้วยความหมั่นไส้แกมไม่เข้าใจว่าเขาจะตอบรับทำไม ปฏิเสธก็ได้นะ ไม่มีใครว่า เธอก็ไม่ได้เชิญ ยัยนาราตัวดีเชิญคนเดียว “คุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะไม่ต้องกลัวเสียมารยาท” บัวบุษยาบอกออกไปตรงๆ เพราะไม่อยากให้บรรยากาศในวันพรุ่งนี้อึดอัด “คุณหมอไม่สะดวกใจที่ผมจะไปใช่ไหมครับ” “เอ๊ะ นี่คุณมาโยนให้ฉันทำไม” นาราเพิ่งฉุกคิดเธอก็ไม่ได้ถามเจ้าบ้านก่อน “หรือว่าพี่หมอไม่สะดวกคะ” ถามเสียงแผ่ว เพราะเธอชวนจาคอบโดยไม่ได้ถามบัวบุษยาก่อน หากแต่เห็นว่าต่อไปเขาต้องมาอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันเลยอยากให้รู้จักกันไว้ไม่เสียหลายแต่ไม่คิดว่าบัวบุษยาจะลำบากใจแบบนี้ “ไม่ใช่แบบนั้น” บัวบุษยาทำหน้าปั้นยาก จะพูดโพล่งตรงนี้ให้รุ่นน้องเข้าใจก็ไม่ได้ว่า หมอนี่คือคนไข้ที่จับก้นเธอที่โรงพยาบาล “มาก็ได้ค่ะ งานจะได้สนุกพิลึกละ” เสียงหวานบอกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก หากแต่นาราไม่ทันจับสังเกตจึงคิดว่าบัวบุษยาไม่ติดปัญหาอะไรอีก “งั้นพรุ่งนี้ตอนหกโมงเจอกันที่บ้านของพี่หมอบัวนะคะ มิสเตอร์ออสตินเดินมาที่บ้านพี่บัวได้เลยค่ะ อย่ากระโดดข้ามกำแพงมานะคะ เดี๋ยวพี่หมอตกใจนึกว่าโจรปล้นบ้าน” เนื่องจากคนทั้งคู่เป็นญาติกันจึงไม่ได้ทำกำแพงสูงนัก แต่ก็ไม่มีใครอุตริปีนกำแพงยกเว้นพวกหมา แมว ที่เลี้ยงไว้ และเพราะหมู่บ้านนี้มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี มีเวรยามขี่ตรวจตราทุกชั่วโมงจึงไม่ต้องทำกำแพงสู จาคอบยิ้มพราย จากที่เขาขอผู้ให้เช่าต่อเติมกำแพงให้สูงขึ้นเพื่อความเป็นส่วนตัว โครงการนี้จะถูกยกเลิก เก็บเอาไว้ปีนไปหาคุณหมอคนสวยน่าจะดีกว่า “ครับ ผมจะไม่พลาดอย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวผมปีนกำแพง ผมไม่ใช่โจร แต่ถ้าผมเป็นโจรคงไม่คิดจะปล้นอะไรจากหมอ นอกจากปล้น...” จาคอบมองคุณหมออย่างกรุ้มกริ่ม บัวบุษยาไม่คิดว่าคนหน้าดุจะขยันหยอดขนาดนี้ ถ้าเขาไม่มีชื่อไทย ต่อไปเธอจะเรียกเขาว่า ‘อีตาขนมครก’ ขยันหยอด แต่เธอไม่หลงคารมคนมือไว ใจทรามอย่างเขาง่ายๆ หรอก “ไปกันเถอะนารา” “ค่ะ” นารารับคำ แล้วหันไปลาจาคอบ “นาราไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ มิสเตอร์ออสติน” “ครับ” จาคอบยิ้มรับ จากนั้น ทั้งสองสาวก็จากไป จาคอบมองตามหลังรถเก๋ง เขาไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน ปกติถ้าอยากได้คนไหนก็แค่ชี้เอา เลยไม่รู้ว่าการจีบผู้หญิง มันหลายสิ่งยากเย็นอยู่เหมือนกัน “จีบมันยากกว่าจับกดเยอะเลย” เจ้าพ่อหนุ่มไหวไหล่ แต่ก็ถูกใจไปแล้วทำไงได้ ก็ใครใช้ให้อยากได้เมียเป็นหมอ บ้านเดี่ยวสองชั้นกินเนื้อที่เจ็ดสิบตารางวาของบัวบุษยานั้นอาศัยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูก หากแต่เมื่อสองปีก่อนบิดามารดาของเธอตัดสินใจไปซื้อที่ดินเพื่อปลูกผักออแกนิกขายที่เชียงใหม่ เหตุผลนั้นก็เพื่อไม่ให้ตัวเองว่างจนเกินไป แม้ว่าบัวบุษยาจะคัดค้านเพราะไม่อยากให้พวกท่านต้องลำบาก แต่พวกท่านก็ยืนกรานว่าอยากใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดและอยากอยู่กับธรรมชาติมากกว่าอยู่ในเมือง คนเป็นลูกจึงไม่อยากขัดความสุขของพ่อแม่ บิดาของบัวบุษยาเป็นหมอกระดูกมือทอง ส่วนมารดาเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเดียวกัน พวกท่านตรากตรำเหน็ดเหนื่อยมามากแล้ว เธอจึงยอมให้พวกท่านไปอยู่เชียงใหม่ตามที่ต้องการ บ้านหลังใหญ่นี้จึงมีเธออาศัยอยู่แค่เพียงคนเดียว ทุกๆ สองสามเดือนบุพการีจะลงมาเยี่ยมเธอที่กรุงเทพฯ สักครั้ง แต่ว่าทุกครั้งที่มาก็จะพักอยู่นานหลายอาทิตย์ให้หายคิดถึง บัวบุษยามองสลัดผักทูน่า ขนมครองแครงน้ำกระทิ และเครื่องดื่มน้ำอัญชันมะนาว น้ำส้ม บนโต๊ะยาวที่ถูกปูด้วยผ้าปูโต๊ะอย่างดี “น่ากินเหมือนเดิม” คนสวยอมยิ้ม เพราะทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว รอแต่แขกที่จะมาร่วมรับประทาน เธอลอบมองไปที่บ้านเลขที่ 250 ด้วยความไม่สบอารมณ์ บรรยากาศกินเลี้ยงวันนี้จะดีแล้วเชียว ถ้าไม่มีคนตัวโต มือไว ใจทราม มาร่วมด้วย เธอไม่นับจาคอบเป็นเพื่อนบ้าน เพราะไม่ไว้ใจหลายอย่าง และเขาบอกเองว่าจะอยู่สักพักไม่ใช่ตลอดไป ด้วยเหตุผลต่างๆ จึงทำให้เธอไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องทำความรู้จักมักคุ้นกับอีตามาเฟียนี่นัก ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนไข้เธอคงไม่คุยด้วยแล้ว ทั้งท่าทางและแววตาของเขามันไว้ใจได้ที่ไหน ชอบมองเธอแบบกรุ้มกริ่ม อีกทั้งอาชีพแท้จริงทำอะไรมาก็ไม่รู้ พวกมาเฟียคงทำธุรกิจสีเทา เผลอๆ อาจเป็นพวกค้ายาแล้วยังมีลูกน้องเดินตามเป็นพรวนแบบนั้น เธอต้องคอยระวังตัว “น่ากลัวชะมัดคุณป้าไม่น่าให้อีตานี่เช่าบ้านเลย” บัวบุษยาถอนใจเฮือกใหญ่ แต่เธอเข้าใจ บ้านหลังใหญ่สวย ๆ จะเก็บไว้ไม่อยู่ก็รอวันทรุดโทรม สู้ให้เช่ายังมีรายได้เข้ากระเป๋าบ้าง วันนี้เธอก็ต้องฝืนคุยกับแขกที่เธอไม่ได้เชิญแต่คนอื่นชเญไปก่อนเพื่อไม่ให้งานกร่อย อีกทั้งวันนี้ยังมีนาราแล้วเพื่อนบ้านข้างๆ อีกหลังมาด้วย เขมิกาหรือเขมเป็นเพื่อนบ้านสาวคนสวยที่เธอสนิทที่สุดคนหนึ่งในหมู่บ้าน ฝ่ายนั้นมีอาชีพฟรีแลนซ์เหมือนนารา อาชีพฟรีแลนซ์ช่วงนี้ก็พากันตกงานเป็นแถว เขมมิกาบอกว่าวันนี้จะไปสมัครงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เย็นๆ กลับมาก็จะมาร่วมงานด้วยกัน บัวบุษยานำแจกันดอกไม้มาวาง พลางจัดตกแต่งอย่างดี จากนั้นนาราก็ตามมา “พี่หมอบัว นาราได้ปูไข่ดองมาด้วย เขาว่าแซ่บมาก” เสียงหวานของสาวสวยมาก่อนตัว บัวบุษยาเลยรีบเดินไปช่วยรับของ “ดีเลยค่ะ พี่อยากกินอยู่พอดี” “สวัสดีครับ” บัวบุษยาเห็นเขาส่งยิ้มหล่อให้เธอก่อน “มิสเตอร์ออสติน คุณมาตั้งแต่เมื่อไรคะ” จาคอบหัวเราะ มองคนถามด้วยสายตาพราวระยับ “ใจมาตั้งนานแล้ว แต่ตัวเพิ่งมาตอนที่คุณหันมาสบตากับผมเมื่อครู่นี้ครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม