EP03
"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยหรอ"
"เปล่า คุณมันเลวจนพูดไม่ออกต่างหาก" ปิ่นโตพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหัวใจดวงน้อยแตกสลาย เธอจะทำยังไง มีทางเลือกไหนได้อีก หากหนีไปชีวิตแม่กับยายคงไม่รอด ถึงจะเสี่ยงหนีก็ใช่ว่าตัวเองจะรอด
"…" คาวิลเพียงฉีกยิ้มมุมปากก่อนจะดึงโซ่ที่ผูกอยู่ข้อเท้ามนแล้วกระตุกอย่างแรงจนร่างกายของปิ่นโตเซถลาอยู่ข้างหน้าของเขาโดยมีแค่เพียงกรงเหล็กกั้นเอาไว้แค่นั้น
"คุณจะพูดอะไรอีก หนูทรมานยังไม่พออีกใช่มั้ย"
"ฉันแค่จะบอกว่า ฉันไม่ได้อยากใจร้ายหรอกนะ การกระทำของเธอมันบีบบังคับให้ฉันต้องทำ"
"อึก…" สิ้นเสียงพูดคาวิลก็ปล่อยโซ่ลงแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องขังไป ชายหนุ่มหยุดแน่นิ่งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ในขณะเดียวกันปิ่นโตก็จิกกระโปรงนักเรียนตนเองแน่น ถ้าพรุ่งนี้ถูกส่งออกไปขายพร้อมกับสินค้าค้ามนุษย์พวกนั้น ชีวิตมันจะต่างอะไรจากตายทั้งเป็นล่ะ
วันต่อมา
ตลอดระยะเวลาทั้งวันปิ่นโตก็นั่งอยู่ห้องขังด้วยชุดนักเรียนอยู่แบบนั้น เธอกอดเข่าตนเองและใช้ความคิดอยู่ทั้งวัน ใบหน้าเนียนใสก็เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาคนที่รู้ว่าจุดจบของตนเองกำลังจะมาถึงมันอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ แต่ในเมื่อมันไร้หนทางแล้วคนเรามันก็ต้องลองทำอะไรที่บ้าคลั่งดูสักหน่อย เธอถูกเอาชีวิตยายกับแม่มาเป็นเหยื่อ ไหนจะผู้หญิงมากมายที่ถูกพวกคนเลวอย่างคาวิลดับอนาคตทั้งที่พวกเขาถูกล่อลวงไม่เต็มใจเลยสักนิด
"ได้เวลาออกมาเตรียมตัวแล้ว เธอต้องไปรวมตัวกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อรอเวลาขึ้นเรือ" ในขณะที่ปิ่นโตกำลังนั่งครุ่นคิดอยู่นั้นเสียงของการ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าเธอก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงสอดแทรกเข้ามาในห้วงความคิด ดวงตากลมโตช้อนมองแล้วขยับปากพูดออกมา
"หนูขอเจอยายกับแม่ก่อนได้มั้ยคะ"
"ไม่ได้"
"ไม่ลองถามบอสของคุณก่อนหรอ หนูแค่อยากเจอยายกับแม่" นํ้าเสียงอ่อนล้าออกไป
"เดี๋ยวลองถามให้"
"หนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"
"อะไร?" ในขณะที่การ์ดกำลังจะหมุนตัวเดินจากไปปิ่นโตก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขาหันหน้ากลับมามอง
"หนูได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ คืนนี้มีงานพลัมบนเรือสำราญโชว์สินค้าก่อนส่งออกใช่ไหมคะ"
"อะไรที่ไม่ใช่เรื่องของตนเองก็ไม่ควรแอบฟัง"
"หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ"
"ฉันจะไปถามบอสเรื่องที่เธอขอ ส่วนเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเองก็ไม่ต้องยุ่งถ้าอยากมีลมหายใจ" พูดเอาไว้แค่นั้นการ์ดร่างใหญ่ก็เดินออกจากบริเวณพื้นที่ห้องขังไป
ปิ่นโตนั่งรออยู่ราวสิบนาทีการ์ดคนเดิมก็เดินเข้ามาพร้อมกุญแจที่พร้อมจะไขกรงขังออกให้ เธอจ้องมองการกระทำนั้นอย่างใจจดใจจ่อจนกระกรงถูกเปิดออก
"บอสให้เวลาเธอแค่ห้านาที มีอะไรจะล่ำลากันก็รีบๆ"
"…" ใบหน้าซีดเผือดได้แต่พยักตอบ ก่อนที่ร่างกายจะถูกจับมาใส่กุญแจมือเอาไว้แล้วเดินนำหน้าออกไป ปิ่นโตเดินตามหลังพอผ่านเศษแท่งเหล็กแหลมคมก็ไม่ลืมหยิบมันติดมือขึ้นมาด้วย
พอได้โอกาสมุมลับที่มืดสลัวและไร้กล้องวงจรปิด ร่างเล็กก็แสร้งล้มลงบนพื้น พอการ์ดหันกลับมามองและเดินจะเข้ามาช่วยเธอก็พลิกด้ามเหล็กให้โผล่ออกมาเล็กน้อยจังหวะนั้นก็ยกเหล็กขึ้นกระแทกตัวใส่กลางลำตัวของชายคนนั้นอย่างแรง
"โอ๊ย!" ในตอนที่ร่างของการ์ดกำลังรับความเจ็บจากแผลลึกไม่ไหวเธอก็รีบพุ่งตัวใส่แผลเดิมอีกรอบจนร่างนั้นหมดสติ
ร่างใหญ่ทรุดลงต่อหน้าต่อตา ปิ่นโตก้มตัวลงแล้วพยายามหยิบพวงกุญแจออกมาแล้ววิ่งไปหลบ
เธอพยายามใช้กุญแจหลายดอกเพื่อปลดล็อกข้อมือของตนเองด้วยความเร่งรีบ จนกระทั่งมันสำเร็จก็รีบวิ่งตามหาห้องที่ยายและแม่ของตนเองถูกขัง ปิ่นโตลองไขอยู่สามสี่ห้องและในที่สุดก็เจอ
"แม่ ยาย" หัวใจดวงน้อยมีความหวังอีกครั้ง เธอรีบล็อกประตูจากด้านในเอาไว้แล้วเดินเข้าไปหาสองร่างกายที่อ่อนแรงและกอดกันเอาไว้แน่นด้วยอาการหวาดกลัว
"ปิ่น"
"หนูมาช่วยแล้ว แม่กับยายรีบหนีไปนะ" เธอไม่รีรอช้า ใช้โอกาสตอนที่การ์ดยังไม่มาเฝ้าใช้กุญแจดอกที่เหลือที่ยังไม่ได้ไขปลดล็อกกุญแจมือ และแกะเชือกออก เธอได้ยินมาว่าตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งกับงานบนเรือสำราญ ทุกคนเริ่มทยอยออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้แล้ว
"แล้วปิ่นจะไปไหน"
"หนูมีเรื่องต้องจัดการค่ะ หนูจะพยายามกลับมาหาแม่กับยายนะคะ หนูอยากให้รู้ว่าถึงยังไงหนูไม่ทำอย่างนี้ทุกอย่างมันก็ไม่ต่างจากเดิม หนูรักแม่กับยายนะคะ" พูดจบปิ่นโตก็หยิบกุญแจพร้อมกับโยนเหล็กเปื้อนเลือดให้ผู้เป็นแม่
"ปิ่น"
"รีบไปค่ะ ออกทางด้านหลังจะไม่มีคน แล้วเจอกันนะคะ หนูอยากให้แม่กับยายหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วหนูจะหาทางติดต่อไป" ไม่รอฟังอะไรต่อทั้งนั้นปิ่นโตเดินออกมาจากแม่กับยายแล้วกลับมายังศพที่ตนเองพึ่งฆ่า เธอมือสั่นแล้วถอนเฉพาะกุญแจที่ยังไม่ได้ใช้ออกมาสองดอกใส่ไว้ในกระโปรงนักเรียนส่วนที่เหลือก็เอาเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของการ์ด จัดการทุกอย่างเสร็จก็แสร้งใส่กุญแจมือเอาไว้หลวมๆ แล้วอยู่ในห้องขังเหมือนเดิม
บนเรือสำราญ
"สินค้าคบรึยัง"
"เหลือคนสุดท้ายครับ ช่างกำลังแต่งตัวให้เธออยู่" บนห้องสุดหรูที่สุดของเรือสำราญมีร่างเจ้าของงานอย่างคาวิลยืนมองตนเองผ่านกระจกบานใหญ่ ชายหนุ่มพับปลายแขนเสื้อแล้วเช็คความเรียบร้อยของร่างกาย ปากก็เอ่ยถามเรื่องสินค้าที่อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจะถูกส่งออกข้ามประเทศอย่างไม่มีกฎหมายเอาผิดได้
"บอสจะเข้าไปในงานเลยมั้ยครับ สินค้าสำหรับโชว์พร้อมสำหรับการแสดงตัวแล้ว" สินค้านั้นหมายถึงผู้หญิงที่ถูกขัดโชว์ตัวภายในงานประมูล งานนี้ประมูลพรหมจรรย์ผู้หญิงที่ถูกคัดมาอย่างดี
"ฉันจะเข้าไปดูสินค้าซะก่อน"
"ครับ?"
"นายมีอะไรสงสัยธิงส์" ดวงตาคมกริบปรายมอง
"เปล่าครับ เชิญครับบอส" ธิงส์ ที่ขึ้นชื่อว่ามือซ้ายส่ายหัวปฏิเสธแล้วเดินพาบอสของเขาไปยังห้องตรวจสินค้า
คาวิลหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาและรอการมาของปิ่นโต ภายในระยะเวลาไม่นานร่างของเด็กสาวก็เดินเข้ามา สายตาของเขาจับจ้องไปที่เรือนร่างสวยตรงหน้าตั้งแต่ปลายเท้าจรดศรีษะ
ชายหนุ่มราวกับต้องมนต์สะกด ร่างกายของเธอมันทำเขาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แววตาซ่อนรอยยิ้มทอประกายอย่างยากจะคาดเดา…
ถึงกับหัวใจเต้นไม่ตรงจังหวะเลยทีเดียว?
ยัยน้องกลับมาห้องขังแล้วปล่อยให้คนจับตัวขึ้นรถไปที่เรือสำราญเพื่อจะทำอะไรสักอย่างนะคะ ไม่งงกันใช่มะะ