ท่านรองขา : EP3

1843 คำ
CHAPTER 2 Phet’s part “พ่อคิดไรของพ่อ ถึงหาเลขาแบบนี้มาให้” คนที่ผมพูดถึงเพิ่งจะคล้อยหลังไป ผมก็ต่อสายหาคนที่รับเธอเข้ามาทำงานทันที “(ฟังจากน้ำเสียงแก แสดงว่าพ่อเลือกคนไม่ผิด)” น้ำเสียงของพ่อดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับความหงุดหงิดของผมเลยแม้แต่น้อย “(พ่อเข้าไปดูตอนสัมภาษณ์ พ่อก็เห็นแววแล้วว่าประดับฟ้าจะทำงานร่วมกับแกได้)” พ่อพูดต่อ “ไม่มีทาง นี่ผมก็เพิ่งไล่ตะเพิดกลับไป เด็กอ่อนหัดแบบนั้นไม่มีทางทำงานกับผมได้” “(ประดับฟ้าหรือแกที่อ่อนหัด)” “พ่อ!!!” ได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อก่อนที่สายจะถูกตัดไป ผมกำสมาร์ตโฟนในมือแล้วเหวี่ยงมันลงที่พื้น เอาเด็กจบใหม่แบบนั้นมาทำงานเลขาของผม พ่อคิดได้อย่างไร ผมมองและวิเคราะห์แล้วว่าไม่สามารถทำด้วยได้! ขนาดคนที่มากประสบการณ์ยังไม่สามารถทำได้เลย @เอ็กซ์วินคลับ “คนมากประสบการณ์เขาไม่อยากเสียเวลาทำงานกับมึงหรือเปล่า” ไอ้อั๋นเอ่ยถามหลังจากที่ผมเล่าให้พวกเพื่อนฟังจบ คืนนี้ออกมาที่คลับชื่อดังย่านทองหล่อ เมื่อเช้ายายเลขานั่นก็มาตามผมไปทำงานเป็นวันที่สาม ไล่ยากไล่เย็นกว่าจะยอมกลับไปได้ น่ารำคาญจริง ๆ จึงต้องนัดเพื่อนออกเพื่อเล่าความน่ารำคาญให้พวกมันฟัง “ถ้าเก่งจริงก็ต้องทำได้” ผมยักไหล่ใส่พลางกวาดตามองไปทั่วบริเวณ สะดุดตากับผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มปล่อยผมยาวสลวย เธอหมุนตัวไปมาโยกเป็นจังหวะไปกับเพลง ทำให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนที่เธอโชว์ให้เห็นวับแวมจากผมที่สะบัดไปมา “มองใคร” ไอ้เข้มถาม มันพยายามเพ่งสายตาไปยังจุดที่ผมมอง แต่พอดีว่าเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไป “ไม่ต้องเสือก” ไอ้เข้มกระตุกยิ้มร้าย พลันฝ่ามือหยาบก็ปะทะเข้าที่กลางศีรษะของผม “สัส! งั้นก็มายุ่งเรื่องงาน” “เลขาคนใหม่อาจจะทำงานได้ดีก็ได้ มึงก็ลองให้โอกาสเขาดู” ไอ้อั๋นพูดเสริม “ไม่ กูเข็ดแล้ว กี่คนละที่หิวเงิน กูไม่ต้องการเลขา และกูก็ไม่ต้องการไปทำที่นั่นด้วย” สองคนนั้นมันหันมองหน้ากันราวกับเหนื่อยที่ต้องเกลี้ยกล่อมให้ผมไปทำงาน “มึงจะอยู่เฉย ๆ แล้วรับเงินมาใช้ ให้คนอื่นด่ามึงแบบนี้?” ผมมองหน้าไอ้เข้มนิ่ง ๆ ก่อนจะพยักหน้าให้มัน คราวนี้พวกมันถอดใจกันแล้ว ไม่พยายามหว่านล้อมผมต่อ สายตาของผมมองไปยังจุดเดิม จุดที่พบผู้หญิงคนนั้น เธอกลับมายืนที่เดิมแต่ไม่ได้โยกตัว เพียงแค่หยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาชนกับเพื่อน เพื่อนคนหนึ่งเป็นสาวประเภทสอง และอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย ยายจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มบาง ๆ ในตอนที่มีคนมาขอชนแก้ว แต่แล้วเธอก็เบือนหน้าหนีแล้วจึงเบะปาก ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่างสินะ “ใครวะ มึงรู้จัก?” เผลอตัวมองนานเกินไปจนไอ้อั๋นสังเกตเห็นว่าผมกำลังมองใครอยู่ “ไม่” “อยากทำความรู้จัก?” “ไม่” ตอบไอ้เข้มกลับไปแบบไม่ต้องคิด แต่ที่มองอยู่เนี่ยก็เพราะได้เห็นเธอแสดงละครทั้งที่ไม่ได้มีอาชีพนั้น หากไม่ชอบคนเหล่านั้นที่ไปขอชนแก้วหรือส่งยิ้มทักทาย เธอก็ไม่ต้องยิ้มตอบไหม นี่ยิ้มแล้วหันหนีไปเบะปาก ตลกชะมัด “งั้นก็เลิกมอง เดี๋ยวแอร์ก็วีนอีก” ฟังไอ้อั๋นแล้วขมวดคิ้วมุ่น มันจึงบุ้ยใบ้ว่าแอร์อยู่ทางด้านขวามือ ระยะห่างจากกันไม่มากนัก เมื่อเห็นเข้าผมก็ทำหน้าเบื่อหน่ายทันที แม้อีกฝ่ายจะส่งยิ้มมาก็ตาม “เบื่อฉิบหาย” ผมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจือความหงุดหงิด “กูไปละ” “พรุ่งนี้วันเสาร์ เขาไม่มาตามมึงไปทำงาน มึงจะรีบกลับเพื่อ?” ไอ้เข้มคว้าแขนผมไว้แล้วพูดติดตลก พวกมันหัวเราะร่า “กูแค่เบื่อ” ผมสะบัดแขนตัวเองออกแล้วเดินออกมาทางด้านหลัง เนื่องจากว่ารถจอดอยู่ทางนี้ ขี้เกียจเดินอ้อม “จะรีบไปไหนคะพี่เพชร” ผมไม่หยุดเดินทั้งที่มีคนเอ่ยชื่อผม หนีออกมาแล้วจะหยุดเพื่อไร เดินต่อแล้วปล่อยให้เสียงนั้นหายไปพร้อมกับคนพูด ทว่าเจ้าตัวกลับวิ่งมาขวางหน้า และแสร้งทำเป็นข้อเท้าพลิกจะล้ม กูไม่ใช่พระเอกด้วยไง ตุ๊บ! ร่างเพรียวล้มลงไปกองที่พื้นเพราะผมไม่รับตัวเธอไว้ หนำซ้ำยังถอยหนี “พี่เพชรคะ” แขนเรียวชูขึ้นมาเพื่อต้องการให้ผมรั้งตัวเธอไว้ เมื่อกี้ยังไม่ช่วย แล้วตอนนี้คิดว่าจะช่วยหรือไง ผมส่ายหน้าเล็กน้อยด้วยความระอา แล้วเดินมาที่รถของตัวเอง ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่กับพื้น ได้ยินแต่เสียงเง้างอนอย่างที่ได้ยินเป็นประจำในเวลาที่เธอถูกขัดใจ “พี่เพชร!!! กรี๊ดดด แอร์จะฟ้องคุณป้า พี่เพชร!!!” รำคาญฉิบหาย! แทนที่กูจะได้ออกมาปลดปล่อยความน่าเบื่อในชีวิต กลับต้องมาเรื่องกวนใจ ผมนั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ในรถ ยังไม่อยากขับออกไปทั้งที่อารมณ์ไม่ดีแบบนี้ จึงได้เห็นผู้หญิงในคลับคนนั้นเดินออกมากับกลุ่มเพื่อน เธอหันมามองรถผมแล้วชะงักจนเพื่อนถาม เจ้าตัวก็ส่ายหน้าแล้วเดินต่อ ต่างฝ่ายต่างแยกกันไป แต่ดูเหมือนว่าวันนี้คงจะเป็นวันซวยของผมจริง ๆ ถึงได้เจอเธออีกจนได้! “ขอนั่งด้วยคนนะคะท่านรอง” Sairung’s part ฉันแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนจะกลับเข้าคอนโด ยังเคยชินกับตอนที่อยู่บ้าน แม่มักจะชวนกินดึกตลอด พอไม่ได้กินแล้วนอนไม่หลับ เลยทำให้พบกับเจ้านายตัวเองนั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่ด้วย “ไม่ให้นั่ง” ฉันไหวไหล่เล็กน้อย ก็ไม่ได้คิดจะนั่งด้วยจริง ๆ เสียหน่อย แค่เข้ามายียวนเขาเล่นเฉย ๆ ฉันสั่งใส่ถุงไปแล้ว และกำลังรออยู่ ยังไม่ถึงคิวของฉัน “ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง” “คะ?” เขาพูดถึงอะไร กำลังว่าใคร จากสายตาที่เขามองมาฉันก็เดาว่าน่าจะว่าฉันนี่แหละ แต่ฉันไปทำอะไรให้ถึงได้ว่ากันแบบนี้ “คนแบบนี้น่ะเหรอที่จะมาทำงานเลขา ฮึ!” ว่าฉันจริง ๆ ด้วย! ฉันทิ้งสะโพกนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ตะโกนบอกกับคนขาย “ของหนูใส่ชามมาเลยนะคะ” “ได้เลย” คนขายตะโกนกลับมา “บอกว่าไม่ให้นั่งไง ต้องเอาน้ำสาดไล่เลยไหม” ฉันอ้าปากค้างกะพริบตาปริบ ๆ เขาเป็นบ้าหรือเปล่าเนี่ย “อะไรของคุณ โต๊ะมันเต็มฉันก็ขอนั่งด้วย หวงไรเนี่ย” “ไม่ชอบหน้าเธอ” “ตอนนี้ไม่ชอบ ต่อไปอาจจะชอบก็ได้” “!!!” “…” สาบานว่าตอนพูดฉันไม่ได้จะสื่อถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น แค่อยากจะย้อนเขาเฉย ๆ แต่ดูจากสีหน้าของคุณเพชรแล้วเขาน่าจะคิด! “ไม่มีทาง” คุณเพชรทำหน้าเรียบไล่สายตามองฉันด้วยความเหยียดหยาม “คนต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่างแบบนี้ ฮึ” “คุณพูดแบบนี้มาสองครั้งแล้วนะคะ ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด” “ต่อหน้าเธอยิ้ม ลับหลังเธอเบะปาก” “ฮะ! ตอนไหน” ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยทำกิริยาแบบนั้นใส่เขาเลยสักครั้ง แม้จะเบื่อกับการตามเขาไปทำงานก็เถอะ “ในคลับ” ฉันร้องอ๋อในใจ แล้วเบิกตาโพลง “เอ็กซ์วินคลับ?” คุณเพชรพยักหน้า แล้วมองชามก๋วยเตี๋ยวที่เพิ่งมาเสิร์ฟ ฉันมองตามแล้วยิ่งหิว เมื่อไหร่จะถึงคิวฉันสักที เขาปรุงแล้วคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมากิน ฉันจับจ้องเส้นเหลืองนวลนั้นไม่วางตา จนเห็นว่ามันกลับลงไปอยู่ในชามเหมือนเดิม “เธอ! ฉันกินไม่ลง” ฉันช้อนตาขึ้นมามองคุณเพชรแล้วยิ้มแห้งไปให้ ก่อนจะเอ่ยขอโทษที่มองซะจนเขากินไม่ลง “ขอโทษค่ะ มันน่ากินอะ” ว่าแล้วก็ระบายยิ้มอีกครั้ง คนตรงข้ามถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามองไปทางด้านหลังฉันแล้วเอ่ยออกมา “ของเธอมั้ง” ฉันหันไปมองตาม คนขายกำลังเดินมาและเขาก็มาหยุดที่โต๊ะพอดี ของฉันเป็นบะหมี่แห้ง ปรุงรสแล้วคีบเส้นเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อย ตักน้ำซุปกินต่อให้โล่งคอ “ไม่กินล่ะคะ” คุณเพชรสะดุ้งเล็กน้อย เขาเลิกมองฉันกินแล้วคีบบะหมี่ของตัวเองกิน “เรื่องที่ฉันยิ้มแล้วหันหนีไปเบะปากก็แปลว่าฉันรำคาญค่ะ แต่ต้องยิ้มให้ไปเพราะไม่อยากมีปัญหาค่ะ” ฉันอธิบาย เขาจะได้ไม่ต้องงัดเรื่องนี้ขึ้นมาแซะฉันอีก “เธอ…” ฉันตักน้ำซุปเข้าปากแล้วมองหน้าเขาด้วยอาการตกใจที่คุณเพชรระบายยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นดูเจ้าเล่ห์แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ของเขาเลย แล้วฉันก็ต้องเบิกตาโตมากกว่าเดิม เมื่อคุณเพชรหุบยิ้มแล้วหันหน้าไปทางด้านขวา ก่อนจะเบะปากคว่ำ จะบอกว่ารำคาญฉันสินะ! “ท่านรอง!!!” ฉันกระแทกเสียงอย่างลืมตัวว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งลูกจ้างของเขา คุณเพชรทำหน้านิ่งอย่างเดิมแล้วกินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองต่อ ด้วยความหงุดหงิดฉันก็โกยในชามเข้าปากไปแบบรวดเร็ว แล้วไปสั่งชามที่สองมากินต่อ คราวนี้ได้ไวเพราะไม่มีคิว คุณเพชรมองทั้งสองชามที่ฉันกินหมดแล้ว แต่เขาเพิ่งจะกินชามแรกชามเดียวของตัวเองหมด “เธอ…กระเพาะหรือหลุมดำ เอาไปเก็บไว้ที่ไหน” น้ำเสียงของเขาค่อนข้างประหลาดใจแบบไม่เสแสร้ง ไม่ใช่ว่าจะแซะฉัน “ก็ฉันหิว” ฉันตอบเสียงแผ่วแล้วเอาน้ำมาดื่มต่อ คุณเพชรเรียกคนขายมาเก็บเงิน และแน่นอนว่าเขาจ่ายเฉพาะของตัวเอง ขี้งกชะมัด! ฉันจ่ายของตัวเองเสร็จเรียบร้อย ก็รีบวิ่งตามคุณเพชรไป ทันตอนที่เขากำลังจะปิดประตูรถ “วันจันทร์เจอกันนะคะท่านรอง” “ถ้าเธอสนุกกับการไปคอนโดฉัน…ก็เชิญ!” พูดจบเขาก็ปิดประตูรถดังปึง! พูดแบบนี้ฉันก็พอจะเดาออกว่าวันจันทร์เขาจะไปทำงานหรือไม่ เฮ้อ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม