2 วันต่อมา
งานบ้าอะไรวะเนี่ย
ฉันมองคีย์การ์ดในมือตัวเองแล้วบ่นอยู่ในใจ เพิ่งรู้ว่างานเลขาจะต้องมาลากเจ้านายที่คอนโดไปทำงาน มันคงจะเป็นประสบการณ์ที่ควรบันทึกไว้ในความทรงจำ เล่ายันลูกยันหลานบวชแน่!
“เราต้องร่วมชะตากรรมเดียวกันแล้วนะครับคุณรุ้ง หวังว่าคุณรุ้งจะไม่หนีให้ผมเผชิญหน้าคนเดียวเหมือนเลขาคนเก่า ๆ นะครับ”
ฟังแล้วหดหู่ชะมัด
ฉันส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับพี่โชค เขาเป็นคนขับรถของคุณพชร หรือคุณเพชร ว่าที่เจ้านายของฉัน
ใช้คีย์การ์ดสแกนลิฟต์และเลือกชั้น 25 พี่โชคเดินนำไปยังห้องของคุณเพชร และใช้คีย์การ์ดเปิด อันที่จริงหากฉันเป็นคุณเพชรก็คงไม่ชอบเท่าไหร่ ที่คนนอกสามารถเข้าห้องตัวเองได้แบบนี้
ประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง ฉันเดินนำเข้าไปมองการตกแต่งในโทนสีดำ ช่างดูดีและดึงดูดให้น่าอยู่มาก ๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก เจ้าของห้องนั่งตัวแข็งทื่อแล้วมองมา
ใบหน้าหล่อเหลาราวกับไอดอลแต่แฝงความสุขุมเอาไว้แน่น ทำเอาฉันตกอยู่ในภวังค์ ต้องพยายามไล่ความชื่นชมลงไปให้หมด
“คุณเพชรครับ นี่คุณประดับฟ้า เลขาคนใหม่ครับ”
คุณเพชรมองหน้าฉันนิ่ง
พูดสิ พูดอะไรสักนิดสิ ฉันเกร็งจนฉี่จะราดแล้ว ภายใต้ใบหน้าเชิดหยิ่งของฉันซ่อนความกังวลไว้แทบไม่มิด
“ฉันมารับท่านรองไปทำงานค่ะ” ฉันเป็นคนทำลายความเงียบเสียเอง ในเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ปิดปากสนิท จะให้อยู่แต่กับความเงียบก็คงไม่ไหว
แล้วยังไงต่อ?
ทำไมไม่พูดอะไรบ้าง
“คุณไปแต่งตัวดีกว่าค่ะ ท่านประธานรอคุณอยู่” ฉันทำลายความเงียบเป็นครั้งที่สอง ได้โปรดปริปากพูดกับฉันสักนิด
“คุณเพชรครับ…” ขอบคุณพี่โชคที่ช่วยเรียกเจ้านาย ไม่รู้ว่าที่เงียบอยู่นี่กำลังหลับในหรือเปล่า
“กลับกันเถอะครับ” เหมือนว่าพี่โชคจะถอดใจเสียแล้ว จะว่าไปฉันก็อยากจะกลับนะ ยืนอยู่นานจนเมื่อยแล้ว แต่พอเห็นมุมปากของเจ้านายยิ้มเยาะคล้ายกับปรามาสฉันว่าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ จึงเลือกที่จะสืบเท้าเข้าไปใกล้ แล้วถือวิสาสะนั่งลงทั้งที่คุณเพชรไม่ได้เชิญ
“ฉันมารับคุณไปทำงานค่ะ”
คุณเพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย ที่ฉันพูดมันเข้าใจยากตรงไหน เขาแสร้งสงสัยได้ประหลาดมาก!
“คุณอย่าทำแบบนี้ได้ไหมคะ” ฉันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ติดไปทางหงุดหงิด จะเงียบอะไรนักหนา
“ไม่ไป! เธอกลับไปได้แล้ว หรือจะต้องให้ไล่แบบนี้” คุณเพชรทำท่าจะสาดน้ำในแก้วใส่ฉัน แต่พี่โชคพุ่งปราดมาขวางหน้าไว้ทัน คุณเพชรจึงชะงักมือไว้
“ฉันไม่ใช่หมานะคะที่จะใช้น้ำสาดไล่กันแบบนี้”
“กลับไป” คุณเพชรกดเสียงต่ำ
พี่โชคหันมาพยักหน้าให้ฉัน ประมาณว่าให้กลับก่อน ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วก็ต้องยอมกลับออกไป
แน่นอนว่าวันรุ่งขึ้นก็ยังต้องมารับท่านรองประธานไปทำงาน ฉันขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่ EPN แล้วมากับพี่โชค
วันนี้คุณเพชรดูจะไม่หงุดหงิดเท่าเมื่อวาน เขามองหน้าฉันแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้ม
“นึกว่าจะถอดใจไปละ”
วันนี้ตอนที่เดินทางมาคอนโดคุณเพชร พี่โชคบอกฉันแล้วว่าคุณเพชรไม่สาดจริง ๆ หรอก แต่ที่พี่โชคเข้ามาขวางไว้ก็แค่กันพลาด เขาน่ะแค่ต้องการขู่ไม่ให้ใครมาวุ่นวายกับเขา และต้องการให้เลขาถอดใจแล้วลาออกไปเอง พี่โชคเห็นว่าฉันมาทำงานต่อเขาจึงบอกให้ฟัง
“ฉันไม่ถอดใจง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันตอบคุณเพชรกลับไป “ไปทำงานกันเถอะค่ะ”
“แน่จริงก็ลากไปให้ได้ดิ” ว่าจบเจ้าตัวก็ทิ้งตัวนอนไปกับโซฟา หน้าตายียวนกวนประสาท!
อายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย ช่วงระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาคุณอรอนงค์เลขาของท่านประธานบอกขอบเขตงานและแนะนำคุณเพชรให้รู้จักคร่าว ๆ ฉันจำได้แม่นว่าเขาอายุ 29ปี! แต่ดูการกระทำเขาสิ
ฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถอดรองเท้าส้นสูงออกเพื่อความทะมัดทะแมง เอากระเป๋าสะพายวางบนโต๊ะใกล้ ๆ
คุณเพชรมองแล้วหลุดขำ!
ตลก?
ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีคว้าข้อเท้าของเขาแล้วออกแรงกระชากจนคนตัวสูงตกลงมาจากโซฟา พี่โชคร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เขาพยายามห้ามแต่ฉันส่งสายตาดุดันไปให้
“นี่เธอ!” คุณเพชรพยายามรั้งตัวไว้กับขาโต๊ะ แต่ฉันก็ไม่ปล่อยเขาให้หลุดไปได้
มันช่างเป็นภาพที่ทุเรศจริง ๆ ฉันลากคุณเพชร ซึ่งคุณเพชรก็ลากโต๊ะมาด้วย หากเห็นว่าโต๊ะนั่นไม่สามารถรั้งตัวเองได้ ก็ควรปล่อยมันออกไหม จะลากมันมาเพื่อ?
“หยุด!!!” คุณเพชรตะเบ็งลั่น ฉันชะงักกึกแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากข้อเท้าของเขา “เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงมาลากฉันแบบนี้”
พอเขาดุ คอฉันก็หด พลันปล่อยข้อเท้าของเขา
“กล้ามากนะ กล้ามาก!” คุณเพชรกัดฟันกรอด เขาลุกขึ้นชี้หน้าคาดโทษฉัน
“เมื่อกี้คุณท้าฉัน พอฉันทำได้ทำไมคุณถึงต้องโมโหใส่”
“คุณรุ้ง” พี่โชคส่งเสียงปรามฉัน
“ไม่ต้องปรามรุ้งค่ะ เจ้านายของพี่โตขนาดนี้แล้วยังเอาแต่ใจ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ถ้าเขามีความรับผิดชอบมากพอ รุ้งคงไม่ต้องลากเขาไปทำงานแบบนี้”
“ไม่รู้อะไรก็เงียบปากไป” คุณเพชรค้อนขวับใส่ฉัน เขาลูบหน้าลูบตาตัวเองแรง ๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ไม่รู้ว่าพยายามระงับความโกรธอยู่หรือเปล่า
“ใช่ค่ะ ฉันไม่รู้ ฉันพูดเท่าที่ฉันเห็น งั้นคุณก็บอกมาสิคะว่าทำไมถึงไม่ไปทำงาน”
“เรื่องของฉัน!!!” คุณเพชรพูดใส่หน้าฉันก่อนจะชี้ไปที่ประตู “กลับไป!!!”
“ไม่กลับค่ะ” เรื่องดื้อด้านฉันทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก เป็นคนว่านอนสอนง่ายมาตลอด หากวันนี้จะดื้ออีกสักครั้งจะเป็นไรไป
“เธอ!” คุณเพชรขบฟันจนสันกรามนูนเด่น เขาหันหน้าไปหาพี่โชค “ชื่อไรนะ”
“คุณร…”
“ฉันจะแนะนำตัวให้คุณรู้จักเองค่ะ” ฉันพูดแทรกก่อนที่พี่โชคจะพูด แล้วจึงยืนตัวตรง คอตั้งระหง พูดแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน
“ฉันชื่อประดับฟ้า ชื่อเล่นชื่อสายรุ้ง อายุ 23ปี พ่อชื่อลมเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน 4แห่ง แม่ชื่อมีน…”
“หยุด! ฉันไม่ได้อยากจะรู้จักขนาดนั้น” เขาไล่สายตามองฉันราวกับเหยียดหยาม ซึ่งฉันก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่ส่งสายตานั้นกลับไป
“อายุแค่นี้แปลว่าเพิ่งจะเรียนจบ”
“ใช่ค่ะ”
“ไม่มีประสบการณ์แต่เข้ามาทำตำแหน่งเลขาเนี่ยนะ”
“ค่ะ ฉันสามารถเรียนรู้งานได้”
“แล้วใครเขาจะสอนเธอ คุณอรเขาก็ทำงานของเขา”
“ก็คุณไงคะ”
จะว่ากวนก็ได้นะ แต่เขากวนฉันก่อนเอง คุณอรอนงค์จะเป็นคนสอนงานให้ฉัน ซึ่งจากขอบเขตงานที่คุณอรได้บอกไว้ ฉันก็พอจะเข้าใจว่างานของฉันมีอะไรบ้าง ก็เป็นงานทั่ว ๆ ไปของเลขา จะเพิ่มเติมก็ตรงที่ต้องมาลากท่านรองไปทำงานนี่แหละ
“น่ารำคาญจริง ๆ”
“ค่ะ” ฉันยิ้มรับ “ไปทำงานกันเถอะค่ะ”
คุณเพชรส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วเดินหนีไปที่ห้องนอน เขาปิดประตูแล้วล็อกจากด้านใน
“พอเถอะครับ คุณเพชรคงไม่ไปง่าย ๆ” พี่โชคเอ่ยออกมาขณะที่ฉันกำลังจะเคาะประตูห้อง
“ต้องปล่อยไปแบบนี้เหรอคะ”
“ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ครับ”
ฉันพรูลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย หันมองประตูห้องนอนแล้วหันไปมองหน้าพี่โชค “กลับก็กลับค่ะ”
ก่อนจะกลับฉันตะโกนเข้าไป
“พรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับคุณไปทำงานนะคะคุณเพชร”