เวลาตีสองกว่า
หลังจากช่วงงานทุกอย่างจนเสร็จ ผมก็เดินออกทางประตูหลังร้านอย่างปกติ อารมณ์ดี ผมผิวปากอย่างคนอารมณ์ดี ทว่า ความอารมณ์ดีนั่นดันต้องสะดุด เมื่อห่างออกไปเล็กน้อย มีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังดักยืนรออยู่
มันปล่อยควันสีขี้เถ้าลอยคว้างไปกับอากาศ ท่าทางอารมณ์ดีกว่า จากนั้นค่อยๆ เหลียวมองผมคล้ายกับรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอ
“วันนี้เลิกช้า” มันว่าพลางยื่นซองบุหรี่แกะใหม่ส่งมาให้
“ปกติ”
“คิดจะทำงานที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่ มึงก็รู้ว่ามันศูนย์” มันต่อว่าเหมือนๆ ทุกที แถมยังปั้มบุหรี่มวนเล็กในมือแบบสบายอารมณ์
ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ซึ่งมันคิดผิด
“ตอนนี้มีเรื่องที่อยากจะทำ” ผมตอบกลับไป ไม่สนใจว่ามันจะตรงประเด็นที่มันอยากได้ไหม และนั่นทำคนฟังเหลือบหางตามองอย่างแคลงใจ “มึงว่าไฟแช็คแรงพอมั้ย?”
คำถามนั่นทำคนฟังย่นคิ้วชิดกันอย่างไม่เข้าใจและถาม
“หมายความว่าไง”
“ไฟแช็คแม่งเผาอะไรได้บ้าง”
“ไฟ เผาได้หมด ใหญ่ๆ หน่อยก็ต้องพึ่งน้ำมัน”
“งั้นเหรอ?” ผมว่า พลางกำบีบซองบุหรี่ในมือแน่น และเป็นฝ่ายก้าวเดินนำหน้ามันออกห่างจากผับนิโคตินอย่างไม่สนใจ เสียงของมันที่ดังไล่หลัง
“ไอ้เมือง รอด้วย” มันว่า แถมยังวิ่งกระหืดกระหอบตามมาอย่างติดๆ ปากยังคงถาม “มึงถามถึงเรื่องไฟแช็คทำไมวะ? แล้วยัยนั่นละ?”
เท้าสองข้างสะดุดลงกึก ร่างกายเหลียวมองมันโดยอัตโนมัติ
“มึงว่าจุดไฟเผาเมียกับชู้...ติดคุกกี่ปี?”
“พูดอะไรของมึง...เดี๋ยวนะ” น้ำเสียงแปลกใจของมันส่อแววตกอกตกใจในช่วงท้ายประโยค และกล่าวออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วลง “หรือว่ามึง...”
ผมไม่ได้ตอบคำถามของมัน เพราะตอนนี้ใจของผมมันลอยไปอยู่ที่ร้านขายน้ำมันเรียบร้อยแล้ว...
หนีไม่ได้นะรู้ไหม? ห้ามทิ้งฉันไปรู้หรือเปล่า
DTijCmU5aS98c6gihFDmkSUmKgTCXBGHrXrHXJv61aXf
[ Chernim Talk ]
“หาววว...”
“หาวปากกว้างเชียวนะ” เสียงหวานๆ ของอันนา ทำฉันรีบยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังโดนเพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยแซว “ทำอย่างกับคนนอนไม่พออย่างงั้นแหละ” เธอว่าเสริม
“อือ ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ฉันตอบเสียงอ่อน DTijCmU5aS98c6gihFDmkSUmKgTCXBGHrXrHXJv61aXf
เหนือที่นั่งร่วมวงสนทนา นั่งนิ่งเงียบมาตลอดตั้งแต่ที่เราพากันมานั่งเล่นที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าทางเข้าตึกคณะ แม้ว่าเมื่อคืนก่อน ฉันจะเอ่ยบอกเขาเรื่องของเมืองไปแบบมั่นใจก็ตามที แต่ว่า เขาก็คงยังเป็นกังวลถึงเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตของฉันกับเมืองอยู่ดี
การพบเจอสุดช็อกเมื่อหลายวันที่ผ่านมา DTijCmU5aS98c6gihFDmkSUmKgTCXBGHrXrHXJv61aXf และแน่นอน มั่นใจว่าท่าทางขอฉันคงไม่รอดจากตาที่อ่านทุกอย่างออกของเหนืออย่างเด็ดขาด นั่นเลยทำให้เขาที่พูดน้อยอยู่แล้วดูนิ่งเงียบมากขึ้นไปอีก
“ฉันเองก็นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกัน ช่วงนี้ต้องทำงานพิเศษด้วย เหนื่อยจังเลย” อันนาบ่นแทรกความเงียบ พลางฟุบหน้าลงกบโต๊ะอย่างคนเพลียแรง จนอดสงสัยและถามออกไปไม่ได้
“ทำงานพิเศษเหรอ?”
“อื้อ ฉันเพิ่งไปสมัครงานที่ผับNICOTINน่ะ ร้านจะปิดก็เกือบตีสามแล้ว นอนไม่ค่อยพอเลย เฮ้อ…”
คำตอบของเธอทำฉันเหลือบมองหน้าเหนือในทันที ซึ่งเขาเองก็คงจะรู้สึกเดียวกับฉันเพียงแต่ไม่แสดงอาการและความรู้สึกผ่านสีหน้าเท่านั้น แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป จู่ๆ เหนือลุกออกจากวงสนทนาไปเสียเฉยๆ ไม่พูดไม่จา ทำให้ต้องรีบลุกตามเขาไปด้วยความร้อนใจ โดยไม่ลืมบอกลาเพื่อนรัก
“ขอตัวก่อนนะอันนา”
“อะ อ้าว เดี๋ยวสิ พวกเธอจะไปไหนกัน!?” ฉันไม่ได้หันกลับไปตอบคำถามของอันนา แต่เร่งฝีเท้าเพื่อเดินตามเหนือให้ทัน ท่าทางเขาดูโกรธแต่เพราะไม่คิดจะเปิดปากพูด ทำให้ฉันไม่สามารถเดาใจได้ว่าตอนนี้กำลังโกรธหรือกังวลเรื่องใดอยู่ในหัวกันแน่
ทว่า เหมือนเหนือเองจะรู้ว่าถูกตาม เขาหยุดเท้าลงมีเราทั้งคู่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน
“ไม่ได้โกรธ” คำพูดคล้ายกับรู้ทันความคิดจากปากเขา ทำฉันสะอึกไปเล็กน้อย
“ไม่ได้โกรธ แล้วทำไมถึงลุกเดินออกมาแบบนี้ละ?”
“เบื่อ เลยเดินออกมา”
“ทำแบบนั้นน่ะ เสียมารยาทมากนะ” ฉันแค่นเสียงดุออกไปแบบไม่เต็มเสียงนัก
“…” เพราะเขาเงียบ ฉันจึงเงียบไปด้วย DTijCmU5aS98c6gihFDmkSUmKgTCXBGHrXrHXJv61aXf เขากำลังกังวลเรื่องนั้นอยู่หรือไงนะ?! ทั้งที่ฉันก็พูดออกไปจนหมดแล้วแท้ๆ
“กลับเถอะ วันนี้ฉันมีธุระ” อีกครั้งที่เขายอมเปิดปากพูดพลางโอบมือรอบเอวฉันไว้หลวมๆ “ฉันเชื่อเธอใจเธอ” คำกล่าวสั้นๆ จากปากเหนือทำหัวใจฉันพองโต แม้มันจะไม่ตรงกับสิ่งที่อยากรู้มากนัก แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นคลายความเป็นกังวลในท่าทีเขาได้ลง
“อื้อ” ที่ทำได้คือการส่งยิ้ม เพื่อให้เหนือความความเป็นกังวล ฉันต้องแสดงออกว่าตัวเองเข้มแข็งและหนักแน่น เพื่อให้เขาสบายใจ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันควรจะทำให้ผู้ชายซึ่งขึ้นชื่อว่าแฟนเห็น
เวลาต่อมา...
เพราะเหนือติดธุระ เขาจึงมาส่งฉันได้แค่หัวมุมถนนที่ตั้งของหอพักเท่านั้น ไม่ได้เดินมาส่งที่หน้าหอเฉียดเช่นทุกที
หลังจากเหนือคล้อยหลังไปได้ไม่เท่าไหร่ ฉันก็เริ่มตกอยู่ในความเป็นกังวลอีกครั้ง เพราะจากหัวมุมถนนไปถึงหน้าหอพักก็ต้องเดินไปอีกเกือบร้อยเมตร ยิ่งในตอนนี้ผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตด้วยแล้ว ฉันก็ยิ่งระแวงและหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกในทุกคราวที่ต้องอยู่คนเดียว
แต่ละก้าวที่เดินตรงไป สายตาเองก็กวาดมองไปรอบๆ ตัวด้วยเช่นกัน ทั้งที่ทำถึงขนาดนั้นเพื่อระวังภัยรอบตัว ทว่า...
ฟึ่บ!!
ร่างของฉันถูกฝ่ามือของใครบางคนซึ่งดักรออยู่ระหว่างทางแคบระหว่างตึกพุ่งเข้ารวบตัวก่อนกระชากเข้าไปด้านในในที่ลับตาคน ฝ่ามือของเขากำลังปิดปากฉันอยู่ ซึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมยี่ห้อCK1 ทำฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาคนนั้นเป็นใคร
ตึง!
และมันก็เป็นอย่างที่ระแวง เมื่อบุคคลดังกล่าวผลักฉันแนบชิดกับกำแพงตึก อีกทั้งยังแทรกกายกันการดิ้นหลบหนี โดยเฉพาะกับเสียงทุ้มเข้มที่กล่าวขึ้นขณะฝ่ามือของเขายังคงกดปิดปากฉันแรงขึ้น
“เฌอ...คิดถึง”
“อ...อื้อ!!” ฉันเบิกตากว้างอย่างขีดสุด เมื่อดวงหน้าคมเข้มกบนัยน์ตาคมกิบดุจดั่งปีศาจกำลังจับจ้องมองมา ในวินาทีนี้คือช่วงเวลาที่ฉันได้มีโอกาสมองหน้าเข้าใกล้ที่สุด
“เฌอ...นิสัยไม่ดีเลยนะ”
“อ่อยอะ...อื้อ!”
“กลัวเหรอ...เฌอ” ยิ่งเขาถามเท่าไหร่ ดูเหมือนแรงกดทับกายรวมไปถึงฝ่ามือหนาก็ยิ่งบดเบียดรุนแรงมากขึ้น เขากำลังทำฉันหายใจไม่ออก “คิดถึงเฌอ...มาตลอดเลยนะ”
“ฮึก...อะ...อ่อย!!” น้ำเสียง สีหน้าที่ดูนิ่งกับความรุนแรงของการกระทำจากเมือง ทำฉันน้ำตาคลอออกมาเพราะความหวาดกลัวอย่างห้ามไม่ได้ ในตอนนี้มันเหมือนกับว่าฉันกำลังถูกดูดย้อนไปในอดีต
อดีตที่แสนเลวร้าย
กลัว...
“หายหน้าไปไหนมาเฌอ...ไม่รู้เหรอ ว่าตามหา”
“ฮึก...อ่อยอั้น...” ไม่ไหวแล้ว เขากำลังจะทำแบบนั้น รุนแรง ป่าเถื่อน และทารุณ ผู้ชายคนนี้กำลังจะขุดอดีตของฉันให้ลุกโชนขึ้นมาดั่งเปลวไฟ
“นอกใจคบชู้ ตลกเหรอเฌอ?” คำถามของเขาทำฉันนัยน์ตาเบิกกว้างอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะคำถาม แต่หากมันคือซิปโปสีเงินวาบในมือเขาที่กำลังติดไฟต่างหาก “จะลงโทษยังไงดี เฌอ?”