ตอนที่ 13
เสียงรอบข้างดังเซ็งแซ่ในความมืดมิด แต่ภูริภัทรไม่สนใจเขาประคองร่างบอบบางของมินตราออกมาจากบริเวณนั้น ก่อนพาหญิงสาวเร้นกายหายไปจากตรงนั้นโดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต เพราะเมื่อไฟสว่างจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนก็กลับมาสนุกสนานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่ก็ไม่อยู่ที่ฟลอร์เต้นรำเสียแล้ว กฤติดนัยตบโต๊ะด้วยความโมโหจนคนที่นั่งบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว
“พามินมาที่นี่ทำไมคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาพาเธอมาที่รีสอร์ตหลังหนึ่งซึ่งมีขนาดกว้างขวางและเป็นส่วนตัว ต้นไม้รายล้อมขึ้นหนาแน่นอย่างเป็นระเบียบอย่างที่บุคคลภายนอกไม่สามารถมองผ่านเข้ามาได้เลย
“ไม่ต้องกลัวที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของผมเอง ผมอยากจูบคุณอีก..มินตรา!!” เธอไม่ได้หวาดหวั่นหรือกลัวเขาแม้แต่น้อย หญิงสาวมีแต่ความอยากรู้อยากลองที่จะร่วมรักกับเขา จูบของเขาเมื่อสักครู่มันช่างนุ่มนวลและซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก
พอเข้าห้องมาได้มินตราก็โน้มคอเขาลงมาจูบ เธอตั้งใจบดขยี้ริมฝีปากหยักของเขาอย่างดูดดื่ม จนเขาต้องขอเป็นฝ่ายรุกไล่เธอบ้าง ซึ่งคราวนี้เขาไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่แค่จูบ เพราะรู้ว่าเธอเองก็ยิ่งกว่าเต็มใจเสียอีก
มือหนาขยับลูบไล้เรือนกายอยู่ภายนอก ก่อนปลดสายเสื้อเส้นเล็กของเธอลง เมื่อเต้านมอวบเต่งตึงโผล่พ้นขอบผ้า เขาก็ผละริมฝีปากออกเพื่อยุติการจูบในทันที
“มินจ๋า!!!...คุณสวยเหลือเกิน” เสียงทุ้มเอ่ยชมขณะที่มือของเขาก็ไม่หยุดนิ่ง มันพยายามเคลื่อนไหวและเข้ากอบกุมเต้านมอวบของเธออย่างแรงกล้า ไฟเปิดสว่างไสวทำให้เขาสำรวจเต้านมเธอไม่หยุดหย่อน แค่มองด้วยตาเปล่าในตอนที่มีเสื้อผ้าปกปิดเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันใหญ่แค่ไหน แต่ไม่คิดเลยว่าพอมันเป็นอิสระแล้วมันจะใหญ่โตได้มากกว่าที่เขาคิดเสียอีก
“คนเมื่อกี้แฟนคุณใช่มั้ย” เขาผละจากการดูดเต้านมอวบแล้วเอ่ยถาม ขณะที่มือก็ยังลูบไล้สองเต้าอวบไม่หยุด
“คุณรู้จักเค้าเหรอคะ!!!”
“ไม่หรอกผมแค่สังเกตเห็นว่าเขามองคุณอยู่ตลอด เราจะแต่งงานกันอยู่แล้ว คุณมีอะไรก็ควรบอกผมตามตรงสิ”
“ค่ะ มินขอโทษ แต่สัญญาว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้วค่ะ เขากำลังจะไปเมืองนอกและขอเจอมินเป็นครั้งสุดท้าย”
“เอาเป็นว่าผมเข้าใจคุณ..คนเราย่อมมีอดีต แต่สิ่งเดียวที่ผมรับไม่ได้คือการโกหก คุณมีอะไรก็ต้องบอกกับผมตรง ๆ รู้มั้ย”
“ขอบคุณค่ะคุณภัทร..คุณช่างดีกับมินเหลือเกิน”
อันที่จริงภูริภัทรก็อยากจะแสดงท่าทีเย็นชาเพื่อต่อต้านการกระทำของหล่อนที่หลอกใช้เขาเพื่อให้แฟนหนุ่มหึง เขาคิดเช่นนั้น คนอะไรจะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วยังตัดใจจากแฟนเก่าไม่ได้ หรือจะเป็นเพราะความงามอันน่าหลงใหลของเธอกันแน่ผู้ชายคนนั้นเลยตัดใจจากเธอไม่ได้สักที ขนาดตัวเขาเองยังอยากจะลิ้มลองจนลืมความโกรธแค้นการกระทำเหล่านั้นเลย
“ผมจะทำให้คุณติดใจผมจนโงหัวไม่ขึ้น มินจ๋า”
“งั้นก็ลองสิคะ” เธอเอ่ยขึ้ยอย่างยั่วยวน และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้เธอกล้าพูดกับเขาอย่างไม่อาย
มินตราไม่หลบเลี่ยง แต่เธอกลับแอ่นเต้านมอวบเต่งตึงเข้าใส่มือหนาอย่างเต็มที่ ซึ่งเปิดโอกาสให้ภูริภัทรเจ้านายหนุ่มก้มหน้าลงดูดดึงอย่างหิวกระหาย เขาดูดอย่างรุนแรงราวกับว่าโกรธเธอมาเป็นสิบชาติ
“อร๊าย! คุณภัทรขา...อ๊ะ!!! อื้อ..คุณภัทร! อี้ยยย!!!”
“ต่อไปนี้คุณต้องเป็นของผมคนเดียว...มินตรา”
“ค่ะ..มินจะเป็นเมียของคุณคนเดียว” สิ้นคำพูดมินตราก็ดิ้นพล่าน ด้วยความเสียวสะท้านจนกายสั่นระริก มือไม้เธออ่อนแรงจนแทบจะยกไม่ขึ้น ภูริภัทรก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศโดยอุ้มเธอไปนั่งที่โซฟาตัวยาวซึ่งตั้งอยู่ริมระเบียง โดยเขาให้เธอนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน ขณะที่ริมฝีปากร้อนชื้นก็ยังคาบเกี่ยวหัวนมสีแดงสดของเธออยู่ตลอด ภูริภัทรดูดกลืนเต้านมอวบของเธอราวกับทารกที่กำลังดื่มกินน้ำนมอย่างกระหายหิวจากทรวงอกของมารดา