5-2 *******งูนั้นล่อลวง

1598 คำ
หากจะต้องวิวาทกับปีศาจอสรพิษให้รู้แพ้รู้ชนะ เพลิงกัลป์อันไร้ที่สิ้นสุดอาจเผาผลาญทุกสิ่งจนหายไปทั้งภพภูมิ สองสามีภริยาจึงหาทางหลบซ่อนตัวเสียก่อน ให้ต่างฝ่ายได้สงบสติอารมณ์ หลังถูกตบกระเด็นด้วยฝ่ามือพิฆาตของลูกสะใภ้ มารดาจะต้องเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากจนไปหาปีศาจอสูรละแวกนั้นสังหาร จับพวกมันมาเป็นเครื่องรองรับอารมณ์เป็นแน่ ร่างอสรพิษหยิบคว้าร่างบอบบางเอาไว้ในอุ้งมือมังกร ดำดิ่งลงสู่ห้วงนทีอันธการ โผล่พ้นขึ้นเหนือผืนน้ำกว้างขวางในอีกภพหนึ่ง วางนางลงบนหาดทรายสีดำ เนรมิตตั่งนั่งไม้สีดำสนิทสลักลวดลายอสรพิษจากเรือนของมารดาออกมา เปลวเทียนเล่มเล็กส่องสว่างให้บรรยากาศมืดมิดเกิดความสวยงาม “ข้ารู้สึกสดชื่นแจ่มใส ตรงกันข้ามกับความมืดมิดในนรกภูมิ เมื่อสามีบอกว่าจะพาข้าออกเที่ยว” นางละสายตาจากดวงจันทร์รุธิระลอยอยู่เหนือนทีใสสะอาด เหมือนว่ามันกำลังจะจมหายลงไป ในความเป็นจริงมันกลับไม่ขยับเขยื้อน สามีของนางยังอยู่ในร่างอสรพิษที่มีกรงเล็บมังกรทั้งสี่ “ที่นี่... ดูเงียบสงบยิ่งนัก เป็นท้องทะเลทิศใดหรือ?” “เป็นภพภูมิหนึ่งค่อนข้างห่างไกลจากนทีอันธการ ข้าก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นที่ใด นรกภูมิมีเป็นร้อยเป็นพันชั้น” “หา... ท่านว่ายังไงนะ นี่สามีข้าพาข้าดำดิ่งลงทะเลมาโดยไม่รู้ทิศทางหรือ?” เทพอู่เฉินหัวเราะนางที่ทำตาโตตกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าเป็นความผิดของท่านพานางหลงทางมาที่ไหนก็ไม่รู้ “ที่ใดข้ารู้จัก ที่นั่นท่านแม่ก็ต้องรู้จัก แล้วเราจะหลบซ่อนตัวจากนางได้อย่างไร” “จริงของท่าน...” “เจ้ายังจะต้องระวัง ปีศาจอสูรไม่ว่าในภพภูมิใดไม่เป็นมิตรเหมือนเทพ เมืองเทพสงบสุขต่างจากในนรกภูมิ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณเร่ร่อนมาจุติ ผ่านภพภูมิของการตัดสินโทษทัณฑ์มา บางตนได้กลายเป็นปีศาจอสูร ต่างเข่นฆ่ากันไม่ว่างเว้นวัน” “อ้อ ไม่สงบ ทว่ายังคงสวยงาม ก็พอให้อภัยได้อยู่” นางเออออตาม การอยู่ในอุ้งมืออสรพิษทำให้นึกถึงเรื่องสำคัญที่สุด บนผืนน้ำแห่งหนึ่งนางได้พบสบตากับเทพหลงเหนียนผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์เป็นครั้งแรก นางหย่อนก้นนั่งลงบนตั่งนั่งไม้เคียงข้างอสรพิษ เบื้องหน้าคลื่นทะเลที่ซัดพาเข้าหาฝั่ง เวหาอันเยียบเย็นพัดผ่านใบหน้าของนาง สักพักหนึ่ง ก็ปรากฏไอหยินรอบกาย ด้วยอุ้งมือมังกรของสามีผู้ไม่เคยปล่อยให้นางต้องเหน็บหนาว “เอาล่ะ... ข้าจะไปดูให้เห็นด้วยสองตาของข้าเสียหน่อยว่านรกภูมิเป็นอย่างไร” พลันสองขาของนางเหยียบยืนบนผืนน้ำ กระโดดไปข้างหน้าด้วยวิทยายุทธ์ เหาะเหินขึ้นบนเวหา กายาโอฬารของอสรพิษจึงโบยบินไปข้างหน้า ผลัดไปกับการเหยียบย่างบนผืนน้ำ เมื่อผ่านที่ใด เกิดประกายระยิบระยับจากการกระทบกันของฝ่าเท้ามังกรและผืนนที เทพอู่เฉินในสายตาของนางแสนงดงาม ยิ่งใหญ่เยี่ยงมังกรบนเทวโลกชั้นฟ้า เคียงข้างนางผู้มีอาภรณ์งดงามของเจ้าสาวในชุดสีแดงสดสวย “ท่านและข้าเหมือนในภาพวาดของจิตรกรเอก... บนเรือน้อยลำหนึ่ง มีสตรีในชุดเจ้าสาวสีแดงและอสรพิษ โบยบินไปข้างหน้า เคียงข้างกัน” “ใช่แล้วอาเป้ย... ครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นเครื่องบรรณาการของเทพงู เป็นเจ้าสาวจากโลกมนุษย์...” หลังจากนั้นนางคงจดจำอะไรไม่ได้ชัดเจนจนเทพอู่เฉินเล่าให้นางฟังถึงเรื่องเครื่องสังเวยของเจ้าเมืองหลงอี้จิน ว่ามานางมาที่นี่ได้เยี่ยงไร “... ข้าจำได้ว่าเคยมีเจ้าลูกไฟตัวหนึ่งคอยไปท่องเที่ยวกับข้า เรียกมันว่าเหลียนเหลียน มันไปอยู่ที่ไหนกัน?” “พยัคฆ์อัคคีคงลงมาไม่ได้ ข้าว่ามันคงรอเจ้าอย่างใจจดใจจ่อทีเดียว” “ข้ามีสัตว์เลี้ยงเป็นสัตว์อสูรในตำนานด้วยหรือนี่...” นางหัวเราะชอบใจพลางกระโจนกายไปข้างหน้า ชายอาภรณ์และเส้นผมนุ่มหอมพลิ้วไหว ลู่ไปตามทิศทางลม การท่องเที่ยวในนรกภูมิของนางนี้ ทำให้ภาพเลือนรางในหัวสมองเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในภพภูมิลับแล นางวิ่งหนีเทพอู่เฉินผู้เกรี้ยวกราดจึงได้กำไรเป็นการท่องยุทธภพกับเจ้าเหลียนเหลียน เมื่อหันไปมองอสรพิษข้างกายด้วยรอยยิ้ม เท้ามังกรทั้งสี่เยื้องย่างไปอย่างเชื่องช้า ต่างจากนางซึ่งอยู่ในร่างของมนุษย์ตัวเล็กนิดเดียว ก็ต้องกระโจนกายให้ว่องไวรวดเร็วยิ่งกว่า เห็นเทพอู่เฉินไม่ยอมจำแลงกายกลับเป็นบุรุษด้วยเป็นห่วงนาง ตั้งท่าพร้อมต่อสู้ตลอดเวลาหากมีสิ่งใดมาทำอันตรายนาง นางก้มหน้าลงมองผืนน้ำใสสะอาด พบมัจฉาหน้าตาแปลกประหลาด มีศีรษะเป็นสตรี อีกตนหนึ่งเป็นครึ่งปักษาครึ่งมัจฉา พวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ใต้ผืนน้ำ เจ้าตัวใหญ่กว่าคล้ายว่าจะเป็นครึ่งอสรพิษพุ่งเข้ามากลืนกินมันทั้งสองไปเสีย “ข้าเคยให้สัญญากับเจ้าว่าจะพาเจ้าไปเที่ยวให้ทั่วทุกแห่งหนบนเทวโลก เห็นเจ้าเพลิดเพลินใจ ข้าก็ดีใจ” “ท่านคงจะผิดสัญญา เพราะที่นี่เป็นนรกภูมิ” นางหัวเราะร่าเริง เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนอสูรใต้ท้องทะเลลึกคงเกิดรำคาญเสียงของนาง ฉับพลันนั้นเอง มัจฉาร่างใหญ่โอฬารมีฟันแหลมคมนับพันซี่ ปากกว้างใหญ่ของมันโผล่ขึ้นจากน้ำ นางได้รับการรวบตัวด้วยอุ้งมือมังกร นำนางออกจากการล่าเหยื่อของมันอย่างทันท่วงที เทพปีศาจนัยน์ตาสีแดงฉานแยกเขี้ยวอสรพิษขู่คำรามใส่หน้ามันเสียงดังก้องฟ้า เจ้าตัวใหญ่ไม่กล้าหาญพอจึงดิ่งลงน้ำหายไป ได้กลับมาอยู่ในอุ้งมือหยาบอันให้ความรู้สึกปลอดภัย อาเป้ยเงยหน้าขึ้นมองอสรพิษกายายิ่งใหญ่โอฬาร สบนัยน์ตารุธิระเหนือท้องนทีสะอาดใส “มันตัวใหญ่กว่าท่านกลับหวาดกลัวท่าน เทพอู่เฉินคงจะเป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ น่าเกรงขามพอสมควร” “ก็พอสมควร...” เทพอู่เฉินรับคำเยินยออย่างยินดี อุ้งเท้ามังกรที่เหลือเหยียบยืนบนผืนน้ำ ทั้งอสูรปีศาจคงมองเห็นอุ้งเท้ามังกรบนร่างอสรพิษ ซึ่งมีผู้เดียวทั้งเทวโลกและนรกภูมิ บุตรชายนางเฟยอี๋และเทพมังกรแห่งเทวโลกชั้นฟ้า อุ้งเท้ามังกรทั้งสี่ มีกรงเล็บถึงห้า มังกรห้าเล็บ... “ข้าเห็นว่ามันเหมือนปลายักษ์ เขี้ยวมันแหลมยังกับปลาอะไร อาจารย์เคยเล่าให้ข้าฟังว่าในท้องทะเลข้าจะต้องระวัง มีปลาตัวใหญ่กินเนื้อมนุษย์” “เจ้ายามนี้สามารถทำลายทั้งมหาสมุทรด้วยมือข้างเดียว ไยจึงหวาดกลัวเจ้าปลานั่น” “ข้าไม่ได้กลัว... เพียงตกใจเล็กน้อย ข้ากำลังเพลิดเพลินท่ามกลางความงดงามในนรกภูมิ แล้วข้า... ปรารถนาจะออดอ้อนขอจุมพิตจากสามีในร่างครึ่งงูกระมัง” “ข้าอัปลักษณ์” “ท่านอย่าได้เก็บคำพูดของท่านแม่มาคิด ท่านงดงามสำหรับข้าเสมอ ไม่ว่าในร่างใด สามีข้า... ท่าน... จะไม่ตามใจภริยาของท่านจริงหรือ?” เพียงสบแววตาออดอ้อนขอร้อง บุรุษอสรพิษในที่สุดก็จำต้องยอมตามใจภริยา แปลงกายกลับร่างซึ่งท่านมักจะเป็นในสภาพอ่อนแอที่สุด นอกเหนือจากร่างงูดำตัวกระจ้อยร่อย ความไม่มั่นใจปรากฏในแววตา ไม่สมกับเป็นบุรุษเทพผู้สง่างามในทุกอิริยาบถ ท่านถูกมารดาฝังความทรงจำเรื่องนี้ลงในหัวสมองแต่ยังเล็ก ทั้งเทพ ปีศาจ อสูร แม้แต่มนุษย์ต่างว่าท่านอัปลักษณ์ น่าเกลียดน่ากลัว เว้นเพียงสตรีนางหนึ่ง นางกำลังเลื่อนมือขึ้นโอบรอบคอแกร่งอย่างย่ามใจ “งามนัก... ท่านรูปงามปานหยกสลัก ข้ารักใคร่เกล็ดสีนิลของท่าน รักใคร่ท่านทั้งในร่างอสรพิษและบุรุษเทพ เทพอู่เฉิน สามีข้า...” ราวกับว่าคำพูดมากมายในอดีตไม่สามารถทำร้ายจิตใจอันบาดแผลลึกเกินเยียวยา หัวใจสองดวงสั่นระรัวไปพร้อมกันเหนือผืนน้ำกว้างใหญ่ไพศาล มองเห็นจันทร์สีแดงฉานลอยดวงกลมโตลอยอยู่ไม่ไกล อาเป้ยส่งยิ้มหวานให้สามี ดึงรอบคอแกร่งลงมาประกบปิดริมฝีปาก กลืนกินความรู้สึกอึดอัด อันเป็นปมด้อยในชีวิตของท่านไปกับริมฝีปากนุ่มนวลของนาง เมื่อบุรุษร่างกำยำขยับสอนนางว่าจุมพิตควรทำอย่างไร นางก็คล้อยตามอย่างว่าง่าย มือลูบไล้เกล็ดสีนิลบนใบหน้าคร้ามคมไปถึงแผ่นหลังอย่างหลงใหลคลั่งไคล้ ยังไม่ลืมคำเตือนของสามีด้วยว่าจะต้องระวังอยู่เสมอ จึงสะบัดชายอาภรณ์ร่ายเวทสีเหลืองทองเป็นเกราะคุ้มกันภัย ลูกแก้วกลมสีทองลอยละล่องเหนือผืนน้ำกว้างใหญ่ คลุมด้วยไอหยินสีดำของอสรพิษ ในราตรีอันงดงามอ่อนหวานปานนี้ คงไม่มีปีศาจอสูรตนไหนกล้ารบกวนสองสามีภริยาพรอดรักกันในนรกภูมิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม