แมวรีบดึงแขนวาวขึ้น เดินตรงดิ่งเข้าไปที่ร้านทำผมโทนี่
“สองคนค่ะ พี่” แมวดึงใบสมัครในมือวาวให้กับโทนี่ กะเทยมีเสน่ห์มากับทรงผมที่กิ๊บเก๋ที่สุดในห้องนี้
“อุ้ยตาย... เจ๊ชอบเพื่อนหล่อนมากกว่านะ ดำ ๆ อย่างนี้...” โทนี่มองแมวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“เราเป็นฝาแฝดกันค่ะ ไปไหนไปด้วยกัน ถ้าพี่ไม่รับเพื่อนวาว ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราก็ไม่ไปทั้งสองคน” มณีรินพูด พลางใช้สายตาอ้อนวอนโทนี่
“โอเค ๆ รับ ๆ ฉันก็จะได้รีบกลับร้านเหมือนกัน ลูกค้าก็เยอะ ๆ รู้ใช่ไหมร้านโทนี่อยู่ตรงไหน”
“รู้ค่ะ” สองสาวยิ้มแฉ่งตอบขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“เวลาไปทำงานที่ร้าน ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามมาสาย ฉันบอกเอาไว้ก่อนนะ ไม่งั้นไม่เซ็นใบผ่านให้นะคะ” กะเทยโทนี่จีบปากจีบคอพูด ก่อนจะเซ็นยิก ๆ ในเอกสาร และส่งมันคืนให้ทั้งสองสาว
“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“ยายสองคนเนี่ย มาที่ร้านฉันจะจับแปลงโฉมให้หมดเลย” โทนี่ยกมือรับไหว้ก่อนพูดทิ้งท้าย
สองสาวรีบเดินเอาใบสมัครไปส่งคืนให้กับอาจารย์
“ใครที่เรียบร้อยแล้วนั่งประจำที่ก่อนนะ” อาจารย์บัญชาออกคำสั่งอีกครั้ง
“น้ำใจ เดี๋ยวเธอออกไปกล่าวขอบคุณคุณพสุ และก็ภาคเอกชนต่าง ๆ ตามนี้นะ” อาจารย์ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งไปตรงหน้าแมว เธอรับมาแบบงง ๆ
“ออ... มณีริน เธอเป็นคนมอบช่อดอกไม้ให้กับคุณพสุนะ” อาจารย์ชี้นิ้วไปที่ช่อดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะของคุณครู
“หนูนี่นะ” วาวชี้นิ้วไปที่หน้าอกของตัวเอง
“เออสิ เธอมีปัญหาเหรอ...” อาจารย์ทำท่าขยับแว่น
“ไม่มีค่ะ” มณีรินรีบส่ายหน้าก่อนจะรับคำ
ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย ทุกคนนั่งประจำที่อยู่ในความสงบ
“ผมประทับใจน้อง ๆ นักเรียนทุกคนเลยนะครับ ช่างเป็นเด็กที่เรียบร้อย แล้วก็รู้จักหน้าที่เป็นอย่างดี” คำชมของพสุทำให้อาจารย์บัญชายิ้มแป้น
“ผมหวังว่า วิชาที่ทุกคนลงไปเรียนนั้น จะส่งผลที่ดีต่อไปในอนาคตของทุก ๆ คน และก็ฝากให้นักเรียนลองเข้าไปติดตามเพจของหน่วยงานเราด้วยนะครับ ที่เขียนอยู่บนกระดาน จะมีสิ่งดี ๆ มาแนะนำให้กับทุกคนเสมอ อีกอย่างแนะนำให้บุคคลทั่วไปเข้าดูได้ เพราะเราเปิดกว้างให้ทุกคนที่สนใจเรียนส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ ฟรี ๆ ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ” พสุกล่าวทิ้งท้าย
อาจารย์บัญชาขยิบตาให้กับสองสาว
แมวรีบลุกขึ้นมาจากที่นั่ง ก่อนจะยกมือไหว้พสุ แล้วกล่าวขอบคุณเขาและอ่านรายชื่อของสปอนเซอร์ต่าง ๆ ที่ให้ความอนุเคราะห์กับ กศน. ในวันนี้ เพื่อน ๆ ทุกคนปรบมือให้กับแมว
มณีรินเดินไปหยิบช่อดอกไม้มายืนรออยู่ใกล้ ๆ แมวอยู่แล้ว เธอจึงเดินเข้าไปมอบดอกไม้ให้กับเขา
“ขอบใจนะ” เขายิ้มให้อย่างใจดี
มณีรินก็ยังเคืองเขาอยู่ไม่น้อย พอได้เห็นใบหน้าของพสุใกล้ ๆ ก็หัวใจเต้นแรง ‘คนอะไรหน้าตาดีมาก ๆ ดูดีไปหมด แต่เสียดาย ปากร้ายพอดู’
“น้ำใจกับมณีรินยืนอยู่ที่เดิม ขอเรียนเชิญสปอนเซอร์ด้วยครับ นักเรียนคนอื่นเดินออกมาเพื่อถ่ายรูปร่วมกันกับคุณพสุ มาเร็ว ๆ เด็ก ๆ” อาจารย์กวักมือเรียกทุกคนให้มารวมตัวที่หน้าห้องเรียน
วาวยังอยู่ในท่ามอบช่อดอกไม้ให้กับเขา พสุก้มหน้าลงมามองใบหน้าของหญิงสาว พอแต่งตัวแบบนี้แล้วก็น่ารักไปอีกแบบ เขาส่งยิ้มให้กับเธอตลอดเวลา
“ขยับชิด ๆ กันหน่อยนะครับ ล้นเฟรม” อาจารย์บัญชาทำไม้ทำมือ ทุกคนจึงยืนเบียดชิดกัน วาวได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของเขา
“ส่งเสียงพร้อมกันนะครับ สตรอว์เบอร์รี...” ทุกคนทำตาม แล้วก็ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม ทุกอย่างที่มีการเก็บภาพเอาไว้ ก็ลงในเพจของ กศน. และเพจของพัฒนาชุมชนประจำอำเภอ
“อึ๋ย...วาว พี่พสุเขามองแกตาเป็นมันเลยว่ะ” แมวแซวตอนพากันเดินกลับออกมาจากห้องและตรงดิ่งไปที่โรงอาหาร
“แหวะ... แกคิดได้ไง เมื่อวานเขายังหาว่าฉันเป็น กะ... หรี่... อยู่เลย” เธอพูดคำนั้นด้วยเสียงเบา ๆ
“ตบปาก” แมวยกนิ้วชี้หน้าของเพื่อน วาวทำตามแทบทันที
“ตบเรื่องอะไรวะ” พอทำไปแล้วก็งง ๆ กับตัวเอง
“เรียก กะหรี่ ไม่ได้ ต้องเรียกคุณโส” แมวเปลี่ยนคำให้เพื่อนแล้วก็หัวเราะ วาวยกมะเหงกเขกหัวเพื่อนดังโป้ก
“ซีเรียสอยู่นะโว้ย” วาวทำหน้าเหม็น
“รู้แล้วน่า แต่ทำไมวะ พี่เขาถึงว่าแกแบบนั้น” แมวทำท่าสงสัย
“ก็นั่นสิ มาคิดแบบนี้ แล้วมาดูถูกกันแบบนี้ได้ไง เจ็บใจจัง เชอะ... คนอะไรดูถูกกันชัด ๆ แมวแกคิดดูสิ ฉันอยากเกิดมาในซ่องเหรอ ฉันเลือกได้ที่ไหน” มณีรินทำเสียงซีเรียส ก่อนจะทำหน้าเศร้าเมื่อเอ่ยถึงชาติกำเนิดของตัวเอง แต่ก็โกรธพสุด้วย
“เฮ้ย... ไม่เอา ไม่เอาแล้ว เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่านะวาวนะ”
แมวเข้าใจหัวอกของเพื่อนดี ทั้งห้องไม่มีใครอยากจะคบกับวาวเมื่อรู้ว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน มีแต่แมวที่แสดงน้ำใจ สมกับชื่อของเธอยินดีช่วยเหลือมณีรินทุกเรื่อง เธอดึงแขนของวาวให้ก้าวเร็ว ๆ ไปตามทางเดินจนถึงโรงอาหาร
“กินอะไรดี ก๋วยเตี๋ยวไม่เอาแล้วนะ เบื่อ” แมวทำหน้าว่าเบื่อจริง ๆ แต่พอไปถึงโรงอาหารกลับวิ่งตรงไปยังร้านขายขนมจีนอย่างรวดเร็ว
“โธ่...นางแมว มันก็เป็นเส้นเหมือนกัน”
“ไม่เหมือนย่ะ คนละเส้น น้ำมันแกงเคยเนี่ยสุดยอด”
“ไหนว่าแม่ทำให้กินบ่อย ๆ ไม่เบื่อหรือไง”
“ไม่เบื่อ มันของโปรด” พูดจบแมวก็ทำท่าว่าน้ำลายไหล
“ฉันขอกินข้าวราดแกงดีกว่า” พูดจบวาวก็เดินไปยังร้านที่อยู่ติดกัน แล้วสั่งอาหารสองอย่างราดมาบนข้าวเปล่า เธอจ่ายเงินและรับจานข้าวถือมาก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับแมว
“ยังไงคะคุณวาว ไหนแกจะกินข้าวราดแกง ไหงการเป็นแกงราดมาบนข้าวเนี่ย” แมวใช้ช้อนของตัวเองเคาะไปที่จานข้าวของมณีริน เพื่อนสาวได้แต่นั่งยิ้มไม่เห็นฟันทำตาหยีใส่แมว
“กวนตีนเหมือนกันนะ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาไม่เรียก แกงราดข้าวเนอะ” ทั้งสองจึงประสานเสียงหัวเราะด้วยกันอย่างสนุก