มณีรินมองตามสายตาของเขา เห็นชายหนุ่มจ้องมองขายาว ๆ ของเธอไม่หยุด เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะพูดใส่หูของเขา
“ไม่เคยเห็นแบบนี้หรือไง” เธอว่าให้เขา ตอนนี้รู้สึกอายสายตาของเขาขึ้นมาบ้าง
“รู้สึกอายขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม คิดดูสิ ผู้ชายบางคนจะเหมือนพี่หรือเปล่า เขาอาจจะคิดมิดีมิร้ายก็ได้ ไม่ใช่ห่วงใยเหมือนกับพี่” คำพูดของเขาเหมือนเธอโดนตบหน้าอย่างแรง
“เชอะ...” เธอไม่ตอบโต้ แต่กับเดินตุปัดตุป่องเอาของที่เลือกแล้วไปจ่ายเงิน พสุส่ายหน้าระรัว รู้สึกเสียดายความสะสวยของเธอ
แมวได้เล่าเรื่องของมณีรินให้เขาฟังมาบ้างแล้ว พสุลงทุนไปค้นหาข้อมูลของเธอ เผื่อว่าจะเจอญาติของมณีรินที่ยังมีชีวิตอยู่บ้าง เขาส่งข้อมูลของคุณแม่ของเด็กสาวไปให้เครือข่ายของเขาทั่วประเทศเพื่อให้ตามหาญาติ และพสุก็หวังอยู่ในใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องเจอญาติของมณีริน
“พักนี้เป็นอะไรวาว ป้าสังเกตเห็นแล้ว ทำหน้าบูดหน้าบึ้งทั้งวัน เป็นอะไรหรือเปล่า” ป้ากันยาถามอย่างห่วงใย
“หรือว่าเอ็งจะเป็นเมนส์ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักไป” นางไล่เสียดื้อ ๆ
“เปล่าหรอกป้า วาวไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่วาวรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำไมวาวต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย” เธอถามประโยคเดิม ๆ นี้อีกแล้ว แต่ครั้งนี้เด็กสาวนั่งลงแนบไปกับพื้นครัว ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างเหลือทน
“อ้าวเฮ้ย... เป็นอะไร” ป้ากันยาตกใจ เพราะเธอไม่เคยเห็นวาวร้องไห้ออกมาแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตนับครั้งได้ว่าเด็กคนนี้ร้องกี่ครั้ง อ้อมกอดที่อบอุ่นของป้าที่เธอคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้เธอปล่อยโฮออกมาอีก
“ป้าจ๋า วาวจะตั้งใจเรียน วาวจบเมื่อไหร่ วาวจะหางานที่มันมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ทำนะคะ วาวจะเอาป้ากันยาไปเลี้ยงด้วย” เธอพูดไปตามประสา แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“วาวเอ๊ย เอ็งคิดดี ทำดี ยังไงสักวันเอ็งก็ได้ดี เข้าใจไหม” ป้าปลอบใจ
“ไปอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัวเสียใหม่ไป วันนี้มีใครส่งพัสดุมาให้แน่ะป้าก็ลืมบอก วางไว้อยู่ในห้องนอนนั่นแหละ” ป้ากันยาลุกขึ้น พร้อมกับฉุดมือของมณีรินขึ้นมาด้วย เธอยิ้มให้กับป้า พร้อมกับยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา ป้ากันยายกมือขึ้นช่วยเช็ดให้อีกแรง เธอจึงยิ้มออกมาได้
“ขอบคุณป้ามากนะคะ ที่เลี้ยงวาวมาจนถึงทุกวันนี้”
“ถ้าป้าไม่เลี้ยงแก แล้วใครจะเลี้ยง ไปได้แล้ว อย่ามาร้องไห้เป็นเด็ก ๆ” นางไล่เธออีกครั้ง
มณีรินเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอเห็นกล่องพัสดุที่วางอยู่บนที่นอน จึงรีบเดินเข้าไปหากรรไกรมาเปิด พอเปิดออกมาเป็นเสื้อผ้าที่เธอสั่งไปในอินเทอร์เน็ต เป็นกระโปรงยาวหลายรูปแบบ แล้วเสื้อที่ดูเรียบร้อย สีสันก็ไม่จัดจ้านเหมือนเดิม
วาวเก็บเงินมากแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาซื้อเสื้อผ้าหรือข้าวของพวกนี้ ตอนนี้เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็ได้รับความอนุเคราะห์มาจากพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ในร้านนี่แหละ ที่เขาไม่เอาไม่ใส่แล้ว
เด็กสาวก้มมองชุดที่ตัวเองสวมใส่อยู่ตอนนี้ ก็ถอนหายใจขึ้นมาอีก
“ก็สมควรให้เขาดูถูกหรอกนะอีวาว” เธอว่าให้ตัวเอง มันดูโป๊จนปิดอะไรไม่มิด แต่อาจจะเพราะตัวเธอชินที่แต่งตัวแบบนี้ เธอจึงไม่รู้สึกอะไร แต่เธอก็ไม่ชอบเหมือนกันที่ใครมามองเธอด้วยสายตาที่พสุดูเธอเหมือนวันนี้
หญิงสาวลุกขึ้นไปอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่พร้อมที่จะทำงาน เธอเห็นป้ากันยาขยันทำงานแล้ว เธอสงสารอย่างน้อยให้แรงงานของเธอได้ผ่อนแรงของป้ากันยาบ้าง
“ลมอะไรหอบเอาสารวัตรหมี่กับดาบติ้วมาถึงที่นี่ จะกินอะไรดีคะ” ตันหยงยกมือไหว้ทั้งสองทันทีที่เขาทั้งสองคนแต่งกายเต็มยศเข้ามาถึงในร้าน
“ไม่ได้จะมากินอะไรหรอก แต่มาสำรวจตรวจสอบความเรียบร้อยตามหน้าที่ของตำรวจไทยน่ะ”
“แหม... คุณสารวัตรขา ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสงสัยหรอกค่ะ พวกเราทำงานกันสุจริตนะคะ”
“คร้าบ...” ดาบติ้วลากเสียงตอบออกรับแทนเจ้านาย
“ถ้าคุณทำงานสุจริตถูกต้อง ใครจะไปทำอะไรพวกคุณได้จริงไหม” สารวัตรหมี่ยิ้มให้อย่างใจเย็น สายตาของเขาสอดส่องมองไปทั่ว
ฟาง แม อัน และนิ เดินออกมาจากห้องแต่งตัวที่อยู่ด้านหลัง พอทั้งสี่เห็นสายตาของทั้งสองหนุ่มในเครื่องแบบก็เซ็งสุด ๆ
“กูว่าวันนี้กูไม่ได้เปิดบิลแน่” แมพูดขึ้นแบบเสียอารมณ์
“จริงว่ะ พี่ก็ว่างั้น” นิพูดขึ้นมาอีก ก่อนจะหันหลังกลับไปทางเดิมแบบเซ็งสุด ๆ
“มาขัดลาภอีกนะ ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วแท้ ๆ ตังค์ก็ไม่ค่อยมีใช้อยู่” อันบ่นขึ้นมาอีกคน
“เดี๋ยวฟางจัดการเองพี่” ฟางอาสาเดินนวยนาดเข้าไปหาสองหนุ่ม
“แหม... พี่ตันหยงไม่เชิญท่านนั่งอะคะ” เธอพูดพลางลูบไล้ปลายมือบนแผงอกของสารวัตร แล้วหลังจากนั้นฟางก็แกล้งจับกล่องดวงใจของชายหนุ่มแล้วบีบเบา ๆ
สารวัตรหมี่ถึงกลับหน้าแดง อ้าปากค้างจ้องมองหน้าของฟางอย่างหมดคำพูด เธอยิ้มยั่วเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทักทายค่ะ” เธอพูดจบก็เอามือที่ลูบเป้าของเขาเมื่อกี้ขึ้นมาแตะที่ริมฝีปาก แล้วก็ทำเป็นส่งจูบไปให้เขา เธอยกหน้าขึ้นไปประชิดแล้วกระซิบที่ข้างหูของเขา
“อยากจะใช้บริการของสารวัตรจังเลยค่ะ ท่าทางใหญ่ ๆ” เธอทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนเขาหวาน ๆ เสียงแผ่วเซ็กซี่จนชายหนุ่มขนลุก เขารีบถอยหลังออกไปในทันทีสองสามก้าว
“กลับเหอะดาบติ้ว” น้ำเสียงของเขาดูแกว่ง ๆ
แม นิ ฟาง และตันหยงหัวเราะตามหลังสองหนุ่มที่ลนลานออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า... แน่มากว่ะอีฟาง” อันตบมือดังแปะ ๆ
“ใหญ่จริงหรือ” แมยืนหน้ามาถามอย่างสนอกสนใจ หากไม่คิดว่าสารวัตรหมี่เป็นศัตรู เขาก็เป็นหนุ่มที่หน้าตาดีทีเดียว
“อื้อ...” ฟางตอบพลางทำตาเล็กตาน้อย ขยิบตาหยิบ ๆ ให้กับสองสาว ทั้งสี่คนหัวเราะประสานเสียงกันอย่างมีความสุข
“โดนจับจริง ๆ หรือครับสารวัตร” ดาบติ้วถามอย่างสนใจ ยังรู้สึกอิจฉาสารวัตรขึ้นมาตงิด ๆ
“ดาบติ้ว...” เขาทำเสียงเอ็ด ดาบติ้วรีบขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์เพราะเขาต้องเป็นคนขับพาสารวัตรกลับโรงพัก
สารวัตรหมี่ตอนนี้หน้าแดงมาจนถึงใบหู