8
มือเล็กเคลื่อนไหวไปบนกายแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ร่างกายเบาหวิวราวกับปุยนุ่น เธอมองไปที่สายธารกว้างใหญ่ ก่อนจะกระโจนเข้าไปหามัน สายธารเย็นจัดโอบล้อมรอบเรือนกาย แต่ภูตะวันไม่ได้เย็นเลยสักนิด แต่เธอกลับร้อนผ่าวไปด้วยเพลิงพิศวาสที่โอบล้อม
แขนแข็งแรงโอบรอบลำตัวบอบบาง ส่งมอบความสุขให้หญิงสาวอย่างไม่ยอมหยุด สะโพกสอบโหมกระหน่ำ สอดลึกจมดิ่งไปในเส้นทางสวาทอบอุ่นและเร่าร้อน
“ตะวัน...ภูตะวัน...” เกเบรียลร้องเรียกหญิงสาวเสียบแหบพร่ารุนแรง หายใจหอบกระเส่า “อืม...สุดยอด...เธอ...คับแน่นมาก..”
สองเรือนกายหล่อหลอมสอดผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน สายธารร้อนผ่าวไหลบ่าล้นทะลักจากสองเรือนกาย แขนแข็งแรงรัดรอบร่างบอบบาง กดรั้งจนมันจมหายไปในอกกว้าง เสียงร้องแหบพร่าดังจากสองร่าง ก่อนที่เกเบรียลจะฟุบใบหน้าลงซบกับทรวงอกนุ่ม
เป็นครู่ใหญ่กว่าที่ชายหนุ่มจะฟื้นตัวและเงยหน้ามองภูตะวันที่ยังคงมึนงงกับรสสัมผัสที่ได้รับ ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตหวานฉ่ำเยิ้มและเชิญชวนโดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว
แม้จะเสร็จสิ้นบทรักไปแล้ว แต่เกเบรียลยังแนบกายสนิทชิดกับร่างนุ่ม ดูเหมือนว่าความอบอุ่นอ่อนหวานจากหญิงสาวตรงหน้าทำให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อุ้ย!” ภูตะวันขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน “คุณขยับออกไปนิดได้ไหม ตะวัน...อึดอัด” เธอวางมือบนบ่ากว้าง อึดอัดคับแน่นจากกายแกร่งที่ยังพำนักอยู่ ไหนจะความเสียวซ่านที่เริ่มรุมเร้าใหม่อีกครั้ง ใบหน้าสวยเอ่อแดงระเรื่อยิ่งขึ้น ดวงตาหวานฉ่ำเยิ้ม
“ผิดกับฉันนะ ยังรู้สึกไม่พอ ไอ้ที่ได้ไปตะกี้มันนิดเดียวเอง”
ไม่รู้ว่าใครนะช่างส่งแม่สาวแสนสวยนี่มาให้ เขาคงจะต้องขอบคุณไปสักครั้ง...เมื่อมีโอกาส
เกเบรียลจูบปากอิ่มเต็มอย่างอดใจไม่ได้ มือลูบไล้ไปตามลำตัวนุ่ม ด้วยความปรารถนาที่โหมเร้าขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอยังจะต้องทำแบบนี้กับฉันอีกนาน แต่ครั้งต่อไปนะตะวัน เธอจะต้องเป็นคนทำให้ฉันมีความสุขถึงจุดสุดยอด จะต้องยั่วให้ฉันอยากขย้ำฉีกทึ้งเธอจนเป็นชิ้นๆ ”
“คุณ!” ภูตะวันได้แต่อ้าปากค้าง ความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกำลังเติบโตอยู่ในเรือนกายจนเธอไม่กล้าที่จะขยับตัว ในท้องไหววาบเพราะสัมผัสจากมือหนาที่ลูบไล้ลำแขนเสลา อยากขัดขืนก็ยังกลัว จะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับชายหนุ่มตรงหน้าก็ยังละอายเกินใจตัวเอง
“จะตกใจอะไรนักหนา ก็บอกแล้วว่าชอบเมกเลิฟกับเธอ ตอนนี้ก็อยากจะ...” เกเบรียลเริ่มต้นเคลื่อนไหวอีกครั้งอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงผสานสองกายรวมเป็นหนึ่งเดียว นำพาทั้งคู่ไปท่องเที่ยวบนสวรรค์ชั้นฟ้า
ภูตะวันที่เหนื่อยกับการพยายามบอกความจริงและเครียดจากการถูกชายหนุ่มหลอกล่อ แล้วยังจะมีสัมผัสร้อนๆ ที่ลามเลียไปทั่วร่างอย่างไม่ยอมหยุดนิ่ง ทำเอาหญิงสาวถึงกับหลับไปทั้งที่มีร่างใหญ่เคลื่อนไหวอยู่
เกเบรียลถึงกับเสียดาย เพราะเขายังคึกคะนองอยากท่องวิมานฉิมพลีอีกสักหลายๆ ครั้ง ก่อนจะปล่อยให้ภูตะวันหลับ แต่เป็นอย่างนี้เห็นทีจะต้องพักผ่อนเอาแรง เพื่อที่จะตื่นมาเมกเลิฟภูตะวันอีกหลายๆ ครั้งให้อิ่มเต็มในอารมณ์
ภูตะวันลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมปวดร้าวและปวดเมื่อย ร่างกายก็หนักอึ้ง หญิงสาวปรับสายตาให้เข้ากับสภาพห้อง ก่อนจะไล่มองลำตัวที่มีอะไรหนักๆ วางทับอยู่ ซึ่งสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...
ใบหน้าสากระคายด้วยหนวดและเคราสีเขียวครึ้ม ลำตัวกว้างที่ทาบทับไปบนกายเธอเป็นครึ่ง ขณะที่มือก็วางอยู่บนทรวงอกอวบอิ่มอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แขนแข็งแกร่งอีกข้างโอบรัดรอบเอวเล็กคอด ขณะขากายเกยบนเรียวขายาว
มือข้างที่เป็นอิสระค่อยๆ จับแขนใหญ่ไปวางบนลำตัวใหญ่อย่างเชื่องช้าและเบามือ ก่อนจะผ่อนลมหายใจ เมื่อสิ่งที่ทำสำเร็จเรียบร้อย แต่เพียงแค่เธอยื่นมือไปเพื่อจะจับขาแร่งออกจากขาเรียวเท่านั้นเอง
ชายที่เธอคิดว่าหลับอยู่ก็ขยับตัว มือที่ถูกยกวางแนบลำตัวแกร่งเมื่อครู่ถูกนำมาพาดทับมาบนลำตัวกลมกลึงใหม่อีกครั้ง ไม่แค่นั้น ชายหนุ่มยังรัดร่างบอบบางจนจมหายไปในอกกว้าง แล้วคนที่ภูตะวันคิดว่าหลับอยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม โดยที่เธอไม่ได้เห็นเลย
‘คิดจะทำอะไรล่ะตะวัน เธอเล่นเอาฉันถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรง แต่ก็ยังไม่พอ อยากจะโดนจัดอีกชุดใหญ่หรือไงสาวน้อย’
เกเบรียลถึงกับเสียดาย เพราะเขายังคึกคะนองอยากท่องวิมานฉิมพลีอีกสักหลายๆ ครั้ง ก่อนจะปล่อยให้ภูตะวันหลับ แต่เป็นอย่างนี้เห็นทีจะต้องพักผ่อนเอาแรง เพื่อที่จะตื่นมาเมกเลิฟภูตะวันอีกหลายๆ ครั้งให้อิ่มเต็มในอารมณ์
แม้จะไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกัน แต่ชายหนุ่มก็ยังคงหยอกล้อและเล่นกับร่างกายของเธอ เหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาตัวเล็กมีชีวิตแต่ไม่มีจิตใจ มาถึงตอนนี้สิ่งที่ชายหนุ่มต้องการ เขาก็ได้ไปโดยที่เธอขัดขืนไม่ได้เลย ถึงเวลาที่เขาก็ควรที่จะปล่อยเธอไปได้แล้ว ป่านนี้อาภารวีและตรีประดับคงจะเป็นห่วงแย่แล้ว
หญิงสาวจับแขนคนที่นอนหลับอยู่ยกขึ้นใหม่อย่างเชื่องช้า ด้วยความหวังว่าถ้าออกจากอ้อมแขนนี้ได้ เธอก็จะเป็นอิสระหนีไปจากที่นี่ได้
“จะรีบไปไหนละตะวัน หรือว่าหิว” ชายหนุ่มถามเสียงนุ่มทุ้ม ร่างกายยังรู้สึกอิ่มเต็มกับบทรักที่ได้รับ แต่เขาก็ยังรักเธอได้อย่างไม่มีวันเบื่อหรือเหน็ดเหนื่อยแม้แต่อย่างใด ชายหนุ่มพลิกตัวขึ้นทาบทับร่างบอบบางของคนที่กำลังตื่นตระหนก
เกเบรียลยิ้มกว้างทั้งปากและนัยน์ตา “ฉันลืมไปจริงๆ ด้วย เมื่อวานเธอยังไม่ได้ทานอาหารเย็นเลยนี่น่า แต่เธอก็คงจะมาโทษฉันไม่ได้หรอกนะตะวัน ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตัวเอง แล้วตอนนี้เธอก็ควรที่จะรับผิดชอบ ในสิ่งที่ก่อขึ้นมาด้วยนะคนสวย”
ภูตะวันไม่ทันได้ร้องห้าม เรียวปากนุ่มอวบอิ่มก็ถูกปิดทับ มือเขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนได้พบกับดอกรักงาม ปลายนิ้วยาวสะกิดเบาๆ จนเธอเสียวซ่านรัญจวน ก่อนที่จะแยกลำขาเสลาออกจากกัน จนกว้างพอให้กายใหญ่ได้พำนักพักพิง
“ไม่นะคุณเกล” หญิงสาวพยายามผลักร่างหนาให้ถอยห่างไป แม้จะรู้ว่ามันไม่มีความหวังก็ตาม แต่เธอก็ยังอยากที่จะลองดู
“คิดจะทำอะไรหรือตะวัน” ทั้งที่รู้อยู่แล้วแต่เกเบรียลก็ยังจะถาม มือก็แนบบนทรวงอกอวบอิ่มและเต่งตึง ปลายนิ้วยาวปัดไป่ไล้วนรอบปลายถันสีชมพูงาม ขณะมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของหญิงสาว
ภูตะวันเกร็งร่าง ขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มสะกดกลั้นความร้อนผ่าวที่ลามเลียไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว สองมือจิกลงไปบนบ่ากว้าง
“คะ...คุณเกล...คะ...คุณก็ได้ทุกอย่างไปจากตะวันแล้ว คะ...คุณปล่อยตะวันไปนะคะ”
“ทำไมละตะวัน หรือว่าอยู่กับฉัน แล้วเราเมกเลิฟกัน เธอไม่มีความสุขเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน ไล้ลิ้นวนรอบปลายถันสีชมพู แต่ก็ไม่ยอมให้อีกข้างได้น้อยหน้า ส่งปลายนิ้วยาวหยอกเย้าเคล้าคลึงมันอยู่ตลอดเวลา
ภูตะวันตัวสั่น สมองเริ่มไม่สั่งการ เมื่อถูกชายหนุ่มปลุกเร้าด้วยความชำนาญ “ตะวัน...ตะวัน...ไม่รู้...” หน้าท้องเนียนนุ่มบิดเกร็ง ทรวงอกอวบอิ่มเคลื่อนไหวตามแรงหายใจ ความร้อนผ่าวจากกายใหญ่ทาบทับแนบชิดกับกลีบดอกไม้อันอ่อนเยาว์ทำให้อารมณ์เธอกระเจิดกระเจิงมากยิ่งขึ้น
“ถ้าฉันทำแบบนี้ละตะวัน” ชายหนุ่มถาม ละมือจากทรวงอกอวบ เคลื่อนลงไปตามลำตัวเนียนนุ่มอย่างเชื่องช้า จนได้พบกับกุหลาบอ่อนเยาว์ เขาส่งนิ้วมือเข้าไปซอกซอนหาความอบอุ่นจากกลีบกายสาวอย่างไม่รอช้า
“อื้อ...คุณเกล...” ภูตะวันส่ายศีรษะ
“เรียกฉันทำไมล่ะตะวัน” เกเบรียลถาม ปลายนิ้วเขาสำรวจความลึกล้ำตามธรรมชาติของกลีบกายบอบบางและนุ่มนวล
“หรือว่าไม่ชอบให้ฉันทำแบบนี้..” ชายหนุ่มยังคงถามมาอีก ทั้งที่รู้ว่าคนที่นอนตัวอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างกำลังวอนขอให้เขาช่วยเหลือ และต้องการให้เข้าครอบครองเธออีกครั้ง
“ไม่รู้...”