6
เกเบรียลไม่สนใจสิ่งใดแล้ว ตอนนี้เขาปวดร้าวด้วยความต้องการจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ชายหนุ่มดันร่างบอบบางที่กำลังถอยหนีไปชิดผนังลิฟต์ แนบจุมพิตลงบนเรียวปากนุ่มที่เอื้อนเอ่ยอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“อื้อ...” หญิงสาวทั้งผลักทั้งดันให้ร่างใหญ่ถอยห่าง แต่ก็เหมือนกับถูกแกล้ง ยิ่งเธอออกแรงมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งจมหายเข้าไปแนบร่างแกร่งมากยิ่งขึ้น จนตอนนี้แทบจะไม่มีที่เหลือให้อากาศแทรกผ่าน
“อืม...” ลิ้นร้อนตวัดเกาะเกี่ยวไปทั่วโพรงปากนุ่ม ยิ่งภูตะวันขัดขืนมากเท่าไหร่ เกเบรียลก็ยิ่งบดเบียดขบกัดริมฝีปากอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น เขาลูบไล้มือไปทั่วลำตัวเนียนนุ่ม ก่อนตรงเข้ากอบกุมปทุมถันกลมกลึงที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ
ภูตะวันสั่นเทา เธอกำเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น แม้จะเสียวซ่านปั่นป่วนเพียงใด เธอก็ยังพยายามเรียกสติของตัวเองไม่ให้หลงใหลไปในสิ่งที่ชายหนุ่มปลุกเร้าอยู่ จนเสียงลิฟต์เตือนบอกว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้วชายหนุ่มถึงถอนจุมพิตออก
“ฉันหวังว่าเธอจะมีดีพอ ที่จะรีดความลับจากปากฉันนะภูตะวัน” เขาจับแขนเรียวกระชากลากออกไปอย่างแรง
“ปล่อยฉันนะคุณเกเบรียล ปล่อย....”
ยิ่งเดินเข้าใกล้ห้องพักมากเท่าไหร่ ภูตะวันยิ่งสั่น ขาก็ก้าวแทบจะไม่ออก เธอเกือบจะหวีดร้องเมื่อชายหนุ่มหยุดกึงแล้วร่างเธอปะทะเข้ากับกายแกร่ง ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวร่างบอบบางก็ลอยขึ้นจากพื้น
“อย่าพูดมากนะภูตะวัน ฉันยังไม่อยากนอนกับเธอตรงนี้” ชายหนุ่มขู่เสียงเขียวขณะพาหญิงสาวเข้าไปในห้องที่พนักงานเปิดประตูรออยู่ก่อนแล้ว เกเบรียลวางร่างภูตะวันลงบนพื้นใกล้กับประตูห้อง กักร่างบอบบางไว้ด้วยลำตัวแกร่ง ก่อนที่จะล้วงมือไปหยิบเงินเพื่อให้ติปแก่พนักงาน แล้วก็กดล็อกประตูอย่างรวดเร็ว
เสียงประตูปิดลงเหมือนกับปิดทางหนีของภูตะวันไปด้วย หัวใจเธอเต้นแรงเร็วราวกับกำลังจะทะลุออกจากทรวงอก เย็นวาบไปทั้งตัว ขณะมองเกเบรียลอย่างอ้อนวอน
“ฉันไม่รู้ว่าใครส่งเธอมาหรอกนะ” ปลายนิ้วยาวไล้ไปตามใบหน้าคนที่กำลังเมินหนี
“แต่ก็ต้องขอบคุณนะ ที่ส่งผู้หญิงที่ทั้งสวยและบริสุทธิ์อย่างเธอมาให้ แม้ว่าจะมากเล่ห์ไปหน่อยก็ตามที”
ชายหนุ่มจับมือเรียวไปวางบนอกกว้าง แต่เพราะกระดุมเสื้อด้านในที่หลุดออก ทำให้หญิงสาวได้สัมผัสกับกล้ามเนื้อของชายหนุ่มเต็มๆ
ภูตะวันชักมือหนี เมื่อรู้สึกเหมือนกับโดนถ่านร้อนๆ ลามเลียไปทั่วมือเรียว พลางเบี่ยงใบหน้าหนีจุมพิตที่แนบลงมาทำให้ปากอุ่นร้อนเคลื่อนจากเรียวปากนุ่มไปประทับบนแก้มเนียนหอมกรุ่นแทน แต่เกเบรียลก็ไม่ถือ เขาเคลื่อนไหวดมดอมกลิ่นสาบสาวอย่างคนใจเย็น
“เอาละภูตะวัน ไม่ว่าใครจะส่งเธอมา และสั่งให้ทำหน้าที่อะไรเพิ่มเติมก็ตามที แต่ตอนนี้เธอก็ควรที่จะทำหน้าที่นั้นให้สมบูรณ์เสียทีนะ” ชายหนุ่มดันเสื้อโค้ตสีตาลจนหล่นร่วงลงบนพื้น ก่อนช้อนกายบอบบางพาหญิงสาวไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ที่วางชิดผนังห้อง
“คุณเกเบรียล...ขอร้องนะคะ ปล่อยตะวันไปนะคะ”
ภูตะวันมองตาคมของชายหนุ่มอย่างอ้อนวอนอีกครั้ง เรียวปากนุ่มเผยออก เพื่ออ้อนวอนและบอกเล่าความจริงให้เขาฟังอีกครั้ง แต่กลับถูกนิ้วมือใหญ่ยื่นขึ้นมาปิดปากเอาไว้
เกเบรียลก็ยังส่ายหน้า “อย่าขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ดีกว่าตะวัน...อย่าทำให้ฉันโกรธมากไปกว่านี้ เพราะคนที่จะต้องรับเคราะห์นะ เป็นเธอนั่นแหละ แทนที่ฉันจะทะนุถนอมให้เธอได้พบกับความสุข อาจจะกลายเป็นฉันต้องรุนแรงกับเธอก็ได้”
ชายหนุ่มโน้มหน้าไปแนบจุมพิตบนเรียวปากนุ่ม ปลายลิ้นเกาะเกี่ยวกวาดไล้หาความหวานภายในโพรงปากนุ่มอย่างเชื่องช้า
“เธอทำใจให้ชินกับสัมผัสของฉันดีกว่าตะวัน”
เกเบรียลลูบไล้ผิวเนื้อเนียนนุ่ม แต่เพราะว่าหญิงสาวยังคงมีเสื้อผ้าปกปิดเรือนกายอยู่ เขาจึงค่อยๆ ม้วนเสื้อตัวเล็กที่ตัวเองนั่นแหละเป็นคนเลือกให้ออกและโยนทิ้งไป
“ฉันอยากได้ยินเสียงหวานๆ ของเธอ”
ใบหน้าคร้ามแกร่งคลอเคลีย ปากหนาบดเบียดเคล้าคลึงควานหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม มือก็ลูบไล้ไล่ลงไปหาทรวงอกคู่งามที่เคยได้ยลโฉมและกลืนกินมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ความหวานที่ได้รับยังทำให้เขาติดใจจนลืมไม่ลง
แม้ว่าสิ่งที่เขาสัมผัสอยู่มันจะมีปราการขวางกั้น แต่ก็ขัดความต้องการของเขาไม่ได้ ปากอุ่นขบเม้มลากไล้ไปบนผิวเนื้อใยไหมสร้างความปั่นป่วนราวให้กับภูตะวันจนร้อนราวกับถูกไฟเผา
ใบหน้านวลแหงนหายไปด้านหลัง ผมยาวสลวยหลุดลุ่ยออกจากเชือกที่มัดไว้ แต่แทนที่จะน่ารำคาญ มันกลับกระตุ้นเกเบรียลให้ร้อน เพราะผู้หญิงที่ตอนนี้หาใช่สาวน้อยแล้วไม่ แต่ได้กลายเป็นแม่สาวสุดเซ็กซี่ ที่ทำให้เขาอยากกระโจนลงไปในกองเพลิงพิศวาสอย่างเร็วที่สุด
“ดีมากเลยภูตะวัน...ผิวเธอทั้งนุ่มและหอม” แต่เขายังต้องอดทนเล้าโลมหญิงสาวไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ เพราะรู้ว่าเธอยังไม่เคยมือชาย ถ้ารีบเร่งไปนอกจากภูตะวันจะไม่มีความสุขแล้ว อาจจะทำให้หญิงสาวเข็ดขยาดและขลาดกลัวผู้ชายไปเสียได้
“ตรงนี้...” เขาก้มหน้าลงจุมพิตบนกลางทรวงเต่งตึง เกเบรียลขบริมฝีปากไปตามขอบเสื้อชั้นในสีหวานและบางเบา ที่แทบจะปกปิดผิวเนื้อเนียนนุ่มจากปากและสายตาเขาไม่ได้เลย
“ช่างให้ความรู้สึกดีที่ได้จับมากๆ ”
ภูตะวันวางมือเรียวบนบ่ากว้าง จิกลงไปเต็มแรงด้วยความเสียวซ่านและรัญจวน เธอยิ่งปั่นป่วนมากยิ่งเพราะสัมผัสอย่างแนบชิดของชายหนุ่ม ท้องน้อยแบนเรียบขมวดเป็นเกลียวคลื่น ร่างบางเอนตัวทอดยาวไปตามความยาวของผนังโซฟา โดยมีปากหนาตามติดไปอย่างไม่ลดละ
เกเบรียลขบกับริมฝีปากไปบนผิวเนื้อเนียนนุ่มผ่านเนื้อผ้าหนา ปากหนาอ้าและงับทับทิมผลเล็กที่ดุนดันเนื้อผ้าออกมา
“คุณ...คุณ...” ภูตะวันเรียกชื่อชายหนุ่มไม่ออก
“เรียกฉันว่าเกลซิตะวัน” เกเบรียลบอกเสียแหบพร่า เพราะปากยังแนบชิดอยู่สองเต้าเต่งตึง ชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้าไปมาระหว่างสองปทุมถันงามเด่น ฟันขาวขบเม้มปลายลิ้นตวัดทับทิมผลงามเข้าปากทั้งที่มันยังอยู่ในกรวยสีหวาน
“คุณ...เกล...” ภูตะวันเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงแหบพร่า
เกเบรียลรีบกลืนกินทับทิมผลงามเข้าปากอีกระลอก ก่อนจะปล่อยให้มันเป็นอิสระ ชายหนุ่มไล้มือไปบนผิวเนื้อเนียนนุ่ม หยุดพักอยู่ที่กลางท้องน้อยเนียนเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน ก่อนเคลื่อนใบหน้าไปสมทบ พร้อมกับสัมผัสไล้วนเวียนหยอกเย้า สร้างความเสียวกระสันให้หญิงสาวจนกายนุ่มบิดเป็นเกลียว
“ได้โปรด...หยุดเถอะ” แต่เธอกลับลากไล้มือไปตามลำตัวใหญ่อย่างสะเปะสะปะ ก่อนสะดุดกับเสื้อที่ยังปกคลุมกายแกร่ง เธอเร่งรุดปลดกระดุมออกจากรังดุมด้วยความขัดใจ
เกเบรียลหัวเราะกลั้วคอ จัดการช่วยเหลือหญิงสาวในการกำจัดเสื้อออกจากกายเพื่อให้เธอจะได้สัมผัสกับแผ่นอกกว้างและไรขนเส้นเล็กๆ ที่ความไม่ประสาของเธอทำให้เขาเสียวซ่าน
“เธอนี่...” เพราะต้องการให้หญิงสาวหยุดห้าม เขาจึงฉกจุมพิตลบปากอิ่มแรงๆ ขบกัดกดคลึงพลางเกี่ยวกวัดหาความหวานปานน้ำผึ้ง มือก็เคลื่อนไปด้านหลัง ปลดตะขอเสื้อชั้นในโยนทิ้งไป ก่อนเคลื่อนใบหน้าลงไปตามลำคอระหง หยุดพักระหว่างสองทรวงที่ปราศจากสิ่งปกปิด
ปากหนาขบเม้มกัดเชอร์รี่สีชมพูหวานทั้งสองผลสลับไปมา มือเขาเคลื่อนไหวลงไปด้านล่างที่ยังมีกระโปรงตัวสั้นปกปิดอยู่ ก่อนจับเอวเล็กคอดและดันหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนขอบโซฟา แทรกแกร่งระหว่างสองขาเรียว
ภูตะวันยังมีสติเหลืออยู่บ้าง เธออายจนใบหน้าแดง กระโปรงที่ชายหนุ่มเลือกมาให้เธอใส่ ถอยร่นขึ้นไปเผยให้เห็นลำขาเรียวยาวเสลา จะดึงกระโปรงมาปิดก็ไม่ได้
หัวใจดวงน้อยก็ต้องสั่นสะทานอีกครา เมื่อเกเบรียลฝังใบหน้าระหว่างลำตัวนุ่ม ริมฝีปากร้อนผ่าวขบเม้มผิวเนื้อผ้าเสื้อตัวสวยบางเบา จนเห็นผิวสีน้ำผึ้งด้านใน
“อือ...คุณ...เกล...”
เสียงร้องและอาการขัดขืนของภูตะวัน เป็นการปลุกเร้าความต้องการของเกเบรียลให้ค่อยๆ ร้อนเป็นเพลิงไฟ กายใหญ่ปวดร้าวด้วยอารมณ์กฤษณาอันดำมืด