"เฮ๊อ" ดวงดาวหรือพิมพ์ดาวถอนหายใจพร้อมกับปาดน้ำใส ๆ ที่ไหลออกทางหางตา
"เป็นอะไรไปหรือพิมพ์ คิดมากอีกแล้วใช่มั๊ย ไม่เอาซิ อย่าคิดมาก เดี๋ยวจะไม่สบายเอา" หนุ่มใหญ่วัยกลางคนเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ แต่เจ้าของมือนั้นกลับดึงมือออกไป
"คุณหมอฉันคิดว่ามันไม่เหมาะค่ะ ฉันเคยมีสามีเคยมีลูกมาแล้ว ฉันไม่อยากทำให้คุณหมอมัวหมอง"
"ทำไมล่ะ พีระกับพีรดาน่ะโตแล้ว เค้าต้องเข้าใจซิ่ ที่ผมทำทุกวันนี้มันยังไม่พออีกหรือ ผมยังจริงใจไม่พออีกหรือไง หรือว่ายังรักสามีที่ตายไปแล้วอยู่...เฮ๊อ ผมไม่ว่าถ้าพิมพ์จะยังรักเค้าอยู่แต่เค้าไม่อยู่แล้วขอเป็นผมที่จะอยู่ข้าง ๆ คุณจะได้มั๊ย ผมยอมทิ้งทุกอย่างที่ฟาร์ม เพราะอยากมาดูแลคุณ อ้างเหตุผลสารพัด..เฮ๊อ..ผมผิดเอง..ผมขอโทษที่เร่งรัดคุณจนเกินไป"
"ขอโทษค่ะ พิมพ์ไม่ดีพอสำหรับใครอีกต่อไปแล้ว พิมพ์มีลูกได้อยู่ดูความสำเร็จของเค้าพิมพ์ก็พอใจแล้วค่ะ" หนุ่มใหญ่วัยกลางคนถอนหายใจยืดยาวแล้วเดินออกไปเงียบ ๆ
"หนูพิมพ์ แม่ขอคุยด้วยหน่อยได้มั๊ย?" หญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ หันไปมองหญิงชราผู้เป็นมารดาของผู้มีพระคุณ
"คุณท่าน"
"ฉันไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังหรอกว่าเธอมีความเป็นมายังไง แต่ฉันมั่นใจอยู่อย่างคือเธอเป็นคนดี ถ้าลูกชายของฉันจะรักเธอฉันจะไม่แปลกใจเลยสักนิดเดียว และฉันก็ไม่เคยคิดรังเกียจที่เธอเคยมีครอบครัวมาแล้วด้วย" หญิงชราผู้ใหญ่ของบ้านบอกอย่างจริงใจ
"มันไม่ใช่แค่นั้นค่ะคุณท่าน หนูยังมีอะไรปิดบังคุณท่านอยู่ แต่หนูบอกไม่ได้ แต่หนูขอยืนยันด้วยชีวิตว่าหนูไม่เคยคิดร้ายกับคุณหมอและคุณท่านเลย คุณหมอคือผู้มีพระคุณต่อหนูและลูกหนูซาบซึ้งในพระคุณอยู่เสมอค่ะ"
"เฮ๊อ ฉันคงต้องยอมเธอซินะ แต่จำไว้อย่างนึง ฉันยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้ของฉันแล้ว และต้นข้าว กับใบเตยก็คือหลานรักของฉัน จะบอกไว้ให้ อะไรก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความคิดฉันได้แล้วกัน จะสาวหรือสวยขนาดไหนฉันก็ไม่เอา"
"คุณท่าน ฮือ..." พิมพ์ดาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับก้มกราบแทบเท้ามารดาของผู้มีพระคุณอย่างซาบซึ้งใจ
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ยังลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องลืมลุก มันทุกข์มันเศร้าก็มาร้องไห้กับแม่ แม่มีลูกชายคนเดียวมีลูกสาวมาเพิ่มแถมหลานอีกสอง..ดีจะตายไปทันใช้..เธอว่ามั๊ย..เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ" แล้วสองสาวต่างวัยก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน เพียงแต่อีกคนหัวเราะทั้งน้ำตา ส่วนอีกคนที่ทั้งสองคิดว่าเดินออกไปแล้วเขามิได้ไปไหนไกลยังคงแอบฟังอยู่แถวนั้นและได้ยินทุกบทสนทนาของหญิงต่างวัยพูดคุยกัน 《ขอบคุณครับแม่》เขาได้แต่ขอบคุณมารดาอยู่ในใจ
__________________________
ทางด้านแดนชลและแดนไตร--สองพี่น้องช่วยกันหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งสองช่วยกันรื้อห้องเก็บของที่เก็บข้าวของของมารดาที่ล่วงลับไปแล้วอีกครั้ง
"ไม่เห็นจะมีอะไรเลยเฮียแดน.. โว่ย......ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก แดนไตร ระบายอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออดด้วยการต่อยฝาผนังห้องเก็บของ
"ควบคุมอารมณ์หน่อยดาม ใจเย็น" คนพี่ให้สติน้องชาย "เฮียคิดดูดิ่ ถ้าน้าดาวยังมีชีวิตอยู่เค้าใจร้ายมากเลยนะ ทิ้งพี่สาวไปกับผู้ชายคนนั้นน่ะ ทั้ง ๆ ที่แม่เรารักน้าดาวยังกะลูกก็ไม่ปาน ขนาดก่อนตายยังสั่งเสียกับเฮียไม่ใช่ไงว่าให้ตามหาให้เจอเพื่อมอบที่แปลงนั้นให้ แล้วไง แม่ต้องตรอมใจตาย มันสมควรแล้วเหรอ ห๊า..ผมไม่เข้าใจ..ทำไม..ฮึ่ก?"
"ดาม ดาม ใจเย็น เฮียเชื่อแม่ต้องมีเหตุผล ใจเย็น ๆ น้องชาย" แดนชลกอดปลอบและลูบหลังน้องชายด้วยความเข้าใจหัวอกคนเป็นลูก
"ผมโอเค ผมไม่เป็นไร ว่าแต่เฮียเถอะ?" แดนไตร ตั้งสติ แต่ถามกลับพี่ชายด้วยความห่วงใย
"เฮียโอเค เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ โชคชะตาคงไม่เล่นตลกกับเรานานไปกว่านี้หรอก เฮียเชื่ออย่างนั้น"
"อืม ผมจะเชื่อแบบเฮียเหมือนกัน"
"วันนี้พอก่อน พักเถอะ"
"อือ สองพี่น้องกอดคอกันออกจากออกจากห้องเก็บของ แต่ทว่า เพล้ง!
"อุ่ย..รูปแม่กับน้าดาวนิ่ แตกหมดเลย"
"ระวังบาดมือ มะเฮียช่วยเก็บ" แต่ต้องขอบคุณโชคชะตาหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้สองพี่น้องพบหลักฐานบางอย่างเป็นจดหมายลายมือของมารดาผู้ล่วงลับไปแล้ว
¤ถึงลูกรักทั้งสอง ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แม่อาจจะไม่อยู่กับลูกแล้ว ถ้าวันนึงลูก ๆ โตขึ้นและเข้มแข็งพอ แม่ขอฝากให้ลูกดูแลแองเจิ้ลให้ดี เพราะแองเจิ้ลเป็นกุญแจดอกสำคัญดอกเดียวที่จะไขไปถึงตัวน้าดาวของลูกได้ ถ้าเจอน้าดาวแล้วแม่ฝากบอกน้าดาวด้วยว่าแม่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่กะเกณฑ์ชีวิตน้องจนเกินไป
ถึงดาวพี่รู้แล้วว่ามันเป็นคนไม่ดี ดีแล้วที่ดาวหนีไปซ๊ะได้ไม่ต้องไปอยู่กับมัน แต่มีสิ่งนึงที่พี่อยากจะขอ พี่อยากให้เธอกลับมารับสิ่งที่มันควรจะเป็นของเธอ พี่คงไม่มีโอกาสจะมอบให้ด้วยตัวเองแล้ว คงต้องฝากเป็นภาระของลูกชายทั้งสองของพี่ในการส่งคืนของที่เป็นของน้องแล้วหละ
รัก ดวงเดือน¤
ทันทีที่อ่านจดหมายฉบับนั้นจบแดนไตรปล่อยโฮออกมาอย่างหมดอาย
"ฮือ...ฮึ่ก...ฮือ....เฮีย...ผมสงสารแม่อ่ะ..เฮีย..ฮึ่ก"
"....." ตุบ ตุบ ตุบ ไม่มีคำพูดใดออกจากปากคนพี่ เขาทำได้เพียงกอดปลอบน้องชายและตบไหล่เบา ๆ อย่าให้กำลังใจซึ่งกันและกัน 《อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าเราต้องเริ่มจากอะไร ขอบคุณนะครับแม่》