@ห้องทำงานของแดนชล
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะผาผนังห้อง เพราะเจ้าของห้องเปิดประตูห้องทำงานไว้
แดนชลเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง "อ้าว..นายดาม..เข้ามาซิ มีไรว่ามา" แดนชลเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย "ก็เดิม ๆ ไม่มีไรคืบหน้า..อืม หรือเราจะจ้างนักสืบรายอื่นดู?" แดนไตรเสนอ "ก็ตามใจนายซิ รายนี้ได้ข่าวว่าจ้างมาเป็นปีแล้วนิ่?" "ก็นั่นนะซิ ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า หรือว่าเบาะแสมันไม่เพียงพอว๊ะเฮีย?" คนน้องคิด "อือ โจ่งแจ้งไปก็ไม่ดีซ๊ะด้วย อย่าลืมว่ามีคนเคยมาสวมรอยก่อนนี้" "อืมนั่นดิ่...เฮียแดน...." "ว่า?"
"เฮียว่าน้าดาวจะยังมีชีวิตอยู่มั๊ย แล้วน้าเค้าจะมีลูกกับผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า...ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด..เราน่าจะมีน้องนะเฮีย?!" "....." แล้วความเงียบก็ปกคลุมการสนทนาของสองพี่น้อง
→บ่ายคล้อยที่ออฟฟิศสัตวแพทย์
ต้นข้าวกำลังสำรวจเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ในการทำวัคซีนของม้ารุ่นใหม่
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะที่ฝาผนังห้อง สัตวแพทย์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง "อ้าว คุณแดนมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?" "ยุ่งหรือเปล่า ผมจะพาไปดูแองเจิ้ลเสียหน่อย" (แองเจิ้ลคือม้าแคระที่แก่แล้วค่ะ)
"ครับ แองเจิ้ลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เมื่อเช้าผมยังไปดูอยู่เลย ก็ยังปกติอยูนะครับ?" สัตวแพทย์หนุ่มตั้งข้อสงสัย
"มาเถอะครับผมอยากให้คุณไปดูด้วยตนเอง"
"ดะ ได้ครับ ขอผมเก็บของแป๊บ" แล้วทั้งคู่ก็รุดหน้าไปถึงคอกม้าแก่แองเจิ้ลอย่างรวดเร็ว
"ฮ่อ ๆ เสียงม้าแก่คำราม" แองเจิ้ลมีอาการแบบนี้ตั้งแต่คุณกลับมา เมื่อก่อนไม่เคยเป็น...แต่เดี๋ยวนะ...เคย แต่นานมาแล้ว แต่มันก็นานมาก"
"อือเท่าที่ผมตรวจดูก็อยู่ในเกณฑ์ม้าสูงวัยที่สุขภาพแข็งแรงนะครับ" ต้นข้าวตอบไปตามที่เห็น
"นั่นซิพอคุณหมอมามันก็หยุดร้อง นี่ซิที่แปลก" แดนชลเผลอพูดมันออกไปจนได้
"คงเหมือนคนแก่ที่เวลาได้รับการเอาใจใส่แล้วจะมีกำลังใจมั๊งครับ" สัตวแพทย์หนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ
"ครับ คงงั้น" 《มันแปลกตรงที่แองเจิ้ลเป็นม้าสุดรักของน้าสาวของเขาที่หายตัวไป แล้วไม่มีใครที่แองเจิ้ลจะยอมให้เข้าใกล้ได้เท่าสัตวแพทย์ผู้มาใหม่ นิซิ่ยิ่งแปลกไปใหญ่》แดนชลได้แต่คิดในใจ
"เฮ้อ" เขาได้แต่ถอนหายใจ หนทางช่างมืดมนเหลือเกิน
หลังจากกลับมาจากคอกม้าแองเจิ้ลแดนชลได้มานั่งทำงานที่ออฟฟิศต่อแต่ไม่มีสมาธิ ในใจมีแต่ความสงสัยได้แต่เก็บความสงสัยนี้เอาไว้ในใจ แองเจิ้ลไม่เคยลืมน้าดาวของเขาเลย เขาเคยพิสูจน์โดยการเอาเสื้อผ้า ของใช้เก่าของน้าของเขามาให้แองเจิ้ลดม ท่าทางนางดูตื่นเต้นดีใจลุกขึ้นเดิน แตกต่างจากเมื่อก่อนที่เลือกที่จะนอนเฉย ๆ และอารมณ์หงุดหงิดไม่ให้ใครเข้าใกล้ "นี่มันอะไร แม่ครับช่วยหาทางออกให้ผมที ช่วยบอกผมที" ชายหนุ่มวัยย่าง 32 ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานอย่างอ่อนล้า
¤"แดน แดน ตื่นเถอะ ช่วยน้องด้วย ไปช่วยน้อง"¤
เฮื่อก! แดนชลสะดุ้งตกใจ นี่คือความฝันหรือความจริง มันเกิดอะไรขึ้น เขาควรจะเริ่มพิสูจน์จากตรงไหนดี เขาดูนาฬิกาข้อมือพบว่าเป็นเวลา 20.45 น.
"ใครอยู่ข้างนอกบ้างไปตามคุณหมอพีระมาพบผมหน่อย"
"ครับคุณแดน" สักพัก ขออนุญาตครับคุณแดนผมไปแล้วไม่เห็นคุณหมอที่เรือนพักเลยครับ ไฟก็ปิดมืดเหมือนยังไม่กลับมาอย่างนั้นแหละครับ"
"อะไรน๊ะ มีใครบอกได้บ้างว่าพบคุณหมอล่าสุดที่ไหน เมื่อไร แบ่งทีมออกตามหา เร็ว!" แดนชลออกคำสั่งเสียงเข้ม
"คะครับ พวกผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ" หนึ่งในการ์ดรับคำผู้เป็นนาย
แดนชลรู้สึกเอะใจกับความฝัน รีบคว้ากุญแจรถคู่ใจขับตรงมาที่คอกม้าแองเจิ้ลทันที ฮึ่ม ๆ ปึ่ก กรึ่บ เสียงรถยนต์สมรรถนะดี ตามด้วยเสียงเปิด-ปิดประตูรถ
"คุณหมอ ดึกดื่นอย่างนี้มาทำอะไรครับ?" แดนชลเข้าไปนั่งใกล้ ๆ สัตวแพทย์หนุ่มที่กำลังลูบหลังแองเจิ้ลอยู่ และแองเจิ้ลเองก็ดูสงบมาก
"อ้าวคุณแดนเองเหรอครับ พอดีผมขี่ม้าไปดูคอกสัตว์ด้านโน้น แล้วบังเอิญพลัดหลง โชคดีที่เจอผู้หญิงวัยกลางคนคนนึงนำผมมาที่คอกม้าที่นี่ครับ" แดนชลได้แต่อึ้งกับคำตอบ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่ จะใช่หรือ สิ่งที่ตามหามาตลอดหลังจากแม่ตายกำลังอยู่ตรงหน้าเขานี่เองเหรอ ใช่เหรอครับแม่ จริง ๆ ใช่มั๊ย เขาได้แต่คิดวกวนในใจไม่จบสิ้น
"แองเจิ้ลเป็นไงบ้าง?"
"ก็ปกติดีครับ เดินโชว์หนึ่งกรุบครับ คล้าย ๆ จะอารมณ์ดีเสียด้วยครับ หึหึ" ต้นข้าวพูดไปยิ้มไป ปิดท้ายด้วยการหัวเราะเบา ๆ อย่างคนอารมณ์ดี
"……อือ ก็ดีแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง" แดนชลเอ่ยขึ้นมาจนได้หลังจากนิ่งเงิียบไปสักพัก
"ครับ ขอบคุณครับ" แดนชลหาได้มาส่งที่เรือนพักอีกคนไม่ เขาเลือกที่จะพาสัตวแพทย์หนุ่มมาที่ออฟฟิศของเขา
"คุณหมอครับแวะคุยกันที่ออฟฟิศหน่อยนะครับเชิญนั่งก่อน"
"ครับคุณแดน" ทันที่ที่ก้นถึงโซฟานายจ้างหนุ่มรุ่นพี่ยิงคำถาม
"คุณหมอพอจะบอกรูปพรรณสัณฐานของผู้หญิงที่พาคุณหมอมาที่คอกแองเจิ้ลได้มั๊ยครับ?"
"อ๋อ ได้ครับ เป็นผู้หญิงรูปร่างผอม ความสูงน่าจะประมาณ 160 กว่า ผิวพรรณผมไม่ทราบเพราะตรงนั้นมันมืดมาก แต่ที่ผมมั่นใจคือทรงผมเธอจะขมวดมวยไว้ที่ก้นเต่าครับ"
"เหรอ คงเป็นชาวบ้านแถวนี้ละนะ เอาล่ะขอบคุณมาก ไปพักผ่อนเถอะรบกวนเวลามากแล้ว" แดนชลตบที่ไหล่ของสัตวแพทย์หนุ่มเบา ๆ และเฝ้ามองจนชายหนุ่มเดินหายไปจนลับตาจึงล้วงกระเป๋ากางเกงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูเพื่อต่อสายหาใครบางคน
ปลายสาย: ครับ
แดนชล: ค้นประวัติคนนี้ให้หน่วยซิ ข้อมูลอยู่ในไลน์ ผมต้องการด่วน
ปลายสาย: ครับ
ติ๊ด แดนชลกดวางสายและอยู่ในห้วงคำนึงของตัวเองไปพักใหญ่จึงตั้งสมาธิทำงานของตนเองต่อไป