ทางด้านสัตวแพทย์หนุ่มต้นข้าว
ตู้ด สายเรียกเข้ามารดา
ต้นข้าว: ครับแม่
แม่: ต้นข้าว เป็นยังไงบ้างลูก แม่ใจคอไม่ดีเลย แม่ได้ข่าวว่าได้งานใหม่ทำงานที่ฟาร์ม เป็นยังไงบ้างลูก เจ้านายเค้าดีกับลูกมั๊ย
ต้นข้าว: ดีมากเลยครับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมอยู่ได้
แม่: แล้วน้องล่ะลูก ไม่เห็นมาหาแม่บ้างเลย
ต้นข้าว: น้องเรียน อยู่ที่หอพักสุดสัปดาห์ผมจะไปรับกลับบ้านทีครับ (เขาเลือกที่โกหกมารดาเพื่อความสบายใจ)
แม่: อ้อ เหรอจ๊ะ พาน้องมาหาแม่บ้างนะแม่คิดถึง
ต้นข้าว: ครับแม่ รักแม่ครับ
แม่: จ้ะลูก รักลูกนะ ติ๊ด เสียงกดวางสาย ทันใดนั้น
ปัง ปัง! เสียงวัตถุโลหะแหวกพุ่งกลางอากาศมุ่งไปที่คอกม้า
สัตวแพทย์หนุ่มรู้สึกกังวลห่วงแองเจิ้ลขึ้นมาตะหงิด ๆ รีบรุดไปที่คอกม้าอย่างเร็ว ด้วยอาวุธเพียงไม้พอเหมาะ ๆ มือและไฟฉายส่องทางและเป้สนามคู่ใจ
สัตวแพทย์หนุ่มต้นข้าวแอบซุ่มอยู่ที่คอกม้าแองเจิ้ลเขาโล่งใจขึ้นเล็กน้อยที่ไม่ได้กลิ่นคาวเลือดและเสียงร้องทรมานนั่นหมายความว่าแองเจิ้ลย่อมปลอดภัย แต่เขาก็ยังไม่สบายใจนักเพราะเสียงวิถีกระสุนมันมุ่งมาทางนี้
"คุณหมอ มาทำอะไรครับ รู้มั๊ยมันอันตราย?" คนพี่รู้สึกตำหนิคนน้องขึ้นมา
"เอ้า พี่แดน ผมเป็นห่วงแองเจิ้ลครับ เสียงวิถีกระสุนมันมาทางนี้ ก็เลยออกมาดู เผื่อมีสัตว์อื่นถูกกระสุนจะได้ช่วยทัน"
"อื้อ ..ออกมาโดยไม่มีอาวุธอะไรเลยนี่นะ..เอารับไป" วัตถุหนัก สีดำมะเมื่อมอยู่ในมือเขาแล้วโดยสมบูรณ์
"เอ่อ ครับ" "ภายในบรรจุลูกเต็มแม็ก พร้อม ถ้าไม่มั่นใจอย่าลั่นไก นายทำได้เฮียเชื่อ" คนพี่พูดพร้อมกับตบไหล่คนน้องหนัก ๆ เป็นการปลุกขวัญและกำลังใจกลาย ๆ
"เสียงมันเงียบไปแล้วนะครับ" คนน้องเอ่ยพร้อมกับมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง
"อืมมันคงมีวัตถุประสงค์อื่นมากกว่า ระ" ..พี่แดนระวัง! ยังไม่ทันจบประโยคของคนพี่ ต้นข้าวร้องขึ้นพร้อมกับผลักคนพี่ให้ล้มลงเพื่อให้พ้นวิถีอะไรบางอย่าง
ตุ้บ แดนชลเสียหลักล้มลงกับพื้นแล้วพลิกตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาซัดกระสุนไปหนึ่งนัดใส่เป้าหมายตามวิถีกระสุนที่พุ่งเข้ามาเพื่อป้องปราม และเป็นการส่งสัญญาณให้เวรยามในฟาร์มรู้ตัว เพื่อขอกำลังสนับสนุน
"มีใครเป็นอะไรมั๊ยครับนาย ผมได้ยินเสียงปืนสองนัด?" ลูกน้องหนุ่มฝีมือดีไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมไม่เป็นไร คุณหมอล่ะโอเคมั๊ย?"
"ไม่เป็นไรครับ เล็กน้อย" "เอ๊ แต่ผมได้กลิ่นคาวเลือดนะครับ นายมีบาดแผลอะไรหรือเปล่าครับ?" ขณะลูกน้องกับเจ้านายหนุ่มกำลังคุยกันอยู่นั้น ใครอีกคนได้ล้มทั้งยืนเสียแล้ว
!!คุณหมอ/ต้นข้าว นายไปบอกคนงานเอารถออกผมจะพาคุณหมอไปโรงพยาบาล
......................................................
@โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง
"เฮีย น้องเป็นไงบ้าง?" แดนไตรไถ่ถามหลังจากโผล่หน้ามาจากประตู
"อืม ไม่โดนอวัยวะสำคัญ แต่ก็เสียเลือดมากน่ะเลยวูบไป ช่วงนี้น้องอาจจะพักผ่อนน้อยด้วย เห็นคุณหมอว่าเลือดซีดน่ะ" คนพี่อธิบาย
"แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง มันมาเหยียบจมูกชัด ๆ เลยแม่ง" แดนไตรสบถ
"บางที่มันอาจเล่นแผนล่อเหยื่อมาติดกับนะเฮียว่า"
"เฮียหมายความว่ามันรู้แล้วว่า...." แดนไตรไม่พูดต่อใช้สายตามองไปที่คนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มแทน
"เฮียไม่แน่ใจ แต่มีอยู่อย่างที่เฮียมั่นใจว่าต้องเป็นมัน" คนพี่พูดจบแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยล้า
"อะไรหรือเฮีย?" คนน้องซัก
"ในจดหมายที่นายก็เห็น แองเจิ้ลคือคีย์เวิร์ดสำคัญของเรื่องนี้ พวกมันถึงเลือกคอกม้าไง และคนที่พร้อมจะปกป้องแองเจิ้ลก็คือคนที่รักแองเจิ้ล และคนที่จะได้ประโยชน์จากแองเจิ้ลไง อีกอย่าง เฮียฝันถึงแม่ ในฝันแม่บอกให้ช่วยน้อง" คนพี่อธิบายยืดยาว
"เฮ๊อ.....ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ ผมยังไม่อยากกำพร้าพี่"
"หึหึ อย่าพูดเป็นเล่นไป ห่วงแต่ตัวเองเถอะ อย่าเที่ยวให้มันมากนัก ระวังตัวด้วย ขับรถขับราให้มันหูไวตาไว"
"คร้าบพี่ชาย ทราบแล้วคร้าบ"
"เออ รู้ก็ดี ป๊าเค้าเป็นห่วงเราน๊ะ ฝากบอกมา"
"อืม รู้แล้ว เฮียกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีมั๊ย เดี๋ยวผมเฝ้าน้องเอง?" คนน้องเสนอ "อืมก็ดีเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวเฮียเข้าฟาร์มสั่งงานเสร็จแล้วจะมา เป็นห่วงแองเจิ้ลเหมือนกัน"
"อืม ไปเถอะ ระวังตัวด้วย"
อีกทางด้านหนึ่ง???
"ผลั่วะ ผลั่วะ พวกมึงทำอะไร ทำไมโง่อย่างงี้ ห๊า" เสียงตบหน้าด้วยปลายกระบอกปืน
"ผมผิดไปแล้วครับนาย"
"มึงรู้มั๊ยว่าม้าตัวนั่นสำคัญกับกูขนาดไหน มันเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้กูได้เจอกับผู้หญิงที่กูรัก สักครั้งก็ยังดี" ลูกน้องหนุ่มของพรมแดนได้แต่เจ็บและงงในอารมณ์ของเจ้านาย
"ครับ ครับ ต่อไปพวกผมจะไม่แตะอีกแล้วครับ"
"เออ ไปได้แล้ว เห็นหน้าพวกมึงแล้วกุโมโห ความดันจะขึ้น" เสี่ยใหญ่สบถอย่างอารมณ์เสียและสงสัยที่สุดว่าเขาไม่ได้สั่งแล้วใครกันที่เป็นคนสั่ง และที่งงยิ่งกว่านั้นคือลูกน้องเขาบอกว่าเป็นคำสั่งของเขานิซิ หรือว่า???
ทางด้านปกป้องทันทีที่ได้รับข่าวจากแดนชลเรื่องต้นข้าวถูกยิงเขาทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจบอกมารดาของคนป่วยให้รู้จะดีที่สุดในสถาณการณ์นี้
@บ้านสวนของปกป้อง
"พิมพ์ ผมมีอะไรจะคุยด้วย"
"มีอะไรหรือคะ?" "คือที่ฟาร์มดวงเดือนโทรมาบอกว่าต้นข้าวถูกยิง" ช็อคในช็อค
"ฟาร์มดวงเดือน" ใช่ ปกป้องผู้มีพระคุณของเธอ ลูกชายของเธอได้งานใหม่ที่ฟาร์มเธอก็ไม่เคยถามว่าฟาร์มไหน มัวแต่อยู่ในความเศร้าโศกของตัวเอง
"คุณหมอช่วยพาฉันไปหาลูกหน่อยได้มั๊ยค๊ะ"
"ไปซิ่ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ ฉันก็เป็นห่วงหลานฉันเหมือนกัน" คนแก่ของบ้านโพร่งขึ้น
"แม่/คุณท่าน!"
"ไงจะไปกันได้หรือยัง ตาป้อง ทำอะไรอยู่ พาฉันไปเยี่ยมหลานฉันเถอะ ฉันขอร้องหละ" ปานใจพูดกลั้นสะอื้น
"ได้ครับแม่ เราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย คุณแม่พร้อมนะครับ?"
"อือ แม่พร้อม" แล้วทั้งสามก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลที่ต้นข้าวรักษาตัวอยู่ในเวลาบ่าย