@โรงพยาบาล
"สวัสดีครับผมมาเยี่ยมคนป่วยชื่อนายพีระ บำรุงวงศ์ ที่เป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มดวงเดือนครับ" "อ๋อ ฟาร์มดวงเดือน อยู่ห้องพิเศษ 529 ค่ะ ขึ้นลิฟท์ทางโน้นแล้วกดชั้น 5 ห้องอยู่ทางขวามือค่ะ" "ขอบคุณค่ะ"
@ห้องพักพีระ
ทันที่ที่ปกป้องเปิดประตูห้องพักพิมพ์ดาวหรือดวงดาวรีบผลุนผลันเข้าไปหาลูกชาย
"ต้นข้าวฮื่อ ๆ เป็นยังไงบ้างลูก ทำไมต้องให้เลือด ฮื่อ ๆ"
"มาแล้วเหรอครับน้าดาว" !?ทันที่ที่ได้ยินเสียง พืมพ์ดาวหรือดวงดาวหันไปตามเสียง "เอ่อ นี่พิมพ์ดาวเป็นแม่ของพีระครับคุณแดน" ปกป้องแทรกขึ้นอย่าง งง ๆ มีเพียงความเงียบเท่านั้นคือคำตอบ
"แม่คร้าบ คุณย่า มาได้ไง?" ต้นข้าวพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"อาจารย์พามาเองแหละ อย่าเพิ่งขยับเลยนอนเถอะเดี๋ยวแผลจะฉีกเอา" ปกป้องพูดขึ้นพร้อมกับจัดแจงหาเก้าอี้ให้ผู้สูงวัยและมารดาผู้ป่วยนั่ง
"หลานย่า เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บมากมั๊ย พระคุ้มครองนะลูก หมดเคราะห์หมดโศกกันซะที" คุณนายปานใจพูดพร้อมกับลูบผมคนป่วยไปพลางเช็ดน้ำตาไป
"หมอเย็บแผลให้สวยเป๊ะเลยครับ ที่ต้องให้เลือดเพราะทดแทนเลือดที่เสียไปครับ คนไข้ก็รู้สึกตัวดีไม่มีอะไรน่าห่วงครับ" แดนไตรอธิบายคร่าว ๆ "ขอเชิญน้าดาวที่โซฟาด้านโน้นดีกว่าครับ ทางนี้น่าจะมีคนยึดเก้าอี้เฝ้าผู้ป่วยแน่นหนาอยู่" แดนชลพูดติดตลกแล้วปรายตามองไปที่คุณนายปานใจพลางนึกชื่นชมน้องชายในใจไม่ได้ว่าช่างเป็นที่รักของผู้คนจริง ๆ ใครอยู่ใกล้เป็นต้องหลงรักไม่เว้นแม้แต่เขาและน้องชาย
-อีกด้านของห้องพักผู้ป่วยซึ่งจัดเป็นห้องรับรองมิดชิดแยกคนละส่วนกับห้องผู้ป่วย
สองพี่น้องเดินประคองผู้เป็นน้าเข้ามายังห้องรับรองแล้วให้นั่งที่โซหาตัวยาว
"คุณ คุณ คงเป็นนายจ้างของต้นข้าวใช่มั๊ยค๊ะ"
"ใช่ครับ น้าดาวจำผมได้หรือเปล่าครับ ผมแดนชล เองครับ ตอนนั้นผมเป็นเด็กอายุ 7-8 ปี น้าดาวคงจำไม่ได้" แดนชลอธิบาย
"อะไรกัน คุณอย่ามาล้อดิฉันเล่นเลยค่ะ ดิฉันไม่ขำนะคะ" พิมพ์ดาวหรือดวงดาวประท้วง
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องงัดหลักฐานมาพูดกันแล้วแหละครับ" แดนไตรสายชนโพล่งขึ้นอย่างขัดใจ
"ดาม ให้เกียรติผู้ใหญ่ด้วย"
"แล้วนี่หละครับคืออะไร แดนชลหยิบเอกสารจากซองสีน้ำตาลและเอามันออกมาให้ผู้เป็นน้าที่ไม่ยอมรับดูทีละใบทีละใบ" น้ำตาคนเป็นน้ารื้อเต็มเบ้าตา ในนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และความตกใจ เขาเห็นแบบนั้น
"น้าดาวไม่ต้องกลัวนะครับ พวกผมมาดี ไม่คิดร้ายอยากให้น้าดาวเชื่อใจ" แดนชลพูดพร้อมกับแบมือแล้วชูมือทั้งสองขึ้นระดับอก
"คุณคุณต้องการอะไรคะ ถ้าหมายถึงที่แปลงนั้นดิฉันบอกได้เลยค่ะว่าดิฉันไม่ติดใจอะไรเลย ไม่ขอรับค่ะ"
"จะไม่รับได้ยังไงในเมื่อจดหมายของคุณแม่ระบุไว้ว่าต้องการให้คุณน่ะ เคยรู้บ้างมั๊ยว่าพี่สาวของคุณคิดถึงคุณจนลมหายใจสุดท้ายน่ะ ไม่คิดจะมาดูมาเยี่ยมเลยเหรอ แล้วไหนแองเจิ้ลที่รักนักรักหนาล่ะ ไม่เห็นจะมาดูดำดูดี ฮึ่ก" แดนไตรโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด ทั้งน้ำตา พร้อมกับยื่นจดหมายลายมือมารดาของตนยัดใส่มือผู้เป็นน้าแล้วลุกขึ้นไปยืนหันหน้าเข้าฝาผนังเพราะไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย ฝ่ายผู้เป็นน้าหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านด้วยสายตาที่สั่นระริก
¤ถึงลูกรักทั้งสอง ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แม่อาจจะไม่อยู่กับลูกแล้ว ถ้าวันนึงลูก ๆ โตขึ้นเข้มแข็งขึ้น แม่ขอฝากให้ลูกดูแลแองเจิ้ลให้ดี เพราะแองเจิ้ลเป็นกุญแจดอกสำคัญดอกเดียวที่จะไขไปถึงตัวน้าดาวของลูกได้ ถ้าเจอน้าดาวแล้วแม่ฝากบอกน้าดาวด้วยว่าแม่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่กะเกณฑ์ชีวิตน้องจนเกินไป พี่รู้แล้วว่ามันเป็นคนไม่ดี ดีแล้วที่ดาวหนีไปซ๊ะได้ไม่ต้องไปอยู่กับมัน แต่มีสิ่งนึงที่พี่อยากจะขอ พี่อยากให้เธอกลับมารับสิ่งที่มันควรจะเป็นของเธอ พี่คงไม่มีโอกาสจะมอบให้ด้วยตัวเองแล้ว คงต้องฝากเป็นภาระของลูกชายทั้งสองของพี่ในการส่งคืนของที่เป็นของน้องแล้วหละ
รัก ดวงเดือน¤
ทันทีที่อ่านจดหมายด้วยลายมือพี่สาวที่คิดถึงมาตลอดจบ พิมพ์ดาวหรือดวงดาว หลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่ขาดสาย "พี่เดือน ฮื่อ ๆ หนูขอโทษ ที่หนูหนีพี่มา มันจะข่มขืนหนู หนูไม่อยากอยู่กับมัน แล้วพี่เดือนยังเชื่อมันอีกด้วย" "ใคร มันคือใคร น้าดาวบอกผมไดมั๊ย?" แดนชลพยายามใจเย็นเกลี้ยกล่อม "ฮือ ๆ ไอ้เสี่ยพรมแดน ฮือ ๆ" "ว่าแล้วเชียว เรื่องดีดีไม่เคยมีในไอ้เสี่ยจั_ไรนี่สักที มึงได้เจอกุแน่" คนน้องโพร่งขึ้น "ดามใจเย็น เรื่องมันก็นานมาแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว" คนพี่ห้ามทัพ "แล้วที่คนของมันมายิงเฮียที่คอกม้าแองเจิ้ล จนต้นข้าวมารับกระสุนแทนหละ มันหมายความว่าไง มันจะดีขึ้นได้ไง คนมันเคยชั่ว เคยเลวมันก็ชั่วก็เลววันยังค่ำ" คนที่นั่งฟังจับต้นชนปลายได้ถูกถึงกับลมจับหมดสติไปพักนึง "น้าดาว น้าดาวครับ" สักพัก "อือ น้าไม่เป็นไร คงเหนื่อยเดินทางน่ะ" "ผมว่าน้าไปพักที่ฟาร์มสักคืนดีมั๊ยครับ?" แดนชลเสนอ
"ผมว่าก็ดีนะครับ ขอโทษที่เสียมารยาทบังเอิญจะเข้ามาตามน่ะ ต้นข้าวถามหา" "เหรอคะ? งั้นน้าขอไปหาต้นข้าวก่อนนะคะ" ประโยคหลังหันไปบอกหลานชายทั้งสอง
ทางด้านปกป้องยังคงยืนซึมอยู่ที่ประตู
"คุณหมอโอเคมั๊ยครับ?" แดนชลถามด้วยความห่วงใย "ไม่โอเคเลยครับ ตลอดเวลาที่เธอพักอยู่ที่บ้านของผมเธอไม่เคยบอกอะไรกับผมและแม่ของผมเลย ผมเคยรักและยังรักเธออยู่ครับ เคยขอให้เธอเป็นคู่ชีวิตแต่เธอก็บ่ายเบี่ยงตลอดทั้ง ๆ ที่แม่ของผมก็ยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้แล้วด้วย มาวันนี้ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมแยกแยะได้ ยังไงเสีย พีระและพีรดาก็ยังคงเป็นเสมือนลูกชายกับลูกสาวของผมเหมือนเดิม