ตอนที่ 1 เลขานุการมือหนึ่ง
เสียงฝีเท้าในจังหวะที่คุ้นเคยนั้นแม้ไม่ต้องหันหน้าไปมอง ‘วิชญะ’ ก็รู้ดีว่ารองประธานสาวที่ตนเป็นเลขานุการให้เธอนั้นได้มาถึงแล้ว
เลขานุการหนุ่มถือสมุดจดปกหนังสีดำประจำตัวลุกขึ้นแล้วเดินตามเธอเข้าไปในห้องทำงานตามกิจวัตรที่ทำในทุกเช้า
“วันนี้มีคุณองอาจฝ่ายจัดซื้อขอเข้าพบคุณณิครับ แต่ว่าเธอมอบหมายให้คุณฐารับเรื่องแทน ผมนัดให้แล้วในช่วงบ่าย”
“ฉันพึ่งจะมาถึงให้ได้นั่งหายใจหายคอก่อนไม่ได้เหรอคะคุณเลขา” เสียงแหลมเล็กของ ‘ณัฐฐา’ บ่งบอกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย
“คุณฐาไม่ได้วิ่งมาทำงานนี่ครับไม่น่าจะเหนื่อยอะไร” เขายิ้มที่มุมปากแล้วบอกตารางงานประจำวันต่ออย่างละเอียด
รองประธานสาวกอดอกเม้มริมฝีปากแดงเรื่อของตนด้วยความขัดใจเล็กน้อย วิชญะคือลูกชายเพื่อนรักของบิดาเธอ เขาเรียนจบแล้วก็มาทำงานที่บริษัทของบิดา
ตอนที่เธอยังเรียนอยู่และมาเรียนรู้งานที่นี่ก็ได้เขามาเป็นพี่เลี้ยง พอเรียนจบมาเธอก็ได้เรียนรู้งานจากเขา พอได้รับความไว้วางใจจากบิดาเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองประธานบริหารบิดาก็ยังส่งให้เขามาเป็นเลขานุการของเธออีก
‘เป็นเลขาหรือมาเป็นผู้คุมกันแน่’
“ตารางงานวันนี้ก็มีเท่านี้ครับ” เลขานุการหนุ่มปิดสมุดจดในมือแล้วยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
“ขอโทษนะคะ พอดีว่าฉันไม่ได้ฟัง ขออีกรอบ” เธอเอียงคอถามเขาด้วยท่าทียียวนเล็กน้อย การได้ทำให้เขาวุ่นวายเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ
“ตอนสิบโมงมีนัดเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาอีกเจ้าที่จะทำอาคารพาณิชย์หน้าโครงการเฟสสิบ ตอนเที่ยงมีนัดทานอาหารกลางวันกับท่านประธานใหญ่ คุณลุงฝากบอกว่าให้ผมพาคุณฐาไปให้ทันก่อนเที่ยงครับ ส่วนตอนบ่ายมีนัดคุยงานกับคุณองอาจแทนคุณณิ” เขาทวนตารางงานเธออีกรอบแล้วยิ้มตอบกลับไป
รองประธานสาวลดยิ้มลงแล้วยักไหล่เล็กน้อยเหมือนว่าเธอรับทราบแล้วและกวนประสาทเขาเล็กน้อย
วิชญะรู้ตัวดีว่าเธอไม่ค่อยพอใจเขานัก เพราะ ‘ณัฐชัย’ บิดาของเธอนั้นมักจะให้เขาเป็นคนดูแลและชี้นำทางให้เธอเสมอ แม้จะเป็นรองประธานบริษัทก็ตามจึงทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ทุกคนรู้ดีว่าเบื้องหลังความสำเร็จของณัฐฐามีเขาคอยช่วยเหลืออยู่ แต่นี่เองที่ทำให้รองประธานสาวหงุดหงิดเพราะนั่นหมายถึงทุกคนคิดว่าเธอไม่มีความสามารถมากพอที่จะก้าวหน้าในตำแหน่งรองประธานด้วยตนเอง
สำหรับเขาแล้วเธอคือผู้หญิงที่เขาแอบมีใจให้ แต่ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวเพราะแม้จะเป็นลูกชายของเพื่อนรักของบิดาเธอ แต่ด้วยฐานะทางครอบครัวที่แตกต่างกันทำให้เขาไม่กล้าพอที่จะเอื้อมมือไปเด็ดดอกฟ้าดอกนี้ลงมา
“แล้วเอกสารที่ฉันขอล่ะคะ”
“ฝ่ายโครงการกำลังสรุปให้ครับ” เขาตอบแล้วมองสายตาของเธออย่างรู้ใจ
“ส่วนกระเป๋าคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดที่คุณฐาอยากได้ ตอนนี้ผมจองให้แล้วครับ สัปดาห์หน้าสินค้ามาถึงครับ” เขารีบแทรกขึ้นมาอย่างรู้ใจ
ณัฐฐาได้ยินข่าวดีก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ กระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกที่เธอตัดสินใจซื้อด้วยเงินหลักแสนเพราะอยากให้รางวัลตัวเองกำลังจะมาอยู่ในมือแล้ว
วิชญะมองรอยยิ้มที่มีความสุขของเธอแล้วเดินออกจากห้องไปประจำที่โต๊ะทำงานของตน
ภาพณัฐฐาในวัยเด็กที่รู้จักกันเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักสดใส หลังจากนั้นก็ห่างกันไปแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนที่เธอเรียนอยู่มัธยมปลายแล้วมาเรียนรู้งานบริหารตอนที่เขาพึ่งทำงานได้ปีแรก
ความเฉลียวฉลาดแต่แสนดื้อรั้นนั้นทำให้เขารู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก ตอนสมัยเด็กว่าน่ารักแล้ว พอกลับมาเจอกันอีกครั้งก็มีเสน่ห์น่าค้นหา
************************
วิชญะนั่งจัดการเอกสารตรงหน้าแล้วทวนรายละเอียดอยู่หลายรอบอย่างละเอียด ความจริงจังและฝีมือการทำงานที่ละเอียดรอบคอบทำให้ได้รับการชื่นชมจากทุกคนที่รู้จักเขา
รวมไปถึงความสุขุมเกินวัยและความสุภาพของเขาทำให้สาวๆ ในบริษัทก็ชื่นชมและอยากทำความรู้จักกับเขาในฐานะที่มากกว่าเพื่อนร่วมงาน
“พี่วิชญ์วันนี้ไปกินราดหน้าเจ้าดังกับพวกเราไหมคะ” พนักงานสาวสวยถามเขาเสียงหวาน
เลขานุการหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทแล้วยิ้มให้เธออย่างสุภาพ
“คงไม่ได้ไปหรอกครับ วันนี้ผมต้องพาคุณฐาออกไปรับประทานกับท่านประธานใหญ่”
“วันไหนก็ไม่ได้ไปด้วยกันสักที ภารกิจเยอะตลอดเลยนะคะ ดาวน้อยใจแล้วนะคะ” ดาวเรศบีบเสียงพูดแล้วยิ้มหวานให้เขา
“ก็ผมเลี่ยงไม่ได้นี่ครับ ทุกอย่างมันคือหน้าที่” พูดจบเขาก็ดูนาฬิกาข้อมือแล้วปิดแฟ้มเอกสารตรงหน้า ไม่ได้สนใจการหว่านเสน่ห์ของหญิงสาวตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ขอตัวนะครับ ได้เวลาแล้ว” เขาปฏิเสธอย่างสุภาพแล้วลุกขึ้นยืนขยับเสื้อสูทให้เข้าที่
พนักงานสาวสวยได้แต่มองด้วยความเสียดาย ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังปฏิเสธเธออยู่ดี
วิชญะเดินไปหยุดที่หน้าประตูห้องแล้วเคาะเป็นสัญญาณก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“พร้อมรึยังครับคุณฐา”
“ไม่เห็นเหรอคะว่าฉันกำลังแต่งหน้าอยู่”
รองประธานสาวพูดในขณะที่กำลังเติมแป้งที่ใบหน้าขาวเนียนนั้น ริมฝีปากแดงเรื่อขยับพูดเป็นภาพที่เขาสามารถมองได้อย่างไม่มีเบื่อแล้วอมยิ้มให้กับมัน
“คุณฐาไม่ต้องเติมลิปก็สวยแล้วครับ” เขารีบพูดแทรกในขณะที่เธอกำลังจะเติมลิปสติกเพิ่มทำให้รองประธานสาวแก้มร้อนผ่าวแล้วเก็บแท่งลิปสติกสีสดนั้นกลับเข้าไปในกระเป๋า
“ก็แน่ล่ะ ฉันต้องสวยอยู่แล้ว” เธอพูดด้วยความมั่นใจกลบเกลื่อนความเขินอายที่เกิดขึ้น
“งั้นเราไปกันเถอะครับ ไปตอนนี้น่าจะถึงทันเวลาพอดี” น้ำเสียงนุ่มทุ้มบอกแล้วอดไม่ได้ที่จะมองที่ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัสนั้น
ณัฐฐาลุกขึ้นแล้วเดินนำเขาไปในฐานะรองประธานบริษัท เพราะเคยให้เขาเดินนำแล้วแต่เป็นวิชญะเองที่ไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้น
เลขานุการหนุ่มเดินตามหลังเธอ ไม่สนใจว่าจะถูกมองว่าเขาตามหลังผู้หญิงอยู่เพราะอยากให้เกียรติเธอ
เมื่อไปถึงรถณัฐฐาก็เดินไปนั่งที่ด้านหน้าข้างคนขับไม่ได้ไปนั่งที่ด้านหลัง
“ไม่นั่งด้านหลังเหรอครับ”
“อย่างน้อยคุณก็เป็นหลานคนโปรดของคุณพ่อนี่คะ” เธอพูดแล้วยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะสวมแว่นตากันแดดแล้วหลับตาลงเพื่อพักสายตา
วิชญะยิ้มที่มุมปากแล้วรับหน้าที่ขับรถเพื่อพาเธอไปยังจุดหมาย อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เกลียดเสียทีเดียว
************************