1
...บทนำ...
“พวกแกเป็นใครน่ะ ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
ชัชญา รุ่งรัศมี บุตรสาวคนเดียวของเสี่ยชาญ ผู้มีอิทธิพลในแถบนี้ ทั้งร่ำรวยและมีธุรกิจหลายอย่างกำลังมองผู้ชายหลายคนที่เดินมาดักหน้าดักหลังเธอด้วยสายตาเอาเรื่อง เธอรู้ดีว่าพวกเขากำลังจะทำร้ายเธอ แต่คนไม่เคยกลัวอะไร ไม่มีสีหน้าสะพรึงกลัวเลยสักนิด เตรียมพร้อมรับมือเท่านั้น
พวกมันไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่ตรงเข้าจัดการล็อกตัวเธอเอาไว้ แต่เพราะวิชาป้องกันตัวที่ร่ำเรียนมาด้วยความชอบส่วนตัวทำให้เธอหลบหลีกต่อสู้ใช้หมัดศอกเข่ากับชายฉกรรจ์เหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่เช่นไรก็ยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าอย่างไรก็สู้ผู้ชายอกสามศอกที่กรูกันเข้ามาเล่นงานไม่ได้ ทำให้ชัชญาพลาดพลั้งในที่สุด
“ปล่อยนะ” เธอดิ้นรนขัดขืนแต่สู้แรงพวกมันไม่ไหว แถมยังโดนล็อกเอาไว้จากทางด้านหลัง
“เฮ้ย! พวกแกทำอะไรน่ะ ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้” เสียงกร้าวของอธิป อธิราชดังราวฟ้าผ่า พร้อมกับหมัดเข่าศอกที่เขาแลกไม่ยั้ง ก่อนที่นพฤทธิ์จะมาช่วยอีกคน ทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน
“อ๊าก!!!” อธิปร้องเสียงหลงเมื่อโดนมีดปลายแหลมคมปาดเข้าที่แขน เขาหันไปเตะมันจนเกลือกลิ้งบนพื้นหน้าห้างสรรพสินค้า ก่อนที่พวกมันจะถอยหนีไปด้วยความหวาดกลัว
“เป็นยังไงบ้าง” ชัชญารีบรุดเข้ามาดูบาดแผลชายหนุ่มที่มีน้ำใจช่วยเธอเอาไว้
“ผมไม่เป็นไรครับ คุณเป็นยังไงบ้าง”
อธิปเอ่ยถาม เขากวาดสายตามองสำรวจร่างของคนตรงหน้า สายตาอันเฉียบแหลมของเขาสามารถเก็บรายละเอียดของเรือนร่างตรงหน้าได้อย่างครบถ้วน เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็ก แต่อวบอิ่มในสัดส่วนที่สมควรอวบ ทั้งอรชร เอวคอดเล็กจนเขาคิดว่าคงรวบได้ทั้งสองมือ ไหนจะสะโพกงอนๆ ที่รับกับช่วงขาเพรียว ผิวขาวจัดนั้นอมชมพูระเรื่ออย่างคนสุขภาพดีและไม่ใคร่จะโดนแดด แตกต่างจากหญิงสาวต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในไร่ในสวน เส้นผมของเธอดัดเป็นลอนสีน้ำตาลเข้มประกายทองทำให้ใบหน้าของเธอดูโดดเด่นและเซ็กซี่ร้ายกาจ จมูกโด่งเล็กรั้นอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกถึงความดื้อรั้นและเอาแต่ใจ ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ ที่ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เพราะความที่อยากประทับจูบลงไปเชยชิมว่ามันจะหวานหอมและร้อนแรงแค่ไหน เธอเป็นคนตัวสูง แขนขายาว แม้กระทั้งนิ้วก็ยังเรียวยาว ปลายเล็บงอนเด้งเหมือนนางรำ แต่นั่นบ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูทุกระเบียบนิ้ว
“ไม่เป็นอะไร แค่ตกใจนิดหน่อย ขอบใจนายสองคนมากนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”
“ฉันว่าควรไปทำแผลก่อนนะ เลือดไหลเยอะเชียว”
“ขอบคุณครับ” อธิปยอมตามหญิงสาวไปที่คลินิกใกล้ๆ ส่วนชัชญานั้นรอจนอีกฝ่ายทำแผลเสร็จเรียบร้อย เพราะเธอมีเวลาว่างทั้งวัน ไม่ค่อยได้มีอะไรให้ทำ นอกจากช็อปปิ้งและทำกิจกรรมอันน่าเบื่อกับบ้าน
จริงๆ เธอมีบอดี้การ์ดของบิดาติดตามมามากมาย แต่เพราะเธอรู้สึกอึดอัดเหมือนติดคุก จึงแอบหนีออกมา ถ้าใช้รถของบิดา ทุกคนก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เธอจึงไม่ใช้รถยนต์ของที่บ้าน กว่าจะคิดแผนการหนีออกมาได้ก็ทำให้เธอลุ้นระทึกแทบหัวใจวาย เพราะมีสาวใช้คนสนิทช่วยด้วย ทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อของเธอตื่นเต้นกว่าที่เป็นอยู่
แม้ไร่สายธารจะอยู่ในชนบทแต่ภายในนั้นเจริญรุ่งเรืองไปตามบารมีของบิดา เธอตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่หายากยิ่งในสังคมเมืองหลวง แต่ในบ้านกลับมีสิ่งอำนวยความสะดวกคับคั่ง ทั้งสระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ซาวน่า อินเตอร์เน็ต จานดาวเทียมและทุกอย่างไม่แพ้ในเมืองกรุง ที่บิดาสรรหามาบำเรอตัวเองและเผื่อแผ่มายังเธอด้วย
จริงๆ เธอไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความรักของพ่อแม่ บิดาของเธอมีเธอเพราะทำให้มารดาของเธอท้อง ด้วยความที่มารดาหน้าตาดีท่านเลยถูกตาต้องใจ อยากได้ร่างกายแต่ไม่อยากได้พันธะ ท่านเลยจำต้องเลี้ยงดูเธอมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้นบิดาของเธอจึงไม่เคยให้ความรัก ให้เงินเลี้ยงดูเธอเพียงอย่างเดียว เธอมักจะขาดความอบอุ่น และเรียกหาความรักจากคนรอบข้าง แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความว่างเปล่า หลังสิ้นมารดาผู้ให้กำเนิด
เธอไม่เคยเข้าใจความเป็นพ่อลูก หรือสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับบิดา ท่านไม่เคยถามไถ่ ให้คำปรึกษาหรืออะไรทั้งนั้น เธออยากทำอะไรก็ทำไปเลย ดูเหมือนตามใจ แต่แท้ที่จริงคือความรำคาญที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือคอยคิดแก้ปัญหาอะไรให้ต้องปวดหัว
จริงๆ ชัชญารู้ดีว่าบิดาไม่ได้ตามใจเธอหรอก เขาทำเพราะเธอชอบเรียกร้องความสนใจ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะต้องการสิ่งใดเขาก็ไม่อยากขัดใจ ขอแค่เธออย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขา ซึ่งเธอก็อดไม่ได้เมื่อเห็นผู้หญิงพวกนั้นกับบิดาของเธอ เธอคงจะอยู่ของเธอดีๆ ถ้ายัยพวกนั้นไม่กระตุ้นต่อมอยากตบคนของเธอขึ้นมา
เธอมีเพื่อนน้อย หรือจะพูดว่าไม่มีเพื่อนก็เป็นได้ เธอคบใครไม่ได้นานอาจเพราะความเอาแต่ใจ แต่ลึกๆ ใครจะรู้ว่าเธอโหยหาเพื่อนแท้ขนาดไหน แต่ชีวิตและโลกสอนให้เธอรู้ว่าเพื่อนแท้ไม่มีในโลก ทุกคนคบเธอก็เพราะเงินตัวเดียว ดังนั้นเธอจึงสรรหาทุกสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมาลบปมด้อยเรื่องบิดามารดาและครอบครัว ทุกอย่างที่ตอบสนองได้เธอใช้เงินซื้อมันอย่างไม่คิดติดใจ ก็เธอไม่ได้เป็นคนหาเงิน มันเป็นเงินของบิดาที่มากมายมหาศาล ซึ่งใช้ไปถึงชาติหน้าก็คงไม่หมด เพราะเธอรู้ว่าท่านรวยมาก สามารถซื้อเกาะใหญ่ๆ ได้โดยไม่ติดขัด หากเขาชอบและอยากให้ที่นั่นเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ราคาแพงลิ่วได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
เธอไม่เคยรู้ว่าบิดาทำงานอะไร และเธอก็ไม่เคยสนใจ เขาให้เงินเธอก็รับมันมาเหมือนเป็นเรื่องเคยชิน อยากได้อะไรก็ต้องได้ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองนิสัยเหมือนบิดาเข้าไปทุกที
แม้จะต้องการความรักขนาดไหน แต่เธอก็ทำใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอไม่มีญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย พี่น้อง ลุงป้าน้าอา มีแค่บิดาคนเดียว เนื่องจากมารดาเป็นเด็กกำพร้าที่บังเอิญหน้าตาดีและบิดาก็เผลอไปถูกใจเข้าเลยเอามาเป็นเมีย ไม่ได้ยกย่องเชิดชูอะไรนักหนา
ชาติกำเนิดของเธอก็ไม่ได้ดีเด่อะไร เพียงแค่บิดาไม่เคยยกย่องมารดา ไม่เคยเอ่ยถึงให้ระคายหัวใจ และไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงอีกด้วย ท่านตายไปตอนที่เธอยังจำความได้ ตอนที่เธออายุห้าขวบเศษ
“นายสองคนชื่ออะไร” ชัชญาเอ่ยถามเมื่อทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“ผมชื่ออธิปครับ ชื่อเล่นว่าไท ส่วนนี่เพื่อนสนิทของผมชื่อนพฤทธิ์ ชื่อเล่นว่าไข่”
“นี่เอาไปสิ” ชัชญาพยักหน้าเหมือนไม่ใส่ใจ จริงๆ ก่อนจะควักเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมายื่นให้คนทั้งสอง ซึ่งถ้าคำนวณจากสายตานั้นมากพอสมควร เธอไม่จำเป็นต้องนั่งรอสองคนนี่เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี เลยมานั่งพักใจที่นี่สักครู่
“ผมสองคนไม่ได้ต้องการเงินครับ ผมแค่อยากช่วย” อธิปมองเมินเงินจำนวนมากตรงหน้า
“เอาไปเถอะน่า ฉันไม่อยากติดค้างบุญคุณของใคร”
“ผมคงรับไว้ไม่ได้ ถึงพวกผมจะตกงานแต่ก็ไม่เคยคิดว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นหนี้บุญคุณหรือต้องตอบแทนกันด้วยเงินจำนวนมากแบบนี้” อธิปตอบเสียงราบเรียบไม่ปรายตามองเงินปึกใหญ่ในมือเรียวสวยของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
“เมื่อกี้พวกนายบอกว่ากำลังตกงานอย่างนั้นเหรอ”
ชัชญาเลิกคิ้วขึ้นถาม เธอเก็บเงินจำนวนนั้นไว้เพราะไม่ชอบเซ้าซี้ใคร ถ้าไม่เต็มใจจะรับ หยิ่งในศักดิ์ศรีมากนักก็ไม่ต้องเอา นอกจากเรื่องบางเรื่องที่เธอต้องการ และไม่อยากให้ใครขัดใจ เธอจะไม่ยอมให้ใครปฏิเสธเด็ดขาด