@ผับ
สี่หนุ่มที่วันนี้นัดกันออกมาสังสรรค์ คราวแรกอคิราห์ว่าจะปฏิเสธเพราะอยากอยู่กับลูก แต่ก็ได้รับปากไปแล้วเพราะภูผาลงมาดูงานที่กรุงเทพ นานๆ เจอกันที ไม่ว่างยังไงก็ต้องปลีกตัวไปเจอ
เขา เคน และกฤษณะซึ่งเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิดย่อมได้เจอกันบ่อย ส่วนภูผาที่เป็นคนเชียงใหม่นานๆ ทีจะมาหา หากอยากเจอกันพวกเขาต้องวางเรื่องอะไรต่างๆ ลงแล้วไปเจอเพื่อนให้ได้
ก็มีกันเท่านี้ตั้งแต่สมัยเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจบมานานหลายปี ต่างคนต่างทำงาน แต่ยังสามารถหาเวลามาเจอกันได้
ครั้งนี้ภูผาลงมาดูงานและนัดดื่มกันเขาจึงไม่พลาดที่จะไป มาผับที่เมียของกฤษณะเคยทำงาน และพวกเขาก็เคยมาเที่ยวกัน หรือเรียกว่าตั้งแต่มาเที่ยวที่นี่แล้วเกิดถูกใจเพราะมีห้องวีไอพีดูเป็นส่วนตัว พวกเขาก็มาแต่ที่นี่ไม่ไปไหนเลย
พอมาถึง มองเข้าไปด้านในที่มีกระจกกั้นเป็นห้อง ก็เจอกับสามคนนั้นที่มาถึงก่อนแล้ว
พอเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงไอ้ภูผามันทักมาก่อนใครเพื่อน
"มึงมาช้านะ" เพราะปกติเรื่องเหล้าและออกไปเที่ยว อคิราห์ไม่พลาดที่จะมาถึงแล้วสั่งเครื่องดื่มนั่งชิลล์ก่อน แต่คราวนี้กลับมาทีหลังเพื่อน
"ติดธุระนิดหน่อย ส่งลูกเข้านอนอยู่"
"หื้ม" ทั้งสามคนที่กำลังกระดกเหล้าอยู่ถึงกับชะงัก แต่พอเห็นอคิราห์อมยิ้มมาให้แล้วเดินมานั่งลงที่ข้างกฤษณะจึงได้ดื่มต่อ
"กูพูดจริง" นั่นจึงทำให้ทั้งสามคนสำลักออกมาพร้อมกัน
"พูดจริงเรื่อง?" กฤษณะลูบตามคอทำหน้าเหยเกถามอย่างไม่อยากเชื่อ
"กู ทำ ผู้ หญิง ท้อง" อคิราห์เอ่ยย้ำช้าๆ ชัดๆ ให้เพื่อนทุกคนฟัง
คราวนี้ทุกคนต่างเงียบ เพราะดูสีหน้าเพื่อนวันนี้ไม่ค่อยขี้เล่นอย่างคราวก่อนๆ ก็เริ่มหวั่น
"มึงอำพวกกูหรือพูดเรื่องจริง" เคนถามย้ำอีกที
"จริง!" อคิราห์ย้ำน้ำเสียงหนักแน่น
"ใครวะไอ้ซัน" ภูผาถามบ้าง อคิราห์ไม่มีแฟน พวกเขามั่นใจได้ แต่บอกว่าทำผู้หญิงท้องแล้วมันคนไหนกัน
"เธอชื่อเมย์ ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วน่ะ"
"ฮะห้าปี! ยังไง มึงช่วยเล่ายาวๆ อย่าบอกว่ามึงทำผู้หญิงขายตัวท้อง" เพราะชีวิตเขากับเพื่อนเห็นทีจะมีแต่ผู้หญิงขายตัวรายล้อมรอบ "แต่คนอย่างมึงไม่เคยพลาดนี่นา" ไอ้นี่มันอำพวกเขาเล่นเปล่าวะ
ผู้หญิงขายตัวเหรอ ก็คงใช่ แต่เธอบอกขายให้เขาคนเดียวอันนี้ไม่แน่ใจ แต่แน่ใจล่ะว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ เพราะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจำได้แล้วว่าเคยเปิดซิงเธอ แต่จำหน้าไม่ได้แค่นั้นเอง
"ยังไงไอ้ซัน มึงพูดให้เป็นการเป็นงาน" ภูผารีบกระตุ้น
"กูทำผู้หญิงที่เคยซื้อกินท้องจริงๆ"
"เชี้ย! มิจฉาชีพแอบอ้างเปล่าวะ" ภูผาว่า เพราะผู้หญิงขายตัวพวกเธอจะรู้เรื่องการป้องกันเป็นอย่างดีหากว่าแขกไม่เตรียมพร้อม ไม่ใช่แค่เราที่กลัวเขา แต่เขาก็กลัวเราด้วย มันก็ทั้งคู่ เขาคิดว่าเรื่องนี้เพื่อนไม่น่าพลาด เพราะไม่ใช่มือสมัครเล่นแต่นี่ตัวพ่อเลยล่ะ เรียกได้ว่าเขาและอคิราห์สุดกว่าเพื่อน ส่วนกฤษณะน่ะนานๆ ที แต่เคนนี่ไม่แตะใครเลย
"ทีแรกกูก็คิดแบบนั้น แต่พอฟังเธอเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างมันใช่หมด อีกอย่างกูเป็นคนแรกของเธอด้วย และเด็กคนนั้นที่กูแอบไปได้ยินมาเขาเรียกกูว่าพ่อ"
"เล่นละครเปล่าวะไอ้ซัน ผู้ใหญ่บอกพูดอะไรก็พูดหมดนั่นแหละกูว่า" ภูผายังคงเคลือบแคลงใจอยู่ดี เขาก็ต้องเข้าข้างเพื่อนตัวเองเอาไว้ก่อน
"กูจะไม่อะไรเลยถ้ากูไม่เสนอให้เธอไปตรวจดีเอ็นเอ"
"เออ ก็ไปตรวจไงจะได้จบๆ"
"ทีแรกเธอมาเสนอให้กูตรวจ พอกูปฏิเสธไปเพราะคิดว่าเธอเป็นมิจฉาชีพเธอจึงหอบลูกกลับบ้าน ทีนี้พอกูลองตามไปดูถึงที่ห้องเช่า.."
"อยู่ห้องเช่าเหรอวะ" เคนถามขึ้นมา
"เออ" ห้าปีที่ลูกเขาอยู่ที่นั่นมันแย่มากเลย
"ยังไงต่อ"
"กูจึงไปคุยกับเธอ หากคิดว่าเป็นลูกกูจริง กูยอมตรวจก็ได้ แต่เธอกลับบอกว่าไม่แล้ว"
"กลัวเปล่า กูว่าแอบอ้างแหงๆ" ภูผายังคงไม่ปักใจเชื่อ ส่วนกฤษณะกับเคนกำลังนั่งวิเคราะห์กันอยู่
"กูก็คิดว่าใช่นะ แต่เหมือนเธอไม่อยากยุ่งกับกูมากกว่า และที่สำคัญ ลูกกูต่างหากดูไม่เอากูเลย" เขาจำได้ตอนที่เมยาดาจะร้องไห้ สายตามองเขาราวกับผิดหวังสุดๆ
"เฮ้ย! นี่อย่าบอกว่าลูกมึงจริงๆ ไอ้ซัน เหลือเชื่อว่ะ! แล้วตอนนี้เข้าโรงเรียนยังวะ" ภูผาเริ่มเชื่อเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วสิ
"อืม เข้าอนุบาลแล้ว"
"ไอ้ซันเอ๊ย อยากรับผิดชอบเขาแล้วสิทีนี้ แต่เขาไม่ให้รับผิดชอบ ลูกก็ไม่เอามึงทำไงดีวะทีนี้"
"แต่กูเคลียร์แล้วล่ะ"
"ยังไง"
"ตอนนี้ไปอยู่คอนโดกูแล้ว"
"ฮะ! ทำไมรวดเร็วจังมึง เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไหน"
"เมื่อวาน จะช้าทำไมล่ะ อย่างไรลูกกูก็สี่ขวบแล้ว"
"แค่ลูกมึงใช่มั้ยที่ไป" ภูผาแกล้งถามต่อ
"ก็ต้องทั้งคู่สิ" ไอ้ภูนี่ถามแปลก
คราวนี้ทุกคนต่างอมยิ้ม แต่อย่างนั้นยังคงเก็บอาการ ภูผาจึงไปตามน้ำราวกับว่าไม่ได้สงสัยอะไรในตัวเพื่อน
"แต่แล้วมั่นใจใช่มั้ยว่าเป็นลูกของมึงจริงๆ ที่ถามไม่ใช่อะไรหรอกพวกกูเป็นห่วง" เคนและกฤษณะก็พยักหน้าเห็นด้วย "มึงน่าจะเกลี้ยกล่อมให้เขาไปตรวจอีกที" ภูผาว่า อคิราห์จึงเงียบคราวนี้
"แต่ถ้ามึงมั่นใจก็ไม่เป็นไร แต่ที่อยากถามก็คือมึงจะเอาแค่ลูกใช่มั้ยแบบนี้" ถามไปแล้วเอียงหูรอฟังให้ชัดอีกที
"ลูก..ก็ต้องมาพร้อมแม่มั้ยวะ มึงว่าไงไอ้กฤษ" ตอบภูผาแล้วหันไปถามกฤษณะ ก็ถามไอ้คนที่มันมีลูกก่อนเพื่อน ไม่สิ เขาต่างหาก เพราะลูกเขาสี่ขวบแล้ว ลูกไอ้กฤษเพิ่งขวบกว่าเอง
"อืมใช่ เพราะถ้าไม่เห็นแม่ลูกก็จะร้องไห้งอแง" เพราะบางคราวเจ้าลูกชายเขาก็จะเอาแต่แม่อย่างเดียว แล้วแต่วันจริงๆ
"เอางี้ดีกว่า มึงมีรูปให้พวกกูดูเปล่า" ก็อยากเห็นสาเหตุที่มันปุบปับขนาดนี้ แถมยังมั่นอกมั่นใจมากๆ ด้วย
"ไม่มี" อคิราห์ส่ายหน้า จะมีได้ไงก็เขาเพิ่งเจอลูกสาวยังไม่ทันได้เตรียมตัว นี่ยังงงว่าขาดเหลืออะไรอยู่เพราะมันปุบปับเกินไป
"งั้นมึงลองเล่ามาคร่าวๆ มาเดี๋ยวพวกกูจะช่วยวิเคราะห์ให้"
"ก็ตัวประมาณนี้" ทำมือว่าสูงเพียงสะโพกของเขา "ตัวอวบๆ ผิวขาวๆ หน้าเหมือนแม่ ปากนิดจมูกหน่อยผมยาวๆ ถักเปีย.."
"ไม่ใช่ๆ"
อคิราห์ขมวดคิ้ว "อะไร"
"แม่ของลูกมึงน่ะ นี่ต่างหากที่พวกกูอยากวิเคราะห์"
"เอ้า ก็ไม่บอก" แต่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเมยาวีคราวนี้ แทนที่จะวิเคราะห์ลูกเขาว่าเหมือนเขาบ้างหรือเปล่า แต่ยอมรับว่าเมยาดาเหมือนแม่เธอมาก แม่สวยอย่างไรลูกก็สวยไม่ต่างเลย
อคิราห์ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกทีหนึ่งแล้วคิดว่าเขาควรเริ่มจากตรงไหนดี งั้นเอาที่เขาสะดุดตาเธอตั้งแต่แรกเจอเลยแล้วกัน
"ก็..ผมสั้น ตากลมโต จมูกเรียวริมฝีปากเล็ก ผิวขาวเนียนแต่ออกไปทางคล้ำแดดเล็กน้อย คงเพราะอยู่แต่ห้องเช่าที่ร้อนอบอ้าวด้วยแหละ"
"หุ่นล่ะ"
"ก็..หุ่นดี" แล้วทำมือต่อว่านมใหญ่อย่างนี้!
"พอ" ภูผายกมือห้าม
"อะไร" อคิราห์หยุดชะงักเมื่อภูผาว่าอย่างนั้น
"แค่คำว่าหุ่นดีกับนมใหญ่ มีลูกติดสักสิบโหลหรือคนละพ่อกูก็รับแล้วว่ะ"
แล้วทุกคนต่างก็หัวเราะออกมาราวกับเป็นเรื่องตลกเพราะไม่อยากให้เพื่อนเครียด เข้าใจอารมณ์ดี
"ไอ้นี่" อคิราห์รู้แล้วว่าพวกนี้มันหลอกเอาคำตอบจากเขา "บ้าน่า กูไม่ได้ดูแค่นั้นหรอก แต่แววตาและท่าทางของเธอมันบอกแบบนั้นมากกว่า"
"แน่ใจว่าดูแค่แววตา เมื่อกี้ยังบอกหุ่นดีนมใหญ่อยู่เลย"
"พอๆ" ไอ้พวกนี้มันเริ่มจะเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นเกินไปแล้ว เมื่อนั่งมาอีกพักใหญ่ๆ มองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มเขาอยากกลับเสียแล้วสิ "กูว่ากูจะกลับแล้วล่ะ" ยังไงก็หมดเรื่องเล่าให้เพื่อนฟังแล้ว เขาแค่อยากบอกให้เพื่อนรู้ว่าเขามีลูกแล้วแค่นั้นเอง และอีกอย่างออกมาเจอภูผามันด้วย
"เฮ้ยรีบไปไหน ปกติก็เที่ยงคืนตีหนึ่งกัน" ภูผาทักท้วง
"พรุ่งนี้กูต้องรีบตื่นแต่เช้าไปส่งลูกที่โรงเรียนน่ะ"
"แหม..เป็นผู้เป็นคนเชียวนะมึง เอ้อว่าแต่..ลูกมึงนอนกับมึงไหมวะ"
"นอนสิ" อคิราห์ตอบเต็มปากเต็มคำ ลูกต้องนอนกับเขาอยู่แล้ว
"แล้ว..แม่ของลูกมึงล่ะนอนไหน ลูกเขายอมนอนกับมึงสองคนหรือยังไง" เรื่องเผือกขอให้บอก
"มันก็ต้องนอนด้วยกันสามคนมั้ยวะไอ้นี่!" ไอ้ภูนี่ถามแปลกๆอีกแล้ว
"เออๆ นอนก็นอนกูไม่ได้ว่าอะไรนี่"
เมื่อภูผาว่าอย่างนั้นแล้วทุกคนต่างอมยิ้ม ชัดเจน ไม่ใช่อยากได้แค่ลูกแล้วแหละ แบบนี้กะแอ้มแม่ของลูกด้วยแหงๆ ไม่รู้ว่ากลับไปเร็วแบบนี้มีข้ออ้างอะไรมากกว่าลูกเปล่า เพราะไอ้นี่เหล้าเข้าปากแล้วชอบมีอารมณ์
"แต่แน่ใจนะว่าเขาท้องกับมึงจริงๆ นะ" ภูผากระเซ้าต่อ
"นมใหญ่ขนาดนั้นก็ต้องใช่แล้วไหมวะไอ้ภู" เคนย้ำให้ฟังอีกทีแล้วทุกคนต่างหัวเราะ
"แน่นอนสิ แล้วยิ่งกูมีลูกด้วยกันแบบนี้แล้วด้วย.." เอ่ยแล้วปรายตามองไปทางเคนคนเดียว เพราะเคนแต่งงานก่อนใครเพื่อนแต่ยังไม่มีลูกสักที
เขามีลูกคนหนึ่งแล้ว ไอ้กฤษมีสองคน ส่วนคนหนึ่งยังอยู่ในท้องพีรดา เหลือแค่ไอ้ภูผาที่ยังไม่มีใครแต่ไม่เห็นมันซีเรียส
กระทั่งก้อนน้ำแข็งจากมือเคนเกือบเหวี่ยงมาโดนหัวเขา เขาจึงรีบออกมาเลย