ตกเย็นเป็นเวลาบ่ายสามโมง เวลาเดิมทุกวันที่ไม่ว่าจะทำอะไรเมยาวีต้องรีบวางมันลงก่อน เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยแล้วรีบเดินออกจากห้องไปรอที่ป้ายรถเมล์เพื่อไปรับลูกสาวที่หน้าโรงเรียน
ส่วนพ่อของลูกเขากลับไปแล้ว หลังจากที่เขาซักไซ้เธอจนไม่มีอะไรให้ถามเขาจึงขอตัวกลับ ไม่ลืมกำชับว่าเราจะไปเจอกันที่หน้าโรงเรียนลูก
พอมาถึงก็เริ่มมีคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นมารอแล้วเช่นกัน เมยาวีก็ยืนรอ
ทว่าไม่นานรถที่เธอเพิ่งนั่งไปเมื่อเช้าก็มาจอดเทียบด้านข้าง แล้วกระจกฝั่งคนขับจึงถูกลดลง
เมยาวีมองคนที่อยู่ในชุดลำลองสบายๆ คราวนี้ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสามส่วนสีเทา ไม่เหมือนเมื่อเช้าที่อยู่ในชุดทำงานเต็มยศ
"ขึ้นมานี่" อคิราห์ชวนคนที่ยืนอยู่ด้านนอกท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว เพราะบ้านเรามันเมืองร้อน ถึงจะมีหลังคาให้ยืนหลบแดดรอ แต่แสงตะวันที่สาดส่องในเวลานี้ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ เพราะพระอาทิตย์กำลังจะตกดินไง ใครออกแบบหลังคาแบบนี้วะอยากถามจริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวน้องมายด์ก็ออกมาแล้วค่ะ"
"อีกตั้งยี่สิบนาที" ก็มานั่งตากแอร์เย็นๆ ในรถมันจะเป็นอะไรไป
"ไม่เป็นไรค่ะ"
อคิราห์ถอนหายใจยาวแล้วดับเครื่องยนต์ลงไป ก้าวลงจากรถไปยืนอยู่ข้างๆ แม่ของลูก
สาบานว่าเขาไม่เคยยืนนิ่งนานขนาดนี้มาก่อน ถ้าไม่นับเรื่องออกกำลังกายคือชีวิตเขาก็มีแต่นั่งบนเก้าอี้ทำงาน นั่งนานๆ ในร้านเหล้า เข้าผับ เพียงยี่สิบนาทีไม่คิดว่ามันจะทั้งเหนื่อยทั้งร้อน แต่คนที่มาทุกวันกลับเห็นเธอนิ่งๆ แถมยังชะเง้อคอมองทั้งที่อีกตั้งยี่สิบนาทียัยหนูถึงจะออกมา
"เอาน้ำมั้ย" ลงมายืนนานแล้วเขาเกิดหิวน้ำขึ้นมา มองเห็นร้านขายของต่างๆ ที่มารอขายให้เด็กนักเรียน แต่ระหว่างนี้ผู้ปกครองหลายคนก็พากันยืนซื้อ
"ไม่เป็นไรค่ะ" เพราะเธอเตรียมตังค์มาไว้สำหรับซื้อขนมให้ลูกเท่านั้น หรือจะเป็นลูกชิ้นทอดหากว่าลูกสาวเกิดหิวข้าวมากเธอจะให้รองท้องไปก่อน
แล้วน้ำหวานแก้วหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้าเมยาวี ทำให้คนที่คิดว่าจะปฏิเสธแต่ต้องรับเอาไว้แทนเมื่อในมือของเขาอีกข้างมีน้ำเปล่าขวดหนึ่ง หากเธอไม่รับเอาเขาคงเปิดขวดไม่ได้
เมยาวียกน้ำในแก้วขึ้นดูด ทำให้คนที่กำลังร้อนเมื่อกี้รู้สึกเย็นสบายขึ้นมา
เพียงไม่นานก็ฉีกยิ้มหวานเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวป้อมๆ ส่งยิ้มมาให้พร้อมโบกมือทักทาย เมยาวีจึงโบกกลับไป เรียกได้ว่าแม่ลูกคู่นี้มักจะทำอะไรเหมือนๆ กันไปหมด
เมยาดารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดคนเป็นแม่ ขณะที่เมยาวีก็สาวเท้าเข้าไปรับลูก ก่อนที่เธอจะหอมแก้มที่มีแป้งติดตามใบหน้าลูกสาวซ้ายขวาเนื่องจากครูประจำชั้นจะให้ตื่นขึ้นมาทาแป้งแล้วดื่มนมต่อเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านกัน
พฤติกรรมของสองแม่ลูกทำให้คนที่มองตามอมยิ้มนิดๆ อย่างไม่รู้ตัว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู พอเด็กน้อยมองมาสบสายตากันกับเขา และเขากำลังจะยิ้มให้ลูก กลับทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหญิงเมยาดาค่อยๆ ลดน้อยลง ผู้เป็นพ่ออย่างเขาเริ่มใจแป้วลงทันที
อคิราห์ทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปนั่งยองๆลงด้านหน้าให้ตัวเสมอกัน ยอมรับว่าวันแรกทำให้ลูกไม่ประทับใจ วันนี้เขาจึงมีกังวล
เมยาวีเห็นดังนั้นรีบอธิบายคนเป็นลูก "แม่คุยกับคุณพ่อแล้วนะคะ วันนี้คุณพ่อขอมารับน้องมายด์กับคุณแม่ค่ะ"
เด็กหญิงเมยาดามองผู้เป็นพ่อด้วยความกลัวอยู่ในนั้น เมื่อวานภาพติดตาว่าคนเป็นพ่อดุแม่ของเธอเลยทำให้เธอไม่อยากยุ่งแล้ว
"คุณพ่อขอกอดหน่อยได้ไหมคะ" เขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำแบบนี้ใช่ไหมที่จะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย หากแต่อย่างนั้นแล้วเด็กหญิงเมยาดายังคงนิ่งเฉยอยู่ดี
"เมื่อวานคุณพ่อขอโทษนะคะ คุณพ่อปากไม่ดีจริงๆ" ว่าแล้วก็ตบปากตัวเองเบาๆ สองที สาบานว่าชีวิตนี้ไม่เคยทำเพื่อเอาใจใคร "ต่อไปนี้คุณพ่อสัญญาว่าจะไม่เป็นคนปากเสียแบบนั้นอีกค่ะ" แล้วก็ยื่นนิ้วก้อยออกไปตรงหน้าเพื่อสัญญากับลูก
เมยาดามองหน้าแม่ตัวเองก็เห็นคนเป็นแม่พยักหน้าพร้อมส่งรอยยิ้มบางๆมาให้
"คุณพ่อรักหนูนะคะ" เมยาวีย้ำบอกลูกสาว นั่นจึงทำให้น้องมายด์ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวด้วย แต่ใบหน้ายังคงไม่สู้ดีเท่าไหร่
คนเป็นพ่อขยับเข้าไปสวมกอดแล้วถือวิสาสะอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอก หอมแก้มทั้งซ้ายขวาไปโดยอัตโนมัติ ลูกสาวเขาก็จ้ำม่ำเหมือนกันนะเนี่ย
แต่น้องมายด์กอดเขาไม่เหมือนกอดแม่ของเธอเลย เด็กน้อยไม่ยอมกอดคอ ทำเพียงแค่วางมือลงบนบ่าทั้งสองข้างแล้วดันตัวอยู่ห่าง
ไม่เป็นไร เขาเข้าใจ ห้าปีกับเวลาอันใกล้ ที่เขาสามารถใกล้ชิดลูกได้ไวคงเป็นเพราะเมยาวีสินะสอนลูก ให้น้องมายด์รู้ว่าตัวเองมีพ่ออยู่ตลอด และเขาไม่ได้ทอดทิ้งพวกเธอไปไหน
นั่นจึงทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองขาดความรับผิดชอบไป แต่ต่อไปนี้เขาจะขอทดแทน
จมูกโด่งฝังลงที่แก้มนุ่มๆ ของลูกสาวอีกทีทำเอาเด็กหญิงเมยาดาอายหน้าแดงเข้าไปอีก ทว่าทิศทางที่คนเป็นพ่อพาไปกลับไม่ใช่ที่รถแต่เป็นร้านขนมมากกว่า
"ลูกสาวพ่ออยากซื้ออะไรมั้ยคะ วันนี้คุณพ่อเลี้ยงเองค่ะ" ว่าแล้วก็ปล่อยลูกสาวลง ทำให้เมยาวีที่เดินตามมาว่าจะทักท้วงแต่กลับปล่อยให้พ่อลูกได้ใช้เวลาด้วยกัน เธอจึงยืนมองอยู่ห่างๆ
เมยาดาชำเลืองมองไปที่ด้านหลังของคนเป็นพ่อ เห็นแม่ฉีกยิ้มหวานมาให้ เธอมองใบหน้าของผู้เป็นพ่อสลับกับผู้เป็นแม่อย่างประหม่า
"วันนี้น้องมายด์อยากได้อะไรคุณพ่อจะซื้อให้หมดเลยค่ะ อยากได้ของเล่นมั้ยคะ หรืออยากได้ขนมอันไหนไหม หรือจะเหมาหมดร้านเลยดี"
คราวนี้เมยาวีรีบเดินเข้าไปเตือนเขา กระซิบกระซาบเบาๆ เธอรู้ว่าคนเป็นพ่อแล้ว เพราะเขาที่ไม่ได้ดูแลลูกด้วยอาจต้องการทดแทน แต่มันอาจทำให้น้องมายด์เคยตัวแบบนี้เรื่อยๆ หากวันใดวันหนึ่งเราสองแม่ลูกไม่มีโมเมนต์แบบนี้แล้ว
เธอไม่รู้หรอกว่าที่เขาพูดมันจะจริงสักแค่ไหนกันเชียว แต่เธอไม่อยากให้ชีวิตสองแม่ลูกเปลี่ยนปุบปับไปเลย และแน่นอนลูกสาวของเธอ เด็กน้อยจะไม่ค่อยยับยั้งชั่งใจ
"งั้นซื้อไปแค่พอกินหมดดีไหมคะ พรุ่งนี้เราค่อยซื้อใหม่" อคิราห์จึงเปลี่ยนเป็นแนะนำลูกสาวแบบนี้มากกว่า
เมยาดาพยักหน้าแล้วเดินไปเลือกของ พอเลือกได้แล้วหันกลับมามองหน้าแม่ตัวเองสลับกับคนเป็นพ่อ แต่เธอเลือกแค่ชิ้นเดียวเป็นขนมถุงโต
"พอแล้วเหรอคะ" อคิราห์ถามลูกสาวด้วยความแปลกใจ เมยาดาพยักหน้า
อคิราห์จึงจูงมือลูกน้อยไปจ่ายตังค์ ก็นึกว่าจะได้จ่ายเยอะกว่านี้ แต่ในเมื่อลูกเอาแค่นี้เขาจำต้องจ่ายด้วยเงินแค่ยี่สิบบาทแล้วจูงแขนออกมา อุ้มลูกขึ้นแนบอกอีกที
"หิวลูกชิ้นมั้ยคะ" เมยาวีถามลูกสาวบ้างคราวนี้
เมยาดาจึงพยักหน้า ซึ่งปกติแล้วเธอจะได้ลูกชิ้นกลับบ้านแทบทุกวัน
"งั้นแม่พาไปซื้อลูกชิ้นนะคะ ปะ"
"เธอเดินไปเลยเดี๋ยวฉันอุ้มลูกตามไป" เมื่อเห็นคนเป็นแม่จะอุ้มลูกลง
เมยาวีจึงเดินนำหน้าไปที่ร้านลูกชิ้นปิ้งแล้วจัดการซื้อที่ยี่สิบบาท แบบนี้ทุกครั้งแล้วจ่ายตังค์
"ทำไมซื้อน้อยจัง" อคิราห์ถามแม่ของลูก สารภาพตามตรงว่าเขาแทบไม่เคยใช้เงินเท่านี้เลย และคิดว่ามันน้อยขนาดนี้ลูกเขาจะอิ่มไหมในเมื่อลูกสาวเขาจ้ำม่ำขนาดนี้
"เดี๋ยวน้องมายด์ต้องไปทานข้าวเย็นอีกทีค่ะ"
"แล้วจะให้ลูกกินข้าวกับอะไรเย็นนี้"
"ไข่เจียวค่ะ"
"ไม่มีเมนูดีๆ กว่านี้หรือไง" แต่พอเห็นเมยาวีเงียบปากไปเขาจึงถามลูกสาวเสียเอง
"น้องมายด์อยากทานข้าวกับอะไรคะเย็นนี้"
"..ไข่เจียวค่ะ" เด็กหญิงเมยาดาอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา นั่นทำให้อคิราห์พอรู้แล้วว่าไม่ใช่แค่แม่ของลูกที่ตั้งใจทำหรอก แต่เป็นเพราะลูกอยากกินมากกว่า
แต่พอจะอ้าปากเอ่ยกับเมยาวี เธอกลับหันหน้าไปทางอื่นเสียแล้ว ปากเสียแล้วสิ แล้วทำไมแม่ลูกคู่นี้ถึงได้ขี้น้อยใจเหมือนกันนักนะ
พอสนทนากันเสร็จเมยาวีจึงเดินนำหน้าไปที่รถของเขา คิดอะไรเพลินๆ บางทีก็นึกสงสารลูก แต่ว่าลูกสาวเธอโปรดปรานเมนูไข่มาก แทบทุกวันลูกเธอไม่ไข่ตุ๋นก็ไข่เจียววนกันอยู่อย่างนี้ บางทีเธอกลัวลูกสาวได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่น้องมายด์ชอบกินแบบนี้จริงๆ
จนทั้งสามคนขึ้นมานั่งอยู่บนรถกันแล้ว และทิศทางที่อคิราห์มุ่งไปกลับไม่ใช่ห้องเช่าของเมยาวีอย่างเก่า
"เราจะไปที่ไหนกันเหรอคะ"
"คอนโดฉันไง"
"คุณคะ" เธอคิดว่ามันเร็วเกินไป "ฉันยังไม่ได้คุยกับลูกเลยค่ะ" เธอกลัวน้องมายด์ตกใจมากกว่า
"ถ้าไม่เริ่มตอนนี้เมื่อไหร่ลูกจะคุ้น เธอก็เห็นว่าแกยอมให้ฉันอุ้มแล้ว" วางมือลงบนศีรษะลูกสาวที่นั่งกินลูกชิ้นถอดไม้เคี้ยวตุ้ยๆ บนตักแม่ของเธอ คราวหลังเขาต้องจัดให้ลูกมีที่นั่งดีๆ ซื้อรถคันใหญ่กว่านี้หน่อยเอาไว้ใส่ของด้วย เผื่อได้พาลูกไปเที่ยว ไปนอนค้างคืนที่ต่างจังหวัด ไปทำกิจกรรมของครอบครัวกัน
"แต่ของละคะ พรุ่งนี้น้องมายด์ต้องไปเรียน ทำไมไม่รอวันหยุดคะ"
อคิราห์ทำแค่อมยิ้มให้ลูกสาวตัวน้อยไม่ตอบอะไรแม่ของลูก เพราะตอนที่เรามารอรับลูกเขาให้คนไปขนของที่ห้องของเธอไปไว้คอนโดเขาแล้ว
เขาบอกเอาเท่าที่จำเป็น พวกตู้เสื้อผ้าตู้เย็นกะละมังก็ให้เจ้าของหอไป ที่นอนยิ่งไม่จำเป็นใหญ่เพราะเขามีให้ลูกกว้างขวาง ส่วนพวกเสื้อผ้าเอามาให้หมด แค่นี้ยังต้องเตรียมอะไรอีกในเมื่อเขาจัดการทุกอย่างแล้ว