Chapter.9 ตามรังควาน
วันอันแสนเลวร้ายของอรุณรดาช่างเดินเชื่องช้าเหลือเกิน เธอเหนื่อยและมองหาทางออกให้กับปัญหานี้ไม่ออกนอกจากไหลไปตามอารมณ์ของมาร์ตินไปก่อนเพื่อความปลอดภัยของคนรอบข้าง แม้ว่าเพื่อนสนิทอย่างสโรชาที่ไม่รู้ฟ้ารู้หมอกอะไรแต่เลือกระบายความโกรธโดยการโพสต์เหน็บแนมไปจนถึงการด่าเธออย่างสาดเสียเทเสีย ถึงแม้จะไม่ได้ถูกเอ่ยชื่อโดยตรงแต่เธอก็รู้ดี หรือจะเป็นภุชงค์ที่รัวส่งข้อความถามไถ่ถึงสาเหตุที่เธอไม่ยอมรับสาย
“ฟู่ว”
เธอเก็บมือถือใส่ลงในกระเป๋าตามเดิม ดวงตากลมสวยปิดลง ขอนั่งทบทวนตัวเองไปพร้อมกับการเยียวยาสภาพร่างกายที่ส่วนนั้นกำลังปวดระบมอยู่ ภาวนาให้รถขับเร็วกว่านี้สักหน่อยเถอะ อยากจะกลับไปนอนพักแทบแย่แล้ว
เท้าเล็กเปลือยเปล่าสัมผัสกับพื้นห้องที่ดูผิดปกติ เธอชะงักฝีเท้าทรุดลงนั่งโน้มใบหน้าแทบจะแนบลงกับพื้นเพื่อสังเกตดูบางอย่าง ผงแป้งที่เธอตั้งใจโรยไว้บางๆทุกวันมันมีร่องรอยของการถูกเช็ดถูออกจนสะอาดหมดจด
“เห้อ”
เธอลุกขึ้นยืนพลางกรอกตาขึ้นด้านบนขณะล้วงกระเป๋าหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาใครบางคน นั่นคือดารัณ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่สาวเธอแอบเข้าห้อง รวมกับครั้งนี้แล้วนับเป็นครั้งที่สามในรอบปี บ้างก็ซื้อของใช้และอาหารมาให้เต็มห้อง บ้างก็แอบนำเงินปึกใหญ่ซ่อนไว้ใต้หมอน หรืออย่างตอนนี้ก็แอบเข้ามาจัดกวาดเช็ดถูห้องให้ เข้าใจที่พี่สาวเป็นห่วงกลัวจะลำบากแต่เธอก็อยากจะให้ฝั่งนั้นเข้าใจเธอบ้างอยู่เหมือนกันว่าเธอไม่ต้องการรับ แถมยังลำบากเธอต้องฝากคืนผ่านน้าดารินอีก
‘ไง สบายดีไหมรดา’
“พี่แอบเข้ามาห้องฉันอีกแล้วหรือ?”
‘อืม พี่มาถึงเมืองไทยได้สามวันแล้วนะ และตอนนี้กำลังกลับบ้านไปหาแม่’
“พี่รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาท นี่ห้องฉันนะ! ขอเถอะช่วยเคารพความเป็นส่วนตัวของฉันบ้าง” เธอตำหนิพี่สาวอย่างหัวเสียขณะเปิดตู้เสื้อผ้าดูร่องรอยการรื้อค้นดู ต่อให้เก็บเข้าที่แต่ไม่มีทางรอดพ้นสายตาเธอหรอก พี่สาวคงกลัวสินะ กลัวว่าเธอจะหัวอ่อนหลงกลคารมจนให้ผู้ชายมานอนด้วย เธอคงโง่จนดูแลตัวเองไม่ได้สินะ
‘โอเคพี่ขอโทษ ถ้างั้นก็ช่วยบอกพี่ทีว่าถ้านัดเจอกันจะยอมมาหากันสักครั้งบ้างไหมล่ะ?’
“ไม่สะดวกเจอค่ะ” คำตอบที่ดูแข็งกร้าว ทว่าดวงตาหวานรื้นเก็บกลืนความอ่อนแอเอาไว้
‘โทรหาแม่บ้างนะ’
“อืม”
‘โทรหาบ้าง!’ ดารัณย้ำ
“โทรไปให้ด่ารึ? เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ”
‘ไม่มีแม่คนไหนไม่หวังดีกับลูกหรอก’
“เรื่องนั้นไม่เถียงค่ะ ส่วนเรื่องซ้ำเติมก็อีกอย่าง แม่ก็ดีแต่คอยซ้ำเติมคนที่ทำพลาดนั่นแหละ” เธอกระแทกชามบนโต๊ะบรรเทาความโกรธ
‘ฟังนะรดา ทุกคนเป็นห่วงเธอ โดยเฉพาะแม่ อย่าเข้าใจผิดนักสิ’
“หรือพี่จะเถียง พี่จำตอนนั้นได้มั้ยเล่า สิบสามปีที่แล้ววันที่พี่กลับมาบ้านถูกแม่ไล่อย่างกับหมา พอรู้ว่ามีเงินก้อนใหญ่มาประเคนก็ค่อยพูดดีด้วย ดูฉันตอนนี้สิ สภาพไม่ต่างจากหมา จะกลับบ้านก็ไม่ได้แล้วจะให้ฉันหน้าด้านโทรไปหาอีกเหรอ”
‘เห้อ ..แกไม่เข้าใจ’
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่เข้าใจตั้งแต่แม่ไม่ยอมให้ฉันกลับไปเหยียบบ้านเกิด ห้ามคุยห้ามติดต่อหาญาติหรือเพื่อนแถวบ้านอีก ทำไมคะ แค่คนเลยพลาดแล้วเป็นโรคซึมเศร้ามันแปลกประหลาดจนต้องแยกตัวออกจากทุกคนขนาดนั้นเลยหรือไง?”
‘ไม่ใช่อย่างนั้นนะรดา’
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้รดาไม่ได้โหยหาที่จะกลับบ้านหรือพบเจอใครๆแล้วล่ะ”
‘โอเค งั้นพี่จะอธิบายให้ฟังก็ได้’ ดารัณคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะบอกความจริงเรื่องที่เธอและแม่หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ฝั่งมาร์ตินเองก็เห็นพ้องต้องกันจัดฉากตบตาให้ทำเหมือนกับว่าแสงรุ่งตายไปแล้ว มาร์ตินจะได้ไม่ไปวุ่นวายด้วยอีก
“เสียใจด้วยฉันไม่สะดวกคุยแล้วค่ะ และไม่ต้องโทรมาอีกนะคะ ถ้าอยากคุยเดี๋ยวโทรไปหาเอง”
‘เดี๋ยว รดา’
“แค่นี้แหละฉันง่วง” เธอรีบตัดสายแล้วเดินหันหลังให้ชามและซองบะหมี่ที่เตรียมไว้เมื่อความเหนื่อยล้าสามารถเอาชนะความหิวได้สำเร็จ
อรุณรดาทิ้งตัวลงที่นอนยกมือขึ้นก่ายหน้าผากเพื่อทบทวนในคำพูดของตนเองที่อาจจะรุนแรงไปตามอารมณ์ในช่วงนี้ แต่พอนึกถึงอดีตที่เธอต้องการขอกลับไปอยู่บ้านตามประสาสองแม่ลูกดังแต่ก่อน ต้องการให้บ้านเกิดเป็นที่เยียวยาสภาพจิตใจและภาวะซึมเศร้า แต่เธอถูกแม่ปฏิเสธซ้ำยังผลักไสให้เธอไปอยู่กับน้าดาริน
‘มึงจะกลับมาอยู่บ้านให้อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านเค้าทำไมกันห๊าอิรุ่ง กูอยู่คนเดียวได้สบายมากมึงไม่ต้องมาให้กูปวดหัวหรอก และชาตินี้ห้ามกลับไปเหยียบบ้านอีก จำไว้’
เมื่อรู้สึกว่าใต้หมอนมีบางอย่างซุกซ่อน เธอรีบคว้าธนบัตรสีเทาปึกใหญ่ออกมาโยนทิ้งลงบนพื้น
ตุ่บ
“เห้อ”
ดวงตากลมสวยกระพริบไล่น้ำหยดใสไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง เธอหลับไปพร้อมกับสมองที่ทบทวนเหตุการณ์อันเจ็บปวดทั้งหมดในวันนี้
หกโมงเย็นเป็นเวลาเข้างานของอรุณรดา แทนที่เธอจะรีบเข้าไปตอกบัตรแต่กลับเดินตรงไปหาดาริน หญิงเจ้าของร้านวัยสี่สิบผิวแทนสวมเสื้อสายเดี่ยวกับผมสีดำดัดหยิกเป็นฝอยยาวและฟูฟ่องถึงกลางหลังกำลังนั่งดื่มไวน์แดงบนเก้าอี้บาร์ตรงมุมสุด
ตุ่บ
“อีกแล้ว?”
น้าสาวเปรยออกมาขณะมองเงินหนึ่งฟ่อนที่หลานสาวนำมาวางไว้ด้วยความเคยชิน
“รดารบกวนฝากคืนด้วยนะคะ”
“เห้อ คนบ้านนี้นี่มันยังไงกันนะ” ดารินรีบยัดเงินใส่ในเสื้อเมื่อผู้คนในร้านที่เปิดไฟแสงสลัวเริ่มมหนาตามากขึ้น
“โห แจกผมสักใบสองใบหน่อยสิครับมาดาม” บารืเทนเดอร์หนุ่มเอ่ยแซว
“ฝันไปเถอะ ที่ยืมไปเกือบปีแล้วยังไม่เห็นแม้แต่หมอ..” เธอตอกกลับได้แสบๆคันๆตามสไตล์ที่ลูกน้องได้ยินกันบ่อยจนชิน และไม่รู้สึกอะไรนอกจากหัวเราะร่าออกมา
“รดาเอ้ย”
เธอเอื้อมมือไปยีหัวหลานสาวที่รักพลางยืดหนังตาขึ้นมองสีหน้าที่ดูไม่สดชื่นมีชีวิตชีวาเท่าไหร่
“มีอะไรหรือเปล่า ปรึกษาน้าได้นะ”
“เปล่าค่ะ รดาแค่นอนพักผ่อนน้อย”
“อืม หนุ่มหล่อคนนั้นใช่สาเหตุมั้ยนะ”
เธอหันไปตามทิศทางการปรายหางตาของน้าดาริน เห็นภุชงค์ซึ่งนั่งอยู่โซนบาร์มุมสุดฝั่งทางเข้า
“ภุชงค์”
“ไปหาเค้าเถอะ”
เธอพยักหน้ารับเชิงขออนุญาตพูดคุยกับแฟนหนุ่มในเวลาทำงาน
“ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนในเวลางาน”
เขาเกริ่นเสียงเรียบขณะเลื่อนเก้าอี้ข้างๆให้อรุณรดานั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ รดาต่างหากที่ต้องขอโทษที่ไม่รับสาย”
“แล้วมีเรื่องอะไรหรือเปล่าฮื้ม? บอกพี่ได้นะ”
เธอหย่อนสะโพกลงนั่ง หันหน้าไปมองเขาพร้อมเอื้อมมือไปกุมมือใหญ่เอาไว้
“เรื่องฝึกงานค่ะ รดาแค่เฟลนิดหน่อยที่ไม่ได้ฝึกอยู่ใกล้ๆพี่ดังที่ตั้งใจไว้ ทางโรงแรมเค้าอยากให้รดาไปฝึกที่ต่างจังหวัด”
“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร” เขายกมือข้างที่ว่างไปยีหัวแฟนสาวแผ่วเบา “ที่แท้ก็กลัวจะไม่ได้เจอหน้ากันนี่เอง ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาทุกอาทิตย์เลยดีไหม?”
“แต่มันไกลนะคะ”
“ขึ้นเครื่องไปหาแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ” เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงและแววตาแสนอบอุ่นช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก
“ลำบากอาจารย์อีกแล้วนะคะ”
“ไม่หรอก เรียกว่าความสัมพันธ์กำลังเติบโตน่าจะดีกว่า แต่ก่อนนั่งรถบัส ตอนนี้จะพัฒนาเป็นขึ้นเครื่องบินไปหาเชียวนะ ไม่ธรรมดาเลยคู่เรา”
เธอหัวเราะร่าออกมาอย่างมีความสุข นี่คือรอยยิ้มแรกของวันนี้จากผู้ชายดีๆตรงหน้า เธอไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดลอยไปอย่างแน่นอน
ดวงตาคู่สวยทอประกายแห่งความสุขช่างเหมาะเจาะกับเพลงรักดนตรีกีตาร์อะคูสติกที่เปิดภายในร้าน
แต่ก็ยิ้มได้เพียงไม่นานริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อต้องหุบลงพลัน เมื่อพบกับใครบางคนที่เธอไม่ปรารถนาจะเจอ
‘มาร์ติน’
เขาซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังภุชงค์ห่างกันไม่ถึงสองวา ร่างใหญ่กำยำในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สวมหมวกแก๊ปนั่งเท้าคางมองเธออย่างไม่ละสายตา มือหนึ่งข้างโบกทักทายเธอด้วยรอยยิ้มที่น่าหวั่นกลัวเป็นที่สุด
สปอย ตอนหน้ามีNcนะคะ^^
อิมาร์ตินนี่ก็ตามเก่ง!!!