มาเฟียหนุ่มนอนแช่ตัวในอ่างเพื่อผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อยก่อนจะเดินหน้าไปเจรจาขอหมั้นกับ มาการิต้า อเล็กซานดร้า เชอวาเรีย หรือ ริต้า หล่อนคนนี้เขาเจอมาบ้างแล้วตามปาร์ตี้ในแวดวงสังคมกลุ่มเพื่อนนักเที่ยว เพราะเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอันเดร เพื่อนสนิทของเขาจึงพอจะรู้จักนิสัยใจคอหล่อนบ้าง หล่อนน่ะดุและบ้าระห่ำถ้าเปรียบง่ายๆก็เหมือนเขาในเวอร์ชั่นผู้หญิงเชียวล่ะ และสิ่งสำคัญที่ทำให้เขารีบร้อนในความสัมพันธ์ นั่นคือ ธุรกิจ
ดวงตาดุกร้าวปิดลงพลางเคลื่อนกายเปลือยล่ำสันลงต่ำไปในน้ำให้ช่วยชะล้างความทรงจำระหว่างเขาและคนที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ นับตั้งแต่วันที่แสงรุ่งจากไปจนกระทั่งวันนี้เขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ ไม่ยอมรับความจริงถึงขั้นต้องไปที่เมืองไทยร่วมพิธีกรรมทางศาสนาตั้งแต่นอนเฝ้าหน้าโลงศพในวัด ไปจนกระทั่งพิธีเผา เขาอาจจะไม่ได้ฟูมฟาย แต่การที่ไม่มีน้ำตาสักหยดให้ผู้คนเห็นก็ไม่ได้แปลว่าเขาเสียใจไม่เป็น อาจจะดูเลือดเย็นและชั่วช้า แต่ใครเล่าจะรู้ว่าลึกๆข้างในใจเขาแหลกสลายจนแทบไม่มีชิ้นดี ยิ่งให้เห็นภาพของเธอติดหน้าช่องอัฐิแล้วแทบจะนอนกลิ้งเกลือกเฝ้าเธอมันตรงนั้น
ถ้าเลือกได้ เชื่อเถอะเขาขอตายเองดีกว่า เพราะเขามันบ้าและสารเลวเอง เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ
แต่การตายของเธอไม่ได้สูญเปล่า มันทำให้เขาเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่มั่วสุมสิ่งเสพติด หันหน้าเข้าหาครอบครัวและทำงานอย่างเป็นบ้าเป็นหลั่ง ส่วนดารัณและคฤหาสน์บนเชิงผาในเมืองโซชีแห่งนั้นเขาไม่คิดจะเหยียบย่างกรายเข้าไปโผล่หน้าให้เธอเจอนานกว่าห้าปีแล้ว เพราะละอายใจเหลือเกิน
ทั้งที่ผ่านมานานแต่ทำไมเหมือนเรื่องราวเพิ่งเกิดเมื่อวานกันนะ เหมือนเขาเพิ่งเจอเด็กสาวร่างบางสวมเดรสสีขาววิ่งผ่านหน้าไป เขาเกิดความสนใจผู้หญิงปริศนาคนนี้จนต้องเดินตามหล่อนไปจนกระทั่งพบร่างแน่งน้อยนั่งโปรยกลีบดอกไม้เล่นบนสนามหญ้า
“ไอ้เรฟ นั่นใครวะ?”
“ไหนครับ ออ นั่นน้องสาวคุณดารัณไงครับ”
“หืม? เป็นสาวขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”
“แหม่ เจ้านายก็ ลูกคุณโลอาห์นก็โตจนผมวิ่งไล่จับไม่ทันแล้ว ไงล่ะครับ สวยขึ้นจนจำไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ”
“ใช่ สวย น่าสัมผัสมาก” เขาเปรยเสียงแหบพร่าก่อนก้าวเท้าเดินไปหาหล่อน
“ไงสาวน้อย”
“พี่สักลาย เอ้ย คุณมาร์ติน” ดวงตากลมโตพองวาวเมื่อพบเขา พลางลุกขึ้นแหงนหน้าขึ้นมองเขาที่สูงชะลูด
“สวยขึ้นจนจำไม่ได้เชียว” ดวงตาคมเข้มเปล่งประกายหวานเยิ้มจดจ้องเธอไม่กระพริบ
“คะ จำรุ่งไม่ได้จริงหรือคะ? ก็รุ่งส่งข้อความทักทายถามไถ่พี่แทบทุกวัน”
“อ๋อ ก็งานฉันเยอะเลยเบลอๆไปหน่อย แล้วอีกอย่างนะตัวจริงสวยและดูโตกว่าในรูปอีกแน่ะ” เขาบอกพลางมองหน้าอกเธอ
ความจริงเขาไม่เคยจะพิมพ์ตอบหล่อนเลยสักครั้ง ออกจะน่ารำคาญเด็กน้อยกะโปโลที่แสนเสร่อ มีแต่เรฟนั่นแหละที่คอยทำหน้าที่พิมพ์ตอบข้อความให้ตลอด
จะว่าไปแล้วเขายังนึกถึงความดีของตนเองไม่ออกเลยสักครา หลอกเด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเธอได้ลงคอ คิดแล้วก็หวิวสั่นในใจ คิดถึงใบหน้าหวาน ดวงตาไร้เดียงสาแสนซน การแสดงออกที่ซื่อตรงกับความรู้สึก
‘พี่มาร์ตินขา หนูเจ็บ’
‘อื้อ หนูเสียว’
‘หนูรักพี่มาร์ตินมากนะคะ’
เสียงเหล่านั้นยังดังก้องกังวานในหู ทรมานจิตใจคนที่ยังอยู่ให้จมดิ่งอยู่กับความเศร้าไม่รู้จุดสิ้นสุด คาดหวังเหลือเกินว่าการแต่งงานจะช่วยให้ความทรมานมันทุเลาลงได้
แต่ก่อนที่จะแต่งเขาตั้งมั่นเอาไว้ในใจว่าจะไปบอกกล่าวกับเธอพร้อมดอกไม้หลากสีไปวางไว้หน้าช่องอัฐิ
‘แสงรุ่ง ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน’
เรฟเดินเข้ามาพร้อมขวดไวน์มาให้เจ้านายหนุ่มตามที่สั่ง แต่ทว่าเขานอนแช่อยู่ใต้น้ำนานเกินไปจนต้องรีบคว้าท่อนแขนล่ำใหญ่นั้นขึ้น
“นายครับ”
“เป็นบ้าอะไรเล่า”
เขาลุกขึ้นนั่งพลางลูบใบหน้าปรายตาที่แดงกร่ำจ้องมองเรฟอย่างเอาเรื่อง
“ก็ผมนึกว่าเจ้านายจะหมดสติ”
“เปล่า กูแค่อยากแช่ให้เต็มตัว มีอะไรไหม”
“นายคิดถึงคุณแสงรุ่งใช่มั้ยครับ?”
คำถามจากเรฟทำให้เขารู้ตัวว่าข้ออ้างมันใช้ไม่ได้สำหรับลูกน้องคนสนิทที่รู้ใจอย่างเรฟได้
“อืม”
“ถ้าบ้างานแล้วยังไม่ช่วย การหาใครสักคนมานอนเคียงข้างกันทุกคืนก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนนะครับ”
“ใช่ กูถึงได้รีบๆแต่งงานให้จบๆไปนี่ไง”
ฝ่ามือหนาลูบหน้าตนเองแรงๆก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นน้ำตาของคนชั่วช้าอย่างเขา
“เตรียมไพรเวทเจ็ทด้วย”
“อ้าว แล้วไม่ดื่มแล้วหรือครับ?”
“ไม่ ดื่มเองเหอะ”
อาร์มาติโน่ เคอวิซ เอลวานอฟ บุตรชายคนเล็กจากตระกูลผู้มีอิทธิพลในด้านธุรกิจสีเทานั่งอยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ในตระกูลเชอวาโรฟ อาจจะดูอุกอาจและกะทันหันสักหน่อย แต่เชื่อเถอะ ว่าถ้าอยากได้ลูกเสือก็ต้องเดินเข้าถ้ำเสือสิ
เขาสาธยายเรื่องราวของตนเอง และความสนใจในตัวลูกสาวคนเดียวของท่านอเล็กซานเดอร์รวมไปถึงการขอเธอหมั้นหมายทำเอาคนฟังตั้งตัวไม่ทัน เขาเอนกายในท่าสบาย สายตาจ้องมองหญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามเพื่อรอคำตอบ
“พ่อคะ หนูรู้สึกว่าเขามีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับหนู มาร์ติน ฉันตกลงค่ะ”
ริมฝีปากสีนู้ดส่งยิ้มให้เขาพลางยักคิ้วขึ้นเพื่อชวนกันไปออกเดท การตัดสินใจที่หุนหันพลันด่วนของลูกสาวตัวดีคนนี้ แน่นอนทำให้อเล็กซานเดอร์เป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ ดีกว่าปล่อยให้ลูกสาวทำตัวล่องลอยไร้สาระไปวันๆและเป็นผลดีกับการขยับขยายธุรกิจไปด้วย
“ทะแด่ม ดูนี่สิ”
สโรชาอวดภาพที่แอบถ่ายอรุณรดาและจัดการสมัครแอคเคาท์เข้าสู่โลกโซเชียลให้เธอเสร็จสรรพ
“เฮ้ย ไหนว่ายืมโทรหาที่บ้านไง?”
“เถอะน่า มีไว้ไม่เสียหาย เผื่อว่าคิดถึงอยากเจอ หรืออยากทราบข่าวคราวเพื่อนเก่าๆก็สะดวกสบายไม่ต้องไม่ต้องเขียนจดหมายแล้วนะรู้ยัง?” เธอเอ่ยประชด
“ชิ จะขอบใจดีไหมเนี่ย”
จนดึกดื่นอรุณรดายังคงเล่นมือถือแอบส่องดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนเก่าแถวบ้านแล้วต้องพึมพำคำขอโทษเพื่อนๆเหล่านั้นเพียงลำพัง เมื่อหัวถึงหมอนก็ยังข่มตานอนไม่หลับ เธอนอนกระสับกระส่ายในใจอยากจะลองแอบส่องดูความเคลื่อนไหวใครสักคน นี่สินะเหตุผลที่เธอไม่อยากจะเล่นโซเชียลเพราะไม่อยากตกเป็นทาสของความคิดถึง
“เห้อ ส่องแค่ครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอกมั้ง ต่างคนต่างใช้ชีวิตอยู่แล้ว”
นิ้วเรียวสั่นเทาพิมพ์ชื่อของเขาก่อนกลั้นลมหายใจขณะกดค้นหา หัวใจเต้นรัวสั่นแทบจะหลุดจากอกเหมือนกำลังตัดสินใจทำเรื่องท้าทายที่สุดในชีวิต ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งก่อนค่อยๆเบือนหน้ากลับมามองหน้าจอมือถือ เมื่อก้าวข้ามสเต็ปแรกได้สำเร็จ สเต็ปต่อไปจึงเริ่มหายใจสะดวกขึ้น
“สบายดีอยู่ใช่ไหม?”
ดวงตาพร่ามัวจดจ้องมองเขาที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคงไม่พ้นรูปร่างที่ล่ำสันขึ้น อาจจะเพราะอายุมากขึ้นทำให้เขาละเลิกสิ่งไม่ดีเหล่านั้น แทบจะไม่มีภาพปาร์ตี้หรือห่ามๆดังเก่า ส่วนใหญ่กิจกรรมของเขาจะเป็นการเล่นกีฬาทางน้ำ ฝ่ามือเล็กที่ทาบอกสั่นไหวเลื่อนลงมาลูบไล้ใบหน้าคมเข้มผ่านจอมือถือ
“ยินดีด้วยนะคะ”
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้กับเขาและรักครั้งใหม่ที่ดูจะเหมาะสมกันดี สาวสวยผมบลอนบุคลิกดีน่าจะมาจากตระกูลสูงศักดิ์เอื้อธุรกิจซึ่งกันและกัน ทว่าเธอใส่จิวที่จมูกและมีหมุดที่ลิ้นดูจะแสบและท่าทางดุเอาเรื่องน่าจะคุมเขาได้อยู่หมัด
ดูพวกเขาช่างมีความสุขดี แล้วเธอล่ะ?
“ฉันก็มีความสุข”
เธอปลอบตัวเองเพียงลำพัง รีบพิมพ์ข้อความหาภุชงค์แม้ว่าป่านนี้เขาจะหลับแล้วก็ตาม
‘คิดถึงนะคะ ที่รัก’
เธอกดส่งก่อนปิดมือถือ แล้วข่มตานอน
................................
“หา? มึงว่าอะไรนะ!”
เขารีบแย่งมือถือขึ้นมาดูภาพนั้น ให้ตายสิแม้จะเห็นเพียงมุมข้าง เขาก็มั่นใจว่าเป็นเธอ
“แสงรุ่ง!”