บทที่ 1 รับผิดชอบ 1
อาการปวดหนึบราวกับถูกค้อนทุบศีรษะรบกวนการนอนของสาวสวยในวัยใกล้สามสิบห้าปี ปลุกเธอให้ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ แต่พอเจอแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านรอยแยกของผ้าม่าน มือเรียวก็รีบดึงผ้าห่มผืนโตคลุมใบหน้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว
อัญชิตา เมธานนท์ ออกเที่ยวในทุกคืนวันศุกร์และตื่นช่วงบ่ายของวันเสาร์ ใช้ชีวิตวัยสาวอย่างคุ้มค่า ในเมื่อทำงานหนักมาตลอดสัปดาห์ จึงปาร์ตี้ชดเชยจนหลายครั้งเมาแทบไม่รู้เรื่อง
“โอ๊ย ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” เธอเอื้อมมือไปยังโต๊ะข้างเตียง พยายามหาน้ำมาดื่มเพื่อดับกระหาย ซึ่งก็มีเพื่อนร่วมงาน ไม่แน่ใจว่าเป็น ‘ยัยนุ่ม’ ที่เมาแล้วเปิดโรงแรมนอนด้วยกันเหมือนทุกครั้ง หรือว่ารสรินทร์ ที่ยื่นขวดน้ำที่เปิดฝาออกให้แล้วอย่างมีน้ำใจ เธอดื่มมันได้ไม่มากก็ยื่นขวดคืนให้ ก่อนซุกหน้าลงใต้ผ้าห่มดังเดิม
บ้าน่ะ...รสรินทร์แต่งงานมีลูกไปแล้ว แต่เมื่อคืนยัยนุ่มก็ไม่ได้มาด้วยนี่นา หรือว่าจะเป็นพริมานะ?
ยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเมื่อคืนพริมาเพิ่งจะแต่งงานกับคุณปุณณ์ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่สุดฮอตที่สาวๆ หมายตาว่าจะต้องได้มาครอบครอง แต่กลับถูกเลขานุการของน้องชาย ขโมยหัวใจไปเสียอย่างนั้น
เออใช่...เมื่อคืนเธออยู่ในงานแต่งนี่นา
อัญชิตาเริ่มจำได้ว่าตัวเองดื่มไปเยอะมาก ร้องไห้ดีใจให้กับความรักที่สมหวังของคู่รักที่เธอเชียร์มานาน แต่ก็หน้าซีดทันทีที่ได้รับดอกไม้ เพราะนั่นหมายความว่าเธอคือผู้โชคดีที่อาจจะได้เป็นเจ้าสาวรายต่อไป
‘ยินดีกับน้องพริมและคุณปุณณ์ด้วยนะคะ ส่วนดอกไม้นี่พี่ไม่แน่ใจว่าเหมาะกับพี่หรือเปล่า เพราะผู้ชายที่พี่จีบตอนนี้ เขายังไม่ยอมให้พี่หอมแก้มสักครั้งเลยค่า’
เสียงโห่ร้องทำให้บรรยากาศครึกครื้นเสียยิ่งกว่าเดิม แต่อัญชิตาเมาไม่ไหวแล้ว เธออวยพรบ่าวสาวสั้นๆ เดินลงจากเวทีที่ไม่สูงมากนักอย่างลำบากและตอนนี้เองที่มีคนเข้ามาประคองก่อนที่เธอจะร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น
‘คุณแอนดื่มเยอะไปนะครับ’
หนุ่มเนิร์ดผิวขาวจัด เจ้าของริมฝีปากหยักสีชมพูที่สาวๆ ในบริษัททรีพี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ อยากลองจูบดูสักครั้ง ถามอัญชิตาด้วยน้ำเสียงที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่ได้แฝงความขบขันที่เห็นคนเมาแล้วรั่ว แต่เจือความห่วงใยที่สัมผัสได้ว่าออกมาจากหัวใจจริงๆ
อัญชิตาจำได้ว่าหัวใจของเธอเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเขาอาสาว่าจะดูแล แข้งขาก็อ่อนระทวย รู้สึกเมามายมากกว่าเดิมแบบไม่มีเหตุผล
‘ผมพาคุณแอนไปพักนะครับ’
เขาขออนุญาตอย่างสุภาพ สอดแขนกอดเอวอย่างระมัดระวัง คงเกรงว่าเธอจะทิ้งตัวตามประสาคนเมา
หากอัญชิตาไม่ได้เมาเธอคงผลักเขาออกไปแล้ว แต่น้ำเสียงนุ่มทุ้มหลอกล่อทำให้เธอลืมกฎเหล็กข้อสำคัญ นั่นคือห้ามผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เวลาเมา แต่กับคนตรงหน้า นอกจากไม่ได้ห้ามแล้ว ยังกระซิบบอกด้วยว่าคีย์การ์ดอยู่ในกระเป๋าใบเล็ก...
จริงสิ...เธอนอนโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของพริมาและคุณปุณณ์ จองห้องติดชายหาดเสียด้วย เพราะตั้งใจว่าตื่นแล้วจะเล่นน้ำแล้วค่อยบินกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น
คนที่กำลังเมาค้างเริ่มได้สติคืนมาทีละน้อย ตระหนักได้แล้วว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะใครก็ตามที่อยู่ในห้องขยับตัวไปเปิดผ้าม่าน กลิ่นกาแฟหอมๆ ที่อบอวลอยู่ในห้องบวกกับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายของร่างที่เพิ่งนั่งลงบนพื้นที่ว่างข้างตัว ทำให้เธอกะพริบตาถี่ๆ อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อกลุ่มเพื่อนของเธอไม่ได้มาร่วมแต่งงานในครั้งนี้ เนื่องจากบ่าวสาวต้องการความเป็นส่วนตัวและเชิญแค่คนสนิทเท่านั้น
แล้วใครกันล่ะที่ยื่นขวดน้ำให้เธอ...
“พี่แอนตื่นแล้ว...อยากได้กาแฟสักแก้วไหมครับ”
เสียงหยอกเย้าอยู่ในทีทำให้อัญชิตาตกใจแทบกรีดร้องออกมา โชคดีที่ความคุ้นเคยทำให้เธอยังพอตั้งสติได้บ้าง แต่พอหันไปสบสายตากับคนตัวใหญ่ที่นอนตะแคงมองเธออยู่ข้างๆ อัญชิตาก็พลิกตัวกลิ้งตกเตียงทันที
“พันเดช! เธอมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง แล้วทำไมเธอไม่ใส่เสื้อผ้าให้มันเรียบร้อย!” อย่างน้อยเขาก็ไม่ควรเปลือยท่อนบน อวดกล้ามแน่นๆ ให้สาวสวยในวัยสามสิบห้าปีหัวใจเต้นโครมครามแบบนี้ ไหนจะใบหน้าหล่อเหลาที่ปราศจากแว่นกรอบหนารกสายตาและทรงผมยุ่งเหยิงราวกับนายแบบนิตยสารนั่นอีก โอ๊ย หัวใจจะวาย!
“พี่จำไม่ได้จริงๆ เหรอครับ?”
พันเดช รัตนไพศาล หรี่ตามองผู้หญิงที่พยายามจีบเขามาปีกว่าแล้ว ขยันหยอดคำหวานทุกครั้งที่แวะมาบริษัท ยิ้มหวานให้ ซื้อขนมอร่อยตามร้านดังมาฝาก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา
อัญชิตาเมามากจนแทบเดินไม่ไหว ซึ่งนับเป็นเรื่องที่แปลกอย่างมาก เพราะเท่าที่เคยสังเกต สาวเก่งคนนี้มักไม่ดื่มจนถึงขั้นดูแลรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ อย่างน้อยทุกครั้งที่เขาถูกบังคับให้ออกไปเที่ยวกับเธอ ภาพที่ออกมาให้เห็นก็เป็นแบบนั้น
หรือว่าจะมีเรื่องอะไรทำให้ปวดใจ?
“ถ้าจำได้แล้วจะตกใจจนกลิ้งตกเตียงแบบนี้ไหมล่ะ!”
“พี่เป็นอย่างที่คนอื่นเตือนผมจริงๆ ด้วย...”
“ยังไง พี่เป็นยังไง!” อัญชิตาถามคนที่ถือวิสาสะเรียกเธอว่า ‘พี่แอน’ อย่างไม่พอใจ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าทั้งขู่ทั้งปลอบว่าให้เรียกพี่แอน เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันให้มากขึ้น แต่พอได้อยู่ ‘ใกล้’ กันจริงๆ เธอกลับต้องการรักษาระยะห่างให้มาก ซ้ำยังไม่กล้าพูดจาหยอกล้อ เกี้ยวพาราสีอย่างที่เคย
“เขาบอกว่าถ้าผมยอมพี่ง่ายๆ สุดท้ายพี่ก็จะทิ้งผม ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ เมื่อคืนลวนลามผม บังคับให้ผมเรียกว่าพี่แอน พอผมไม่ยอมก็ใช้กำลัง...”
พันเดชตรงเข้าประคองเจ้าของร่างที่ยังอยู่บนพื้น แต่เธอกลับสะบัดออกอย่างแรง ราวกับไม่ใช่อัญชิตาคนเดิมที่ประกาศไปทั่วว่าต้องได้ ‘น้องพันเดชรูปหล่อ’ มาเป็นแฟน
“จะบ้าเหรอพัน พี่เป็นผู้หญิงนะ! จะไปใช้กำลังกับเธอได้ยังไง เดี๋ยวนะ...” มือเล็กขยี้ตาตัวเองแรงๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ บนอกกว้างของพันเดชมีรอยสีชมพูอ่อนสลับเข้มเต็มไปหมด และมันอยู่ในจุดที่ตัวเขาทำเองไม่ได้แน่ๆ ยกเว้นแต่ว่ารอยที่เห็นจะเป็นรอยหยิก ซึ่งก็ไม่น่าใช่
พันเดชคือเหยื่อจริงๆ?