ช่วงสายรามสูรมองดูผลงานตัวเองบนตัวของแก้วกาญจน์ที่นอนหลับนิ่งบนเตียง ร่างเปลือยเปล่าขาวนวลเนียนนอนแน่นิ่งบนเตียงและผิวกายนวลเนียนของเธอก็เต็มไปด้วยรอยเขี้ยวฟันที่เขาขบกัดและเต็มไปด้วยรอยดูดคลึงเฟ้นของเขี้ยวฟันและฟกช้ำตามผิวกาย
‘ขอโทษ’ เขาได้แต่บอกขอโทษในใจ เพราะไม่กล้าจะเอ่ยคำนี้ออกมา เขาไม่ใช่คนแบบนี้ แต่เมื่อคิดถึงนิลวรรณ พี่สาวฝาแฝดที่จากไปแล้วก็ยิ่งแค้นจนต้องกำมือแน่น
“ผิดที่ไอ้นุ ไม่ใช่ฉัน” เขาพึมพำกับคนที่นอนหายใจสม่ำเสมอบนเตียง เขาสงสารเธอ แต่ก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น แล้วก็เคลื่อนตัวลงจากเตียงนอนนุ่มแล้วเดินออกจากห้องนอนไปทันที
“ไอ้ป้อม!” พอออกมาจากห้องนอนก็ร้องเรียกหาลูกน้องคนสนิทตัวเองทันที และไอ้ป้อมก็ไม่รอให้เจ้านายเรียกหาถึงครั้งที่สอง มันรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายทันที
“ครับ คุณราม”
“ให้เด็กเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดมาให้น้องไอ้นุทำความสะอาดด้วย” เขาสั่งแค่นั้นแล้วเดินก้าวเร็วๆ ลงบันไดไปทันที ส่วนไอ้ป้อมก็มองไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิทกับเจ้านายที่เพิ่งเดินจากไปแล้วยกมือขึ้นเกาหัวงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายหงุดหงิดอะไร เพราะน้องสาวของอนุทินก็จับตัวมาแล้ว แล้วจะหงุดหงิดอะไรอีก
“แล้วคุณรามจะทำยังไงกับคุณแก้วต่อครับ” ไอ้ป้อมเดินตามมาถามด้วยความสงสัย
“ใครให้มึงเรียกน้องไอ้นุแบบนั้น เธออยู่ที่นี่ก็แค่เชลยคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่แขก อย่าเรียกให้กูได้ยินอีกนะมึง ไม่งั้นกูเตะไส้แตกแน่” เขาหยุดเท้าที่กำลังเดินลงถึงพื้นหันมาตวัดตาขวางใส่อีกฝ่ายทันที
“ครับ คุณราม ว่าแต่เราทำแบบนี้แล้วพ่อของเธอที่ป่วยติดเตียง เราจะ...”
“กูจัดการเองเรื่องนั้น มึงอย่าเสือกให้มาก รู้และทำเท่าที่กูสั่งก็พอ”
“ครับ คุณราม”
“แล้วได้ข่าวไอ้นุมันบ้างรึยัง”
“ยังครับ”
“ไม่ได้เรื่อง!” แล้วเขาก็เดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปยังห้องรับประทานอาหาร ตอนนี้เขาหิวมาก ส่วนไอ้ป้อมก็รีบไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที
ป้าปุ๊แม่บ้านเก่าแก่หรือจะว่าแม่นมของเขาและนิลวรรณก็ว่าได้ นอกจากพ่อแม่ที่จากไปก็มีป้าปุ๊ที่อยู่ดูแล ท่านเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของเขา จะว่าไปตอนนี้ครอบครัวของเขางั้นเหรอ มันไม่มีแล้วคำว่าครอบครัว ครอบครัวของเขามันพังตั้งแต่นิลวรรณจากไปแล้ว เขาคิดแบบหน้าเศร้า
“คุณรามคะ”
“ถ้าจะพูดเรื่องของน้องไอ้นุ ผมไม่พูดนะป้าปุ๊ ผมหิว” เขาตอบดักทันที ด้วยรู้ดีว่าป้าปุ๊จะพูดอะไร
“ค่ะ เดี๋ยวป้าตักข้าวต้มให้นะคะ”
“ครับ” เขาตอบเสียงเรียบแล้วมองชามข้าวต้มที่ป้าปุ๊นำมาวางตรงหน้าตัวเอง
“ป้าปุ๊ก็มาทานด้วยกันสิครับ”
“ค่ะ” จากนั้นนางก็ตักข้าวต้มให้ตัวเองแล้วมานั่งร่วมกับคุณหนูของตัวเอง
“ผมฝากป้าปุ๊จัดการเสื้อผ้าของน้องไอ้นุด้วยนะครับ และห้ามให้เธอออกจากห้องของผม ผมจะไปจัดการเรื่องของพ่อเธอ”
“มันบาปนะคุณราม สงสารหนูแก้วเถอะ อย่าจับหนูแก้วมาขังไว้ที่ไร่ของเราเลยนะคะ” ป้าปุ๊เอ่ย แม้รู้ว่าคุณหนูของตัวเองจะดื้อและแค้นฝังหุ่น แต่ก็ยังอยากจะพูดเผื่อจะเปลี่ยนใจ
หึหึ
“บาป...หน้าตาเป็นยังไง ผมไม่รู้จักหรอกป้าปุ๊ ผมรู้แต่ว่าผมแค้นพวกมัน มันทำให้ผมเสียนิล มันทำให้นิลต้องจากพวกเราไป หยุดพูดเรื่องนี้เถอะครับ” พูดจบเขาก็สนใจข้าวต้มตรงหน้าตัวเอง ส่วนป้าปุ๊ก็ได้แต่ภาวนาให้ใครมาฉุดรามสูรออกจากความแค้นในครั้งนี้ คนที่เคยแสนดี อ่อนโยนเปลี่ยนไปเพราะความแค้นเพียงตัวเดียว
ป้าปุ๊อดสงสารคนที่ร่างกายเขียวช้ำอย่างแก้วกาญจน์ไม่ได้ นางนำเสื้อผ้าขึ้นมาให้หญิงสาวพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดที่รามสูรให้เด็กนำมาให้หญิงสาวทำความสะอาด นางมองไปยังผิวนวลเนียน แต่บัดนี้มันไม่น่ามองเลยสักนิด ถึงอยากจะช่วย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“รีบไปอาบน้ำ แต่งตัวเถอะนะหนูแก้ว เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าของหลานสาวป้าเอง” นางบอกพร้อมกับวางเสื้อผ้าไว้ที่ปลายเตียงให้หญิงสาวนำไปใส่ เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของหลานสาวครั้งที่มาทำงานที่นี่ แต่ตอนนี้แต่งงานออกเรือนย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัดแล้ว
“ขอบคุณนะคะป้าปุ๊” เธอตอบขอบคุณอย่างคุ้นเคยกับอีกฝ่าย เพราะเธอเคยมาบ้านหลังนี้สองสามครั้งกับพี่ชายเห็นจะได้
“และนี่ยาทาแก้ฟกช้ำนะคะ นี่ยาทาแผลนะคะจะได้ไม่เป็นแผลเป็น” ป้าปุ๊ไม่อยากจะเชื่อว่าร่องรอยตามผิวกายของแก้วกาญจน์คือฝีมือของรามสูร ผู้ชายอ่อนโยนที่ตนเลี้ยงมาแต่เด็ก
“ขอบคุณนะคะ หนูไม่จำเป็นต้องใช้หรอกค่ะ ในเมื่อหนูอยู่ที่นี่เป็นเชลยของพี่ราม หนูก็จะอยู่แบบนี้ ให้หนูเจ็บจนตายไปเลยยิ่งดีค่ะ เขาจะได้หายแค้นพี่นุสักที” เธอตอบเสียงสั่นสะอื้นพร้อมกับกำชายผ้าห่มที่คลุมร่างเปลือยตัวเองแน่น
“อือ...ไม่เอาไม่พูดแบบนั้นสิคะ หนูแก้วก็รู้ว่าคุณรามเป็นคนดีแค่ไหน แต่...”
“ดีเหรอคะป้าปุ๊ เขาไม่ใช่พี่รามที่แก้วรู้จักอีกแล้วค่ะ เขาคือใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก เขาข่มขืนหนู เขาทำกับหนูเหมือนไม่ใช่คน อึก! ฮือๆๆ” พูดจบก็ปาดเช็ดน้ำตาที่ล้นดวงตาทันที
“โธ่...คนดี หนูแก้วไม่คิดมากนะลูก อาบน้ำ แต่งตัว แล้วทานข้าวทานยานะหนูแก้ว ป้าเอายาแก้ปวดมาให้หนูด้วย ตัวก็รุมๆ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ส่วนเรื่องทำความสะอาด ป้าจะทำให้เอง” นางบอกอย่างสงสาร
“ไม่เป็นไรค่ะ เขาอยากให้แก้วทำ แก้วก็จะเก็บกวาดเองค่ะ” เธอบอกอย่างเข้มแข็ง ตอนนี้เธออ่อนแอไม่ได้ และก็นึกถึงพ่อที่ป่วยติดเตียงอยู่บ้าน
“พ่อของหนูล่ะคะป้าปุ๊ หนูจะได้ไปหาท่านไหม”
“อันนี้หนูแก้วต้องถามคุณรามดูนะคะ”
“งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอหอบผ้าห่มแล้วลุกขึ้น แต่ก็ต้องเบ้หน้าเมื่อรู้สึกเจ็บกลางร่างสาวของตัวเองและร่างกายก็ปวดเมื่อยจนต้องนั่งนิ่งลงเหมือนเดิม
“เจ็บเหรอคะ”
“ค่ะ” เธอตอบน้ำตาคลอ
“ป้าก็ไม่รู้จะช่วยหนูแก้วยังไง เพราะตอนนี้คุณรามไม่ฟังใครเลย” นางบอก