“มีอะไรไหมหึ ถึงโทรฯ หาผมได้ มีเรื่องงานเร่งด่วนหรือเปล่ารามาน”
“เปล่าๆ หายใจเข้าออกเป็นงานไปหมดเลยนะอเล็ค ไม่ต้องไฟท์มากผมก็ไม่คิดจะปลดคุณจากตำแหน่ง CEOหรอกน่า” รามานเอ่ยหยอกเย้าเพื่อนรัก เพราะตั้งแต่มาทำงานในรามานเอ็นเตอร์ไพรส์อเล็คซานเดอร์ขยันทำงานไม่มีใครเก่งเทียบชั้นเขาได้ซักคน
“คุณจะปลดผมก็ได้นี่รามาน ผมจะได้กลับไปเดินสำรวจภาคพื้นดินเหมือนเดิม คุณก็รู้ผมไม่ชอบใส่สูทเท่าไร ผมชอบลุยๆ มากกว่า”
“เห้ย! บ้าน่าอเล็ค ใครจะไปกล้าปลดคุณออกจากตำแหน่งกันเล่า หุ้นคุณในรามานมีไม่ใช่น้อย เกิดคุณโกรธจนถอนหุ้นออกไป บริษัทผมไม่เจ้งหรือยังไงกัน ล่อเล่นเว้ยเพื่อน... ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้ คุณใส่สูทแล้วหล่อจะตาย ไม่อย่างนั้นคุณจะเป็นสุดยอดนายแบบได้ยังไงกัน” รามานโวยเสียงลั่น ในน้ำคำกลั้วเสียงหัวเราะคลุกคลัก
“ผมไม่ได้ล่อเล่นนะรามาน คุณก็รู้ว่าผมเบื่อ...”
“เบื่อ! โอ้พระเจ้า อเล็คซานเดอร์เบื่อแสงสี เบื่อกลิ่นกายหอมยั่วยวนของผู้หญิงทรวดทรงโตๆ พระเจ้า!”
“ผมอิ่มตัวแล้วรามาน เบื่อที่จะต้องคอยเอาอกเอาใจผู้หญิงน่ะ”
“อย่างคุณเคยเอาใจใคร? ผมเป็นเพื่อนกับคุณมากว่า10ปีอเล็คยังไม่เคยเห็นคุณเอาใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยซักครั้ง”
“มันก็มีบ้างน่า”
“ไม่เอาๆ เข้าเรื่องเลย ผมอยากรู้ปริมาณกาซทั้งหมดเพื่อคำนวณรายได้ของเรานะ คุณเข้าไปที่บริษัทแล้วส่งข่าวให้ผมรู้ด้วยนะอเล็ค ผมรอคำตอบอยู่”
“รามานคุณถามผิดคน ผมมาเป็นCEO ไม่ได้อยู่ทีมสำรวจเหมือนเมื่อก่อน คุณทำไมไม่ถามที่แผนกนั้นเองล่ะ”
“ผมรู้อเล็ค แต่ไม่มีใครคำนวณได้แม่นเหมือนคุณน่ะ ช่วยหน่อยน่า ผมอยากรู้ว่าสิ้นปีเราจะมีผลกำไรเท่าไร ผลประโยชน์ของคุณกับผมเลยนะ”
“คุณนี่หายใจเข้าออกเป็นผลประโยชน์ไปหมดนะรามาน คุณกลายเป็นมนุษย์หน้าเงินตอนไหนกันผมไม่ยักรู้”
“เปล่าน่า ผมแค่อยากรู้ให้สบายใจ เป็นนักธุรกิจก็อยากได้กำไร มันเป็นเรื่องปรกติ”
“อืมๆ...ได้เดี๋ยวผมจะเข้าไปค้นข้อมูลให้ มหาเศรษฐีแบบคุณนี่งกชะมัด”
“ผมตัวคนเดียวนะอเล็ค ไม่ได้มีสมบัติเก่าเก็บเหมือนคุณ ต้องสร้างต้องหามาเอง แถมงานหนักงานเหนื่อยๆ ได้ค่าตอบแทนไม่คุ้ม ไม่เหมือนคุณนี่ เดินไปเดินมาแปปเดียว ทำเงินได้มากมายมหาศาล”
“ช่วยไม่ได้นี่รามาน ผมมันเป็นคนโชคดี มีโอกาสในชีวิตมากกว่าคุณ เชื่อไหมรามานงานนั้นทำเงินให้ผมมหาศาล แต่มันน่าเบื่อเกินไป ไม่มีความตื่นเต้นอะไรเลย ขายหน้าตาจนผมเกือบสมองฟ่อ ดีนะบริษัทคุณรับผมเข้ามาทำงานไม่อย่างนั้นผมคงกลายเป็นหุ่นยนต์ไปแล้วล่ะ ไม่ได้ใช้ความคิดอะไรเลย ได้แต่เดินไปเดินมาแค่นั้น...” อเล็คซานเดอร์ทรุดนั่งบนโซฟาบุนวมเนื้อดียกผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ ขยี้กลุ่มผมเปียกชื้นและพูดคุยกับเพื่อนรักอีกเป็นนาน กว่าจะวางสายไป สายลมเย็นๆ โชยผ่านบานกระจกที่เขาเปิดทิ้งไว้ระบายความอบอ้าวในห้อง ยามสายพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงลำแสงสีทองทอดเป็นลำยาวส่องนำทางให้แก่มนุษย์โลกได้มองเห็นหนทางและเร่งทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของตัวเอง
พิชญ์สินี สิทธิเดชเดชาเธอเริ่มงานในบริษัทไทยรามานเอ็นเตอร์ไพรส์วันแรก ห้องพยาบาลที่เคยเงียบเหงากลับคึกคักขึ้น เพราะหนุ่มๆ ในบริษัทเกิดป่วยปุปปัปกันถ้วนหน้า มีหนุ่มๆ หลายคนแวะเวียนมาขอยาแก้ปวดหัวปวดท้อง ตบเท้ากันมาทั้งหนุ่มและแก่ สร้างความขบขันให้กับพยาบาลสาวรุ่นพี่ ศรีนวลขำจนท้องแข็งเมื่อหนุ่มหน้าเดิมย้อนกลับมาหลายครั้งหลายหน พวกเขาต่างแย่งมาแจกขนมจีบพยาบาลสาวคนใหม่ เพราะเสียงร่ำลือหนาหูตั้งแต่วันที่พิชญ์สินีมารายงานตัวถึงความสวยใสของนางพยาบาลคนใหม่
“คุณพยาบาลครับผมปวดท้อง...” ธีระหนุ่มกะล่อนประจำบริษัทไทยรามานเอ็นเตอร์ไพรส์ออกโรงคนแรก เขาเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มและใบหน้าคมกริบ หวังใช้เสน่ห์ที่มีตะล่อมคนสวยให้หลงลมปากเหมือนทุกครั้ง
“เชิญนั่งค่ะ ขอดูอาการป่วยก่อนนะคะ จะได้จ่ายยาให้ถูกอาการที่เป็น” เธอตอบกลับเสียงเรียบๆ ผายมือเชิญเขานั่งบนเก้าอี้จัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อตรวจอาการตามที่ได้ร่ำเรียนมา หนุ่มหล่อยกยิ้มสมใจเขาขยับเข้าใกล้นางพยาบาลสาวสวยพรางส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม
พิชญ์สินีวางหน้าเฉยๆ เธอชินแล้วกับปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามแบบนี้ เธอเองก็เบื่อเหมือนกันเมื่อผู้ชายส่วนมากเข้ามาเพราะอยากจะสานความสัมพันธ์ ใครว่าคนรูปร่างหน้าตาดีแล้วมีชัย เธอคิดไม่เหมือนคนอื่นๆ เพราะเธอรู้สึกเบื่อและรำคาญผู้ชายชีกอที่เข้ามาเกาะเกะเต็มทน แต่เมื่อมันเป็นหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงก็ต้องฝืนทนไปก่อน
“ครับ...คุณพยาบาล...ไม่ทราบว่ามีแฟนแล้วหรือยังครับ” ธีระเริ่มออกอาการเจ้าชู้ไก่แจ้ เขารุกหนักทันทีที่มีโอกาส
“เกี่ยวกับการป่วยที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ไหมคะ?”
“เกี่ยวมากๆ เลยล่ะครับ เพราะผมคงไม่มีแรงใจหากคุณ...พยาบาลมีเจ้าของเสียแล้วนะครับ”
“คุณคงต้องไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ หนูแหวนคิดว่าคุณมีอาการของโรควิตกจริต ก่อนที่มันจะร้ายแรงจนถึงขั้น!...”
“ขั้น! ขั้นไหน ขั้นอะไรครับ?” ธีระทำใบหน้างงงวย เขาตามคำพูดของพยาบาลสาวใบหน้าหวานหยดไม่ทันแต่ก็ยังไม่วายส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เธอ
“ก็อาการหนักจาก “วิตกจริต” กลายเป็น “วิกลจริต” นะค่ะ” เสียงเรียบเรื่อยกล่าวบอกเธอวางใบหน้าเฉยๆ และสาละวนตรวจอาการต่อโดยที่ไม่ได้มองสบตาหนุ่มหล่อกะล่อน มากเสน่ห์ที่กำลังส่งสายตาหวานฉ่ำให้ซักนิด
“อิๆ...” ศรีนวลกลั้นหัวเราะเอาไว้สุดฤทธิ์ แต่มันก็ยังหลุดรอดออกมาจนได้ เธอจึงเสจัดยาในชั้นต่อไป ปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่อยากจะปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากๆ ออกมาให้ดังกว่านี้
ธีระขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ไก่แจ้ เขาเป็นหนุ่มโสดหน้าตาดี หน้าที่การงานก็อยู่ในขั้นใช้ได้ เขาจึงใช้โอกาสอันนั้นในการเกี้ยวพาราสีหญิงสาวพนักงานในไทยรามานเอ็นเตอร์ไพรส์ จนผู้หญิงมีเรื่องตบตีกันเป็นประจำถึงความหึงและหวง แต่หนุ่มมากเสน่ห์แบบธีระหาได้แคร์ เขายังทำตัวเหมือนเดิมหว่านเสน่ห์ไปเรื่อย ใครโชคร้ายที่เผลอตัวตกเป็นเหยื่อ ตกเป็นคู่ควง คู่นอนของเขามักจะไม่มีความสุข มันเป็นเสียงเล่าลือหนาหูให้ได้ยินได้ฟังเป็นประจำ จากสาวๆ คู่ขาของหนุ่มหล่อที่แวะเวียนมาขอยาแก้อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการจิกกัด ตบตี แต่เรื่องไม่เคยเข้าหูผู้หลักผู้ใหญ่ หนุ่มมากเสน่ห์จึงยังไม่เคยโดนเรียกตัวไปตักเตือน
“ผมแค่กำลังตกหลุมรัก จนสมองฟั่นเฟือนนะครับคุณหนูแหวน” เขาสวมรอยทำตัวสนิทสนม เรียกชื่อเล่นของพิชญ์สินีพร้อมทั้งส่งสายตาฉ่ำหวานไปให้แบบหน้าด้านๆ
“โอ้! คุณคงต้องแอดมิดแล้วล่ะค่ะ รู้สึกเหมือนจะอาการหนักจนหนูแหวนกับพี่ศรีนวลคงไม่สามารถดูแลคุณได้ คุณอยู่แผนกไหนคะ? หนูแหวนจะได้แจ้งให้หัวหน้าของคุณรู้ เราคงต้องทำเรื่องส่งตัวคุณไปโรงพยาบาล ก่อนที่คุณจะอาการหนักกว่านี้” เธอปั้นใบหน้าเคร่งขรึม เปิดลิ้นชักโต๊ะหาเอกสารส่งตัวคนไข้ ในกรณีที่ป่วยหนักจนเกินกำลังของพยาบาล ต้องส่งตัวไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลโดยฝีมือนายแพทย์
“โอ๊ะ!คงไม่ต้องถึงขนาดแอดมิดหรอกมั้งครับผมคงไม่ได้อาการแย่ขนาดนั้น”
“ไม่รู้ซิคะคุณ หนูแหวนบอกไม่ได้หรอก คุณต้องไปตรวจกับแพทย์ให้คุณหมอวินิจฉัยมา หนูแหวนเป็นแค่พยาบาลบอกอาการคนไข้ไม่ได้หรอกค่ะ”
“ผมแค่กำลังตกหลุมรักเองครับ คงไม่หนักหนาเท่าไร หากหนูแหวนจะเมตตารับผมไว้พิจารณาซักคน” ธีระตีขลุมหน้าด้านๆ วกกลับเข้ามาที่เรื่องเดิมหน้าตาเฉยจน พิชญ์สินีเอือมระอากับมุขจีบหญิงที่ธีระกำลังหว่านเสน่ห์ใส่เธอ
“หนูแหวนมาทำงานค่ะคุณ! หนูแหวนต้องเลี้ยงน้องอีกหลายสิบชีวิตคุณคงไม่ชอบผู้หญิงที่มีพันธะเยอะแยะแบบหนูแหวนหรอกมั้งคะ อีกอย่างหนูแหวนยังไม่พร้อมเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ หนูแหวนไม่ชอบแก่งแย่งกับคนอื่น ถึงหนูแหวนจะพึ่งมาทำงานที่ไทยรามานเอ็นเตอร์ไพรส์ไม่นานเท่าไร แต่หนูแหวนก็รู้จักที่นี่ดี ความเป็นไปในบริษัทหนูแหวนคิดว่าตัวเองรู้เกือบหมด หนูแหวนเลยคิดว่าหนูแหวนไม่ยุ่งกับคุณจะดีกว่าค่ะ คุณธีระ” เธอตัดสินใจเปิดปากพูดกับหนุ่มมากเสน่ห์ป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง เพราะตัวเองต้องทำมาหากินไม่อยากให้ปัญหาหยุมหยิมมากวนใจ จนทำให้มีผลกระทบกับหน้าที่การงาน