11

1522 คำ
“อยู่ในป่าแบบนี้ก็ไม่อดตาย ไม่เห็นต้องไปปล้นเลย” เธอพูดลอยๆ มองกล้วยบางผลที่สุกแล้วตาวาว กะว่าจะขอเขากินสักผลสองผล เขาคงไม่ว่าหรอก แค่หน้าโหด หนวดเยอะ แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าเขาใจดี “ยุ่งอะไรด้วย” เธอมุ่ยหน้าใส่เมื่อเขาพูดแบบนี้กับเธออีกแล้ว เดี๋ยวเหอะทำเป็นว่าเธอ หนีออกไปได้จะแจ้งตำรวจให้มากวาดล้างเสียให้เกลี้ยง ชิส์! “ขอกินบ้างสิ” ไม่รอให้เขาอนุญาตเธอก็จัดการปลิดกล้วยที่หมายตาเอาไว้มาปอกเปลือกกิน เขาไม่ว่าอะไร กลับกอดอกมองเธอนิ่ง “ทำไมเมล็ดเยอะแบบนี้ล่ะ” เธอทำหน้าเหย กินไปคายเมล็ดไป มันก็หวานอยู่หรอก แต่เมล็ดที่ฝังอยู่ภายใยผลกล้วยเล็กๆ น่ากินนั้นเต็มไปหมดทุกอณูเนื้อ “โง่หรือไง กล้วยเถื่อนก็มีเม็ดเยอะแบบนี้แหละ” “ไม่ได้โง่ แต่ไม่รู้ ฉันมาจากเมืองนอกนะ ไม่ได้อยู่บ้านนอกเหมือนนาย” “ไม่รู้ก็รู้เอาไว้ ไม่ใช่เอาแต่ตะกละกินไม่เลือก” เขาจิ้มหน้าผากเหมือนเธอเป็นเด็ก “นี่อย่ามาว่ากันนะ” เธอปัดหน้าผากตัวเอง มองเขาอย่างเคืองๆ “ก็สมองปลาทองนี่นา โดนว่าทำเป็นรับไม่ได้” “เม็ดเยอะแบบนี้เอาไปทำอะไร” เธอเบี่ยงประเด็น ไม่อยากเถียงกับเขาอีก เถียงไปก็ไม่ชนะ “เดี๋ยวก็รู้ อย่าทำตัวไร้ประโยชน์สิ นั่นตัดใบของมันด้วย แล้วพับให้เรียบร้อย” “เอาใบไปทำอะไร” “เดี๋ยวก็รู้” “อยากรู้ตอนนี้” “ถามมากฉิบ เดี๋ยวพ่อปล้ำตรงนี้เลย” “ตัดแล้วๆ คำก็ปล้ำสองคำก็ปล้ำ ชิส์! ได้ฉันเป็นเมียแล้วจะหนาว” “ไม่หนาวหรอก เมื่อคืนยังอุ่นเลย” “ไอ้บ้า” “จริงๆ นี่นา ที่บอกว่าจะหนาว ไม่จริงหรอก ผมไม่เชื่อคำขู่ผู้หญิง” “ฉันหมายถึงถ้านายทำอะไรฉัน รับรองว่าฉันจะกัดนายให้กระจุย” “ทำยังกับตัวเองเป็นหมา” “ไม่ใช่นะ คนก็กัดได้ ป้องกันตัวเอง” เธอว่าเขาตาเขียว แต่จัดการตัดใบตองตามเขา แล้วพับเรียบร้อย เขาเอาเชือกกล้วยซึ่งลอกมาจากลำต้น มัดเอาไว้เป็นมัดๆ แล้วใส่ย่าม “นายจะตัดต้นกล้วยด้วยเหรอ เอาไปทำอะไร” “ถามเยอะจริง เอาไปแกง พอใจหรือยัง” “มันแกงได้เหรอ” “อร่อย รับรองว่าตะกละอย่างคุณจะต้องชอบ กินจนจุกอีกแหละ ผมขอทาย” “หึ! อย่ามาโม้ รู้ได้ยังไงว่าฉันจะชอบ ไม่เห็นเคยกิน” เธอย่นจมูกใส่เขา เห็นเขาแบกเครือกล้วยขึ้นบ่าจึงรีบถาม “เอาแค่เครือเดียวเหรอ” ถามอย่างสงสัย “ที่เหลือเอาไว้ให้นก ให้สัตว์อื่นกินบ้าง จะเอาไปทำไมนักหนา บอกว่าเมล็ดมากไม่ใช่เหรอ โง่จริงเชียว” พวงชมพูอ้าปากค้างเมื่อโดนด่าว่าโง่ เธอทนไม่ได้จริงๆ อยากหาอะไรเย็บปากเขานัก เกิดมาไม่เคยมีใครว่าเธอแบบนี้มาก่อน “ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันสอบได้ที่ 1 ทุกเทอม ฉันเรียนได้ A ทุกวิชา” เธอเต้นเร่าๆ ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก “อ้อ... เหรอ ผมควรภูมิใจใช่ไหมที่จะมีเมียฉลาด” เขาหันมายิ้มแต่ไม่ได้ชื่นชม เหมือนล้อเลียนเธอเสียมากกว่า “ฉันบอกแล้วว่าไม่ใช่เมียนาย จะไม่มีวันเป็นด้วย พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง” “เดี๋ยวก็ยอมรับไปเอง ผมเห็นมาเยอะแล้ว คนปากแข็ง ปากกับใจไม่ตรงกัน” “คนอะไรขี้ตู่ บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ส่วนกล้วยเถื่อนของนาย ถึงเมล็ดจะเยอะแต่ก็อร่อยดี” เธอมุ่ยหน้าใส่ เขาไม่ว่าอะไร เดินไปตัดปลีกล้วยใส่ย่ามเก่าๆ ที่เย็บจากกระสอบป่านแล้วสะพายที่บ่า “เอาปลีกล้วยไปทำอะไร” “รู้จักด้วยเหรอ” “ฉันไม่ได้โง่นะ” “อ้าว... นึกว่าโง่ รู้จักปลีกล้วยแต่ไม่รู้เอาไปทำอะไร ก็เอาไปกินน่ะสิ” “ห๊ะ! มันกินได้ทั้งต้นเลยเหรอ ตั้งแต่ต้น ใบ ปลี ผล” “ใครเขาคิดใบกัน บ้าหรือไง ใบมันเอาไปห่ออาหาร ห่อขนม” เขาเฉลยในที่สุด จิ้มหน้าผากเธออีกรอบ “ฉันรู้แล้วน่า... ว่าใบตองห่ออาหารได้ ไม่ต้องมาบอก” เธออุบอิบตอบ เสียหน้าเล็กน้อยที่ปล่อยไก่ตัวบะเร้อออกมา ทั้งๆ ที่มารดา ตาและยายเคยทำขนมไทย หรืออาหารไทยที่ห่อด้วยใบตองให้เธอทานมาแล้ว “วันนี้ทำอะไรกินกันเหรอ” เธอถามอย่างสงสัย ขณะเดินตามเขาไป เรื่องคิดหนีเธอยังไม่คิดเพราะถ้าหนีไป แล้วไปเจอเสืออย่างที่เขาบอก คงโดนกัดตาย ผืนป่าแถบนี้สมบูรณ์มาก คงมีสัตว์ร้ายชุกชุม ตอนนี้ไม่ควรเสี่ยงอันตราย รักษาเนื้อรักษาตัวไว้รอจังหวะเหมาะๆ ดีกว่า เผื่อมีลูกน้องคนไหนของเขาสักคนเกิดเปลี่ยนใจอยากได้เงินที่เธอจะเสนอให้ หลังจากช่วยเหลือเธอออกไปจากที่นี่ เธออาจหนีรอดไปได้สักวัน “ตะกละ คิดแต่เรื่องกิน” “อ้าว...” เธอย่นจมูกใส่แผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขา พูดอะไรก็ผิดไปหมด อย่าให้เธอหนีไปได้ก็แล้วกัน คอยดูเอาเถอะ!!! “ออกกำลังกายให้มีเหงื่อ สูดอากาศบริสุทธิ์เช้าๆ แบบนี้ดี รีบๆ เดินเข้าแม่คุณ เดี๋ยวกลับไปต้องทำอาหารกันอีก” เขาเร่งเธอ เท้าเล็กๆ วิ่งตาม หอบแฮ่กๆ ไม่รู้ตัวว่าโดนเขาแกล้งให้วิ่งออกกำลังกายตอนเช้าๆ “นายขายาวนี่นา ฉันขาสั้น เสียเปรียบ ตามไม่ทันแล้วนะ หยุดก่อน พอก่อน” เธอหอบแฮ่กๆ ประท้วงเขาไปตลอดทาง “ถ้าตามไม่ทันโดนงูเหลือมรัด กลืนลงท้องไม่รู้ด้วยนะ” เขาพูดติดจะขบขันที่ได้แกล้งเธอ แต่พวงชมพูเอาแต่เหนื่อยเลยไม่ทันสังเกตน้ำเสียงและสีหน้าของเขา “ฉันเหนื่อย ขอพักก่อน นายอยากไปก็ไปเลย ทิ้งฉันไว้ตรงนี้แหละ งูเหลือมงูหลามอยากจะรัดจะกลืนฉันก็ตามสบาย ฉันก็ไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้” เธอนั่งลงใต้โคนเงาะป่า ไม่สนใจอะไรอีก เพราะเหนื่อยเต็มทน “เห็นไหมหน้าคุณแดง แก้มนี่ก่ำเชียว” “ก็มันเหนื่อยนี่นา” “แบบนี้แหละดี เลือดลมสูบฉีด ออกกำลังกายน่ะดี สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่ขาวซีดยังกับคนเป็นพยาธิ” เขามองแก้มแดงๆ ของเธออย่างพึงใจ “นายไม่ไปต่อเหรอ” เธอคิดว่าเขาจะทิ้งเธอเอาไว้เสียอีก อย่างน้อยเขาก็ไม่ใจดำจนเกินไป “ถึงที่หมายแล้ว” เขาวางย่ามกระสอบป่านที่ใส่ปลีกล้วยและผักพื้นบ้านหลายอย่างที่เธอไม่รู้จัก เพราะระหว่างทางเขาเห็นอะไรกินได้ก็เด็ดใส่ย่ามเสียหมด เธอก็ถามไปเรื่อยว่ามันคืออะไร บางชนิดรู้จัก บางชนิดไม่รู้จัก เหมือนถ้าเป็นพวกผักหวานที่ขึ้นตามธรรมชาติแบบนี้เธอก็รู้จัก เพราะที่บ้านของตายายปลูกเอาไว้รับประทาน ทำแกงเลียงบ้าง ผัดบ้าง รสชาติอร่อยจนเธอติดใจ และรบเร้าอยากทานเสมอเวลามาประเทศไทย ร่างสูงวางข้าวของไว้ใกล้ๆ กับเธอ พร้อมกับกล้วยที่แบกเอาไว้พิงกับโคนต้นไม้ที่เธอพิงอยู่เช่นกัน “ถึงที่อะไร” “เงยขึ้นไปสิ” เขาบุ้ยใบ้ขึ้นไปบนศีรษะของเธอ พวงชมพูตาวาวเมื่อเห็นผลเงาะป่าแดงสดบนต้นเป็นช่อมากมาย หญิงสาวแทบหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง “ตาวาวเชียวนะ ยัยตะกละ” เขาจิ้มหน้าผาก เธอหน้างอ แต่ทำตาออดอ้อนปริบๆ ให้เขาเอาผลไม้น่ากินพวกนั้นลงมาให้เธอ “ใช้ไม้สอยได้ไหมคะ” เธอมองหาไม้ “ไม้ที่ไหน คิดได้นะแม่คุณ ถ้ามันอยู่ใกล้กอไผ่ก็ว่าไป” เขาหมายความว่าเอาลำไม้ไผ่สอย “แล้วจะเอายังไง อย่าบอกว่าให้ฉันนั่งน้ำลายยืดอยู่ที่โคนต้นเพราะไม่มีปัญญาเอากินนะ” เธอเงยหน้าขึ้นมองบนต้นตาละห้อย ทำปากหมิ่นใส่เขาด้วยเช่นกัน “โง่ๆ อย่างคุณคงเอาไม่ได้หรอก” “แล้วฉลาดอย่างนายเอาได้เหรอ มันสูงนะ ชิส์!” เธอบิดปากใส่อีก คิดว่าเขาก็คงเอาไม่ได้ แต่ต้องตาค้างเมื่อเขาปีนขึ้นไปบนต้นเงาะด้วยเท้าเปล่า มันไม่มีกิ่งอะไรให้เกาะเลย มือกับเท้าของเขาแข็งแรงมาก โอ้ว... แม่เจ้า สุดๆ ไปเลย คนอะไรเก่งชะมัดยาด เขาทำได้ยังไง เทพเลยอะ เธอคิดในใจ มองเขาตาค้าง!!! “เก็บผลเงาะด้วยแม่คุณ เดี๋ยวผมปลิดแล้วโยนลงไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม