คุณหมอครับ ผมกลัวผี

1723 คำ
ดวงตากลมโตค่อยๆ ลืมขึ้น มองไปรอบห้องที่ค่อนข้างจะคุ้นเคย กลิ่นยาลอยตลบอบอวลทำให้รู้แจ้งได้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล “ตื่นแล้วหรอ?” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น อย่างเอาเรื่อง “คือ…ขอโทษค่ะ…ปันกลัวเลือด” คำสารภาพผิดของปันปันทำเอาหมออาร์ตขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม “กลัวเลือด? แล้วเธอจะเรียนหมอทำไม เธอคิดว่าอาชีพหมอมีไว้เล่นๆ หรอ? คิดว่าพ่อแม่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแล้วอยากจะเข้ามาใส่ชุดเท่ๆ หรอ” “เปล่านะคะ ปันไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ” ร่างเล็กก้มหน้าก้มตาตอบ ในใจก็รู้สึกผิดจะแย่แล้วที่ดันปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองบกพร่อง เท่บ้าเท่บออะไรล่ะ แต่ช่างเถอะ ถึงจะอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาไม่เข้าใจเธอจริงๆ หรอก “เป็นหมอก็ต้องเจอเลือด ถ้ากลัวเลือดก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้” “ปันอยากช่วยคนค่ะ ขอโทษค่ะ แต่จะพยายาม” เธอกล่าวเสียงเบา แม้เธอจะกลัวเลือดแต่ก็อย่างที่บอก เธอต้องการที่จะช่วยเหลือคนจริงๆ แต่แค่เธอยังข้ามผ่านความกลัวนี้ยังไม่ได้ และพ่อของเธอก็เคยพูดว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง บางทีการที่เธอเจอบ่อยๆ ซ้ำๆ มันอาจจะทำให้เธอข้ามมันไปได้ด้วยความเคยชิน “ถ้าเธอมัวกลัวเลือด แต่ต้องไปเจอคนเจ็บที่สาหัส อีก1นาทีคนเจ็บกำลังจะสิ้นใจแล้วถ้าไม่รีบลงมือช่วย ในขณะที่เธอเอาแต่ยืนตัวสั่นแบบนี้ เธอยังคิดว่าเธอมีประสิทธิภาพที่จะเป็นหมอได้ไหม?” “ขอโทษค่ะ ปันจะพยายามค่ะหมออาร์ต” “ออกไปดูแลคนไข้ของเธอด้วยที่ห้อง102 อย่าให้เสียงานอีกนะ” หมออาร์ตกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยรวมไป “เห้อ ทำเข้มไปได้ ฟ้องพ่อดีไหมเนี้ย” ปันปันกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงเล่นก่อนจะปรับสีหน้าที่เป็นกังวลเมื่อครู่ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ‘102’ ก๊อก ก๊อก ก๊อก! “ขออนุญาตค่ะ” “เชิญครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยตอบ “เอ่อ…ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ปฐมพยาบาลให้เลย…อ้อ…เอ่อ…เคสของคนไข้ต้องพักฟื้นดูอาการสักวันสองวันก่อนนะคะ…ระหว่างนี้เดี๋ยวให้คุณหมอเฉพาะทางพาไปเอกซเรย์เช็คร่างกายให้ละเอียดก่อน…ภายนอกอาการไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง เผื่อภายในอาจจะมีส่วนไหนแตกหักได้…ระหว่างนี้เดี๋ยวจะมีพยาบาลมาทำความสะอาดแผลให้ทุกวันนะคะ แล้วตอนนี้คนไข้มีอาการเจ็บหรือปวดตรงไหนไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเจื้อยแจ้วพร้อมกับรอยยิ้มตลอดการพูด เหมือนนางฟ้ากำลังพูดด้วยเลยอ่ะ น่านฟ้าคิด ใบหน้าท่าทางทำเอาละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย เสียงก็หวาน สมูทนุ่มลื่นหูน่าฟัง ใบหน้าก็อ่อนหวานละมุนละไม กิริยาท่าทางก็ดูผู้ดี “เอ่อ…คนไข้คะ…มีเจ็บหรือปวดตรงไหนไหมคะ?” ปันปันถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหนุ่มหล่อเอาแต่เหม่อมองอะไรก็ไม่รู้ ด้วยเพราะกลัวว่าเขาจะมีปัญหาด้านสมองจึงเรียกสติเขาอีกครั้ง “เอ่อ…อ้อ…ไม่เจ็บครับ…แต่เรื่องล้างแผลทุกวันตลอดการรักษา…คุณหมอช่วยเป็นคนดูแลผมได้ไหมครับ” น่านฟ้ากล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม แต่กลับทำให้ปันปันลำบากใจ แต่เอาเถอะ เลือดไม่เยอะก็ไม่ได้มีอาการอะไร แล้วเคสของเขามันก็แค่ถลอกเอง ไม่น่าจะมีส่วนไหนที่มีเลือดไหลอาบแขนอาบขาได้หรอกมั้ง “อ้อ…ได้ค่ะ…งั้น…ฉันขอตัวก่อนนะคะ” นักศึกษาแพทย์สาวยิ้มหวานให้ก่อนจะโค้งตัวขอออกไปทำหน้าที่ต่อ “เห้อ…ขนาดรถลงยังไม่มาเยี่ยมกันเลย…ใจร้ายชะมัด!” น่านฟ้าพึมพำ กับตัวเองเบาๆ พร้อมกับจ้องมองไปยังประตูห้อง หวังว่าจะมีใครสักคนผลักมันเข้ามาพร้อมกับสีหน้าท่าทางที่เป็นห่วงเป็นใยเขาบ้าง ตกเย็น… “ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วค่ะ ส่วนนี่ยานะคะทานหลังอาหารค่ะ” “ครับ…เอ่อคุณหมอครับ…อึก…” หมับ!! ทันทีที่ปันปันเตรียมหมุนตัวออกไปนอกห้องผู้ป่วยพิเศษ น่านฟ้าก็คว้าเข้าไปที่แขนเรียวของปันปันทันที ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความลำบากใจไม่กล้าพูดต่อ “คือ…ช่วยรินน้ำใส่แก้วให้หน่อยได้ไหมครับ” “อ้อ…ได้ค่ะ…รอสักครู่นะคะ” ปันปันยิ้มตอบก่อนจะเดินไปหยิบน้ำในเหยือกมารินใส่แก้วทรงสูงให้น่านฟ้าด้วยท่าทางใจดี “อีก15นาทีห้องของคนไข้จะงดให้เยี่ยมนะคะ ถ้ามีญาติมาเยี่ยม รบกวนทำเวลาหน่อยนะคะ” ปันปันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอ่อ…” น่านฟ้านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “คงไม่มีใคร มาเยี่ยมหรอกครับ” แววตาเศร้าๆ ฉายแววออกมาจนปันปันเห็นได้ชัด และรู้สึกเห็นใจเขา ทำไมถึงได้น่าสงสารจังล่ะ คงจะเครียดน่าดูเลย เธอคิด “เอ่อ…ขอโทษนะคะ…คนไข้อยากดูทีวีไหมคะ เดี๋ยวฉันเปิดให้” ปันปันพยายามชวนคุยเพื่อให้น่านฟ้าได้คลายกังวล “ครับ! เปิดทิ้งไว้ก็ได้ครับ” “เอ๋?” “ผมไม่ชอบดูทีวีครับ แต่ชอบเปิด” “?” แปลกพิลึก “คุณหมอว่างไหมครับ?” “ก็…ว่างค่ะ” ปันปันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มสดใส “คือตอนนี้ก็ใกล้มืดแล้ว…แล้วผมก็ไม่มีญาติด้วย…ช่วยอยู่เป็นเพื่อนได้ไหมครับผมกลัวผี…ผมจ้างพิเศษก็ได้ครับ คุณหมอจะคิดเท่าไหร่?” “เอ่อ…ไม่ต้องจ้างหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว…” “งั้นเดี๋ยวผมนอนโซฟาเอง ส่วนคุณหมอนอนเตียงได้เลยครับ” “อุ้ย ไม่ดีกว่าค่ะ คนไข้นอนเตียงตามเดิมเถอะนะคะ เดี๋ยวฉันนอนที่โซฟาเอง เตียงคนป่วยจะให้ฉันนอนได้ยังไงกันคะ แฮะๆ” ปันปันหัวเราะตอบเบาๆ “คนหรือนางฟ้าวะ ทั้งสวยทั้งใจดี” น่านฟ้าเอ่ยบอกตัวเองเบาๆ แล้วเอ่ยถามต่อ “คุณหมอครับ คุณหมอ…กลัวเลือดหรอครับ?” “เอ่อ…ค่ะ…” เธอพยักหน้าตอบเบาๆ “ขอถามได้ไหมครับว่าทำไมถึงกลัว?” “ขอไม่ตอบได้ไหมคะ เรื่องส่วนตัว” ปันปันเอ่ยพร้อมระบายยิ้มบางๆ ให้น่านฟ้า “ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ขอโทษที่ถาม” น่านฟ้าเอ่ยบอกด้วยเสียงสุภาพ น้ำเสียงสุภาพ แต่สายตาของเขาไม่ได้สุภาพเลย แววตาดุจจิ้งจอก สมฉายาน่านฟ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ “ไม่เป็นไรค่ะ คนไข้ต้องการอะไรอีกไหมคะ” “ต้องการหมอครับ” น่านฟ้าตอบราวคนละเมอ “ว่าไงนะคะ?” “เอ่อ…อ้อ…ต้องการผ้าห่มไหมครับ?” น่านฟ้าถ้าพร้อมกับยกผ้าห่ม ให้ปันปันดู เพราะตรงโซฟาไม่มีผ้าห่มอยู่เลย ก็แถไปเรื่อย “อ้อ ขอบคุณค่ะ แต่เดี๋ยวฉันไปเอาเองดีกว่า เชิญคนไข้พักผ่อนเลยค่ะ” “เอ่อ…คุณหมอครับ…” ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปจับลูกบิด น่านฟ้าก็เรียกขึ้นอีก “คะ?” “เอ่อ…ขอไปด้วยได้ไหมครับ…พอดี…กลัวผี” น่านฟ้ากล่าว ทำเอาปันปันหลุดขำออกมาเบาๆ เอ็นดูกับความกลัวผี “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันไปแปบเดียว เดี๋ยวก็มา” “ไม่ไปได้ไหมครับ ผมกลัวจริงๆ ยิ่งที่ไม่คุ้นแบบนี้มันยิ่งจินตนาการไปเอง” ปกติอยู่คอนโดก็ไม่กลัวหรอก เพราะชินแล้ว แต่เขาไม่ชอบนอนต่างที่ ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโรงพยาบาล แหล่งรวมคนตาย มันก็อดที่จะคิดไปไกลไม่ได้ “เอ่อ…งั้นก็ได้ค่ะ…” ว่าแล้วปันปันก็เดินไปพยุงน่านฟ้าให้เดินไปด้วย “หอมจัง” น่านฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่ออยู่ใกล้ร่างเล็กชนิดที่เกือบจะสิงร่างกันอยู่แล้ว “คะ?” “เอ่อ…เปล่าครับ…คุณหมอนี่ใจดีจังเลยนะครับ…” “เป็นหน้าที่หมอค่ะ โอ๊ะ…ยืนรอตรงนี้นะคะเดี๋ยวฉันขอไปหยิบผ้าห่มกับหมอนก่อน” ปันปันปล่อยร่างน่านฟ้าให้ยืนเองก่อนจะเอื้อมไปเปิดตู้แล้วหยิบหมอนกับผ้าห่มมาถือไว้ “พอจะเดินเองได้ไหมคะ พอดี มือไม่ว่างเลยค่ะ” “จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าผมจะขอ…จับชายเสื้อของหมอเดิน” “หึๆๆ ค่ะ ตามสบายค่ะ” ปันปันขำในความขี้กลัวของน่านฟ้า แต่ก็ยอมให้เขาจับชายเสื้อเดินไปจนถึงห้อง “ดึกๆ นี่เงียบแบบนี้ทุกวันเลยหรอครับ” น่านฟ้าถาม ดวงตาก็สอดส่ายชายตามองไปรอบๆ ที่ค่อนข้างจะเงียบและวังเวงชอบกล “ค่ะ ที่โรงพยาบาลก็เงียบแบบนี้ตลอดแหละค่ะ จะได้ไม่รบกวนคนไข้ ยิ่งห้องวีไอพียิ่งจะเงียบเป็นพิเศษเลย” “…อ้อ…ครับ” “พักผ่อนได้แล้วค่ะ” “คุณหมอไม่อาบน้ำก่อนนอนหรอครับ?” ไม่ได้หวังอะไรหรอกจริงๆ แค่ถามเพราะเป็นห่วงกลัวหมอจะเหนียวตัว “เอ่อ…เดี๋ยวคนไข้หลับแล้วฉันค่อยออกไปอาบค่ะ” “ไม่เอา ไม่ไปได้ไหมครับ อาบในนี้ไม่ได้หรอ?” “จะดีหรอคะ” ปันปันมองน่านฟ้าด้วยสีหน้าเกรงใจ “ดีสิครับ คุณหมออุตส่าห์มาอยู่ดูแลผม” “งั้น…สักครู่นะคะ เดี๋ยวให้คนเอาชุดมาให้ก่อน” ว่าแล้วปันปันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดพิมๆ ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ขอตัวสักครู่ค่ะ” ปันปันยิ้มให้น่านฟ้า ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้ใครสักคน “อะไรเนี้ยปลื้ม เอาชุดมาให้แค่นี้บ่น” ปันปันกล่าวด้วยเสียงน้อยใจ พร้อมกับหยิบกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากมาถือไว้ “ทีหลังก็หัดเตรียมเอง วันหลังปลื้มไม่เอามาให้แล้วนะ มันดึก” เสียงบทสนทนาหน้าห้องทำเอาน่านฟ้าขมวดคิ้วมุ่น “ใครวะ ทำไมต้องคุยกันสนิทสนมขนาดนั้น?” น่านฟ้าชะเง้อหน้าไปมอง ก็เห็นหนุ่มหล่อ ผิวขาว ตัวสูง จับแก้มปันปันอยู่ หรือจะเป็นแฟนคุณหมอวะ น่านฟ้าคิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม