“ว้าย! ดีใจว่ะแก ต่อไปฉันก็ไม่เหงาแล้วสินะ ฉันจะมีเพื่อนแล้ว ดีใจที่สุด ขอบคุณนะคะฟ้าที่ประทานยายเอมเพื่อนรักของหนูให้กับหนูอีกครั้ง”
เอมมาลินหัวเราะในท่าทีตลก ๆ ของเพื่อน
“ฉันก็จะอยู่เตรียมงานแต่งที่เมืองไทยเลย พ่อกับแม่ของพี่ไกด์ท่านบอกไม่ให้ฉันกลับไปที่โน่นอีกแล้ว”
“ดีที่สุด ฉันดีใจมากเลยรู้ไหม ดีใจกว่าถูกหวยอีก มะ...ยายเอม มาให้ฉันกอดหน่อย กอดให้หายคิดถึงกันไปเลย กอดแน่น ๆ นะ” สองคนกอดกันกลม
“โอกาสหน้า ถ้าฉันเจอพี่ไกด์ของแก ฉันจะกอดให้กลมแบบนี้เหมือนกันเลย จะขอบคุณพี่ไกด์ดัง ๆ ที่พาแกกลับมาหาฉัน” ยังคงมีน้ำเสียงดีใจสุด ๆ
“ฉันเล่าเรื่องแกให้พี่ไกด์ฟังหมดแล้ว ว่าเราสองคนรักกันยังไง”
“เหรอ อยากเจอพี่ไกด์ไว ๆ จะได้ขอบคุณคำใหญ่ ๆ”
เอมมาลินหัวเราะ จ้องมองหน้าของเพื่อน
“ไอ้ส้ม วันนี้วันอะไร” เอมมาลินช้อนสายตาถามเพื่อน
“ก็วันศุกร์ไง” ตอบโดยไม่ต้องคิด
“มันก็ถูกอะนะ แต่ฉันให้โอกาสแกตอบใหม่ส้ม วันนี้วันอะไร” เอมมาลินส่ายหน้า มองเพื่อนแบบให้โบนิตาตอบคำถามอีกครั้ง
“แกยังไม่ลืมเหรอ” โบนิตาทำน้ำตาคลอ
“ใครจะลืมวันเกิดเพื่อนรักได้ล่ะคะ แกยังจำได้ไหม ตอนวันเกิดแกครั้งล่าสุด ที่เราสองคนแอบไปเที่ยวผับแล้วเมาแอ๋กลับบ้านแทบไม่ถูก สุดท้ายต้องโทร. ให้พี่ชายฉันไปรับ ฉันยังถูกแม่ตีด้วย ขาลายหมดเลย ฮา...”
เอมมาลินหัวเราะแบบมีความสุขเมื่อได้นึกถึงความหลัง
“ฉันก็ถูกยายฟาดเสียจนตูดบวมเลย นั่งแทบไม่ได้”
“แล้ววันนี้ล่ะ เราสองคนจะเอายังไง”
โบนิตามองหน้าเพื่อนทำใบหน้าแบบตื่นเต้น ๆ
“ก็ไปเมากันอีกสิวะ ไม่เจอกันตั้งนาน เมาเอาแบบให้เต็มที่ไปเลย”
“เย้ ๆ...” สองสาวคุยกันเสียงดังอย่างสนุกอยู่ในห้องทำงานของโบนิตา
ณ ผับย่านรัชดาฯ
เสียงเพลงที่ดังสนั่น สองสาวดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในตัวหลายแก้ว ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี เรื่องเล่าเรื่องถามมีเยอะคุยเท่าไหร่ก็ไม่หมด
“บอกให้กลับไปแต่งตัวมาใหม่ก็ไม่ยอม ดูสิ คนมองแกกันทั้งนั้น”
โบนิตาก้มลงไปมองเสื้อผ้าของตัวเอง กระโปรงสอบแคบเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่ว ๆ ไป แล้วก็เสื้อเชิ้ตผ่าหน้าคอบัว ยังดีหน่อยที่มีลวดลายของลูกไม้ที่ประดับมีเลื่อมปักทำให้สะท้อนแสงแวววับ
“ไอ้ส้ม เอาป้ายบริษัทของแกที่ห้อยคอออกซะก่อนเหอะน่า”
โบนิตายิ้มแป้น ค่อย ๆ เอามันออกจากคอแล้วเก็บเข้าไปในกระเป๋า
“ก็ฉันไม่อยากเสียเวลานี่ แกเชื่อไหม ตั้งแต่วันนั้น ฉันไม่เคยได้ดื่มได้เที่ยวอะไรแบบนี้อีกเลย”
“เชื่อสิ รู้หรอกน่าว่าส้มเป็นคนยังไง”
“เอ้า...ชน ขอให้เอมเพื่อนรักของส้มมีความสุขกับชีวิตคู่นะคะ” โบนิตาอวยพร
“ว่าแต่ถามจริง ๆ เหอะส้ม แกก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ ไม่มีคนมาจีบหรือ”
ส้มส่ายหน้าระรัว
“ไม่มีใครตรงสเปกสักคน”
“แกเลือกเยอะอะสิ”
“โถ... เอมแกไปอยู่เมืองนอกซะนานจะไปรู้อะไร เดี๋ยวนี้ผู้ชายมันฉลาดโว้ย”
“ยังไงวะ”
“มันหันไปกินพวกเดียวกัน หรือไม่ก็ เอ่อ... แบบไม่มีใครมานั่งกัดก้อนเกลือกินกันหรอก ผู้ชายเขาก็มองหาผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์แล้วก็รวย ๆ ย่ะ”
“มีแบบนี้ด้วยหรือวะ ใส่ร้ายผู้ชายนะเนี่ย อย่าเอาอดีตที่แกเคยเจอผู้ชายร้าย ๆ มาทำลายอนาคตนะโว้ย ฉันไม่อยากเห็นแกอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต”
โบนิตายกเครื่องดื่มที่อยู่ในมือกระดกขึ้นเหมือนกับว่ามันอร่อยนักหนา
“ไอ้ส้ม เดี๋ยวก็เมาหรอก ไม่ใช่น้ำผลไม้นะเว้ย”
“เอ่อ... นี่ ฉันนะนั่งคิดนอนคิดนะ ว่าฉันจะอยู่เป็นโสดแบบนี้ไปจนตาย”
“แห้งเหี่ยวแย่”
“อย่าว่าแต่แห้งเลยนะเอม สงสัยจะตันแล้ว”
“ไอ้บ้า ไอ้ส้มพูดอะไร”
“อ้าว ก็เรื่องจริง” สองสาวพากันหัวเราะ
“ว่าแต่แกกับพี่ไกด์ จึ้ก ๆ จั้ก ๆ กันหรือยัง”
เอมมาลินนั่งหน้าแดง เพื่อนสาวเอื้อมมือไปหยิกที่แก้ม
“ครั้ง สองครั้ง หรือสามครั้ง”
เอมมาลินหัวเราะ ก่อนจะตอบ
“น้อยไปสิ”
“หา! บ่อยเหรอ อิอิ” ส้มหัวเราะอย่างสนุก
“เฮ้อ... จริง ๆ อยู่คนเดียวมันก็เหงามากนะวุ้ย แต่ทำไงได้ ฉันก็พยายามขุดหลุมอยู่นะ ให้ผู้ชายดี ๆ หล่นลงไปสักตุบ แต่ไม่ยักมี”
“แล้วแกชอบผู้ชายแบบไหนล่ะ” เอมมาลินถาม แล้วก็ค่อย ๆ หันหน้าไปมองผู้ชายที่นั่งอยู่ในร้าน เธอไปสะดุดตากับผู้ชายคนหนึ่ง เขาทั้งขาวดูสะอาดสะอ้าน แต่มองไม่ค่อยเห็นชัดเพราะในร้านค่อนข้างมีแสงน้อย
“คนนั้นเป็นไง” เอมมาลินกระซิบกระซาบ พลางชี้มือไปยังผู้ชายคนนั้น
“ไหน” โบนิตาพยายามเพ่งมอง
“ฮึ...” เธอสั่นหน้าระรัว
“หล่อระดับนั้น ฟันธง เกย์!”
“จริงดิ”
“เออ... สายตาของฉันไม่เคยพลาดหรอก”
“เหรอ แล้วคนนั้นแกว่าเป็นยังไง”
“ไหน...” ส้มหันไปมองตามเพื่อน
ดีเจที่กำลังเปิดเพลงให้กับทุกคนโยก ขยับหัวแทบจะโขกไปกับเคาน์เตอร์ โบนิตาถึงกับหัวเราะลั่นออกมา
“โอย... หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ฉันไม่พร้อมจะมาลุยกลางคืนแย่งสาว ๆ แกเห็นไหมสก๊อยปากแดงนั่งคอยท่าพ่อดีเจกันเต็มไปหมด”
“ค่ะ แม่คนช่างเลือก ดื่ม ๆ ทำไมคอแห้งจัง”
“เดี๋ยวก็เมาหรอก”
“ไม่เป็นไร ฉันบอกพี่ไกด์ให้มารับแล้ว แต่บอกว่าให้มาดึก ๆ นะ รอเราสองคนเมาปลิ้นกันก่อน”
“โธ่... เอมทำไมแกทำแบบนี้ล่ะ พี่ไกด์มาเห็นสภาพที่ฉันย่ำแย่ขนาดนั้น ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ดีออก เห็นกันตอนนี้แหละ จะได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันกับแกเป็นยังไง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันไหมเอม”
“ไม่เกี่ยว ฮา...” ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน โยกย้ายตามจังหวะเสียงเพลงไปบ้าง
“นี่เอมแกรู้ไหม ยายฉันบอกฉันก่อนตายว่ายังไง”
เอมมาลินสบตา ทำหน้าเศร้า
“ก็บอกให้ส้มดูแลตัวเองดี ๆ ไง ใช่ไหมเพื่อน”
“เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น ยายบอกว่าถ้าฉันไม่ได้แต่งงานก่อนอายุยี่สิบเก้าปี ฉันจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต”
“อั้ยย่ะ ยายแกดูดวงแม่นซะด้วยสิ จำได้ไหมที่บอกว่า แม่ฉันจะเจอกับป๊า แล้วจะได้ไปอยู่สุขสบายที่เมืองนอก ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังขายอาหารตามสั่งต๊อก ๆ แต๊ก ๆ อยู่เลย ยายแกโคตรแม่นนะ แล้วยังบอกฉันอีกว่า ไม่ต้องกลัวลำบาก อีกหน่อยฉันจะได้ผัวรวย”
โบนิตานั่งทำปากแบน ถอนหายใจออกมาดัง
“ยายนะยาย ทำไมมาพูดแบบนี้ก็ไม่รู้ ทำให้คิด” เธอยกแก้วเหล้าเข้าปากดังบึบ...
“วันนี้แกอายุครบยี่สิบแปดปี ใช่ไหม แกมีเวลาอีกตั้งปีหนึ่งหาผัวเลยนะส้ม อย่าเพิ่งท้อใจ”