17+ MARRIED :: INTRO [30%]

1729 คำ
บนเตียงนอนขนาดใหญ่มีร่างสูงกำลังนอนกอดก่ายหญิงสาวข้างกายด้วยความเหนื่อยล้า เนื่องจากเมื่อคืนเป็นการเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างหนักหน่วงแบบสุดๆ จนภายในห้องเต็มไปด้วยเครื่องป้องกันที่ถูกใช้แล้วหลายชิ้น แสงแดดจากด้านนอกทำให้ผมหรี่สายตาขึ้นมองหน้าต่างที่ถูกเปิดด้วยผ้าม่านนิดหน่อย ผมชื่อ ‘บอล’ นักศึกษาปีสี่ คณะนิเทศศาสตร์ ผมมีเพื่อนอยู่สามคนคือไอ้ซัส ไอ้นัมและไอ้อาร์ ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันสามตัวมีเมียแล้วเรียบร้อย ทำให้แก็งสายเคี้ยวเหลือแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเคี้ยวอยู่ และไม่เคยคิดจะมีเมียด้วยซ้ำ ผมมีฉายา ‘เจ้าพ่อสายเคี้ยว’ เพราะไม่ว่าจะยังไงผมก็เคี้ยวมันทุกวันอะ จะว่าติดเซ็กส์ก็อาจจะใช่ เพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมไม่ชอบการผูกมัดและคิดว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งที่เบื่อแล้วคายทิ้งมันคือนิสัยของผม แค่ต้องการเซ็กส์... แต่ไม่ได้อยากมีเมีย เข้าใจใช่มะ “พี่บอลตื่นแล้วเหรอคะ?” สายตาหันไปมองหญิงสาวข้างกายที่เนื้อตัวขาวๆ เต็มไปด้วยรอยแดงที่ผมสร้างไว้ เธอขยับตัวมากอดผม “อืม กลับไปได้แล้วไป” “ไล่เลยเหรอ” “เออ! ฉันมีเรื่องต้องให้คิด” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย มองร่างกายของตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยสัก สองมือเสยผมสีดำขึ้นไป ทรงผมที่กำลังฮิตกันคือไถข้างและสร้างลวดลายเท่ๆ ใบหูของผมเจาะหูแค่เพียงข้างเดียว จับจ้องมองตัวเองในกระจก เมื่อนึกไปถึงเมื่อคืนก่อนจะได้เคี้ยวหมากฝรั่ง แม่ของผมโทรมาหาและบอกเรื่องสำคัญ ใช่ เรื่องสำคัญของแม่ แต่ไม่ใช่ของผม... “แม่ว่าไงนะ!” (“แม่ว่าตามที่พูดนั่นแหละ บอลจะต้องเตรียมตัวรับว่าที่คู่หมั้นในเร็ววันนี้”) “แม่! แม่คิดอะไรอยู่เนี่ย ผมมีคู่หมั้นบ้าบอคอแตกตั้งแต่ตอนไหน” (“ตอนที่แม่บอกนี่ไง เตรียมตัวต้อนรับน้องเขาให้ดีด้วย น้องจะมาดูแลลูกในฐานะว่าที่คู่หมั้น... เราควรหยุดทำตัวเจ้าชู้ เคี้ยวผู้หญิงไปเรื่อยได้แล้วนะบอล อยากเป็นโรคตายหรือไง!) “ผมป้องกันตลอดนะแม่ ถ้าเป็นโรคตาย ผมคงตายตั้งแต่อายุสิบแปดแล้วนะ” (“บอล ลูกโตแล้วนะ พ่อกับแม่ต้องการให้ลูกเจอกับผู้หญิงที่ดีที่สุด ไม่ใช่ไปคว้าเอาผู้หญิงที่นอนชั่วครั้งชั่วคราวมาเป็นเมีย”) “แล้วแม่คิดว่าผมจะมีหรือไงเล่า! ผมไม่เคยคิดจะมีเมีย ผมต้องการเคี้ยวผู้หญิงไปเรื่อยๆ” (“น้องจะเดินทางไปถึงบ้านอีกสองวัน”) “แม่!” (“ขัดคำสั่งแม่ได้ แต่กับพ่อลูกกล้าเหรอบอล? น้องยังเด็กอายุเพิ่งสิบเจ็ด ดูแลน้องด้วย”) “โหว นอกจากจะคลุมถุงชนผมแล้ว ยังหาคุกหาตะรางให้ผมอีกเหรอ อายุสิบเจ็ดเนี่ยนะแม่! นมตั้งเต้ายังถามจริง” (“บอล! พูดจาน่าเกลียดมากเลยนะ แม่ไม่มีเวลาจะคุยกับลูกแล้ว ต้องไปทำงาน พ่อกับแม่จะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุด จะได้กลับไปจัดเตรียมงานหมั้นให้”) “ไม่เอานะแม่! แม่!” กลับมาปัจจุบัน “โธ่เว้ย! ทำไมกูซวยแบบนี้วะ อยู่ดีไม่ว่าดี โดนคลุมถุงชนซะได้” เมื่อนั่งคิดมากไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมเลยแต่งตัวและพาตัวเองมานั่งดื่มที่ผับ แน่นอนว่าเป็นผับของไอ้ซัสเพื่อนรักในแก็งสายเคี้ยว ผมถอนหายใจยามกระดกเหล้าเข้าปาก “พี่บอลเป็นอะไรคะ ทำไมเครียดจัง?” “มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อย ยังไงคืนนี้...” “หนูจะทำให้พี่บอลหายเครียดเองค่ะ” รอยยิ้มกระตุกขึ้นยามมองใบหน้าสวยที่แต่งแต้มอย่างสวยงาม ผมโน้มใบหน้าลงไปเพื่อหวังจะจูบเธอ หากแต่ว่า... “ไงมึง! นึกยังไงมาผับกูเนี่ย” “ผับมึงไม่ต้อนรับกูหรือไงหืม ไอ้ซัส!” มันยักไหล่และนั่งลงตรงข้ามผม “น้องจินอะ ไม่ได้มาด้วยเหรอ?” “ถามหาเมียกูทำไม กูเพื่อนมึงนะไม่ใช่จิน” “หึงเหี้ยไรเนี่ย ถามหาน้องจินเพราะเดี๋ยวนี้ไม่ได้เจอเลยต่างหาก!” “อยู่กับพี่รัม ว่าแต่มึงไอ้อาร์โทรคุยกับกูว่ามึงถูกคุณลุงกับคุณป้าคลุมถุงชนอ่อ” ไอ้ซัสหรี่สายตามองผมอย่างกวนตีน ได้ทีเล่าให้ฟังครบทั้งกลุ่มเลยนะไอ้อาร์! “เออ แม่งโคตรเซ็งอะ ทำไมแม่กับพ่อกู ต้องทำแบบนี้วะ?” “อยากให้มึงเมียเป็นตัวเป็นตนมั้ง เพราะถ้าจะเจอถูกใจแบบพวกกูสามคน คงยาก” “มึงยังรู้ แล้วไมพ่อกับแม่กูถึงไม่รู้วะ?” “รู้ ไม่งั้นจะจับมึงคลุมถุงชนเหรอไอ้สัด!” ผมถอนหายใจกระดกเหล้าเข้าปากจนเกือบจะหมดขวด ส่วนไอ้ซัสก็ลุกขึ้นเดินไปตรวจผับโดยไม่ได้สนใจอะไรผมมากมายนัก “พี่บอลจะแต่งงานเหรอคะ” “เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะแต่งหรือไงล่ะ!” “แต่พ่อกับแม่พี่คลุมถุงชน...” “แล้วไง ไม่มีใครหยุดฉันได้ แม้แต่พ่อแม่” ใช่ ใครมันจะมาหยุด ‘พี่บอลสายเคี้ยว’ ได้ล่ะ แม้แต่พ่อกับแม่ยังทำไม่ได้เลยนะ ไม่งั้นจะจับผมคลุมถุงชนทำไม ถ้าไม่กลัวว่าผมจะอยู่โสด ทำตัวเคี้ยวไปเรื่อยๆ แบบนี้ ผมขับรถมาถึงบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืน โดยหิ้วหมากฝรั่งมาด้วย แน่นอนว่าคืนนี้จะมีความสุขมาก และลืมเรื่องที่ควรคิดไปให้หมด และคิดแผนจะต้อนรับยัยคู่หมั้นเด็กที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้า หรือรู้จักกันมาก่อน จะต้องเป็นเด็กแบบไหน ถึงได้รับเป็นว่าที่คู่หมั้นกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน คงจะแรดไม่น้อยหรอก อายุเพิ่งจะสิบเจ็ดควรเรียนก่อน ไม่ใช่รีบอยากมีผัวจัดขนาดนี้! สองเท้าก้าวเข้ามาในบ้าน ก่อนจะจับจ้องไปยังโซฟาที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบวางอยู่ พร้อมกับแผ่นหลังของผู้หญิง? ใช่ผู้หญิงที่นั่งหันหลังอยู่ ผมสีดำยาวกลางหลัง ผมไม่รู้หรอกนะว่าเธอคนนี้แต่งตัวยังไง “เธอเป็นใคร เสนอหน้ามานั่งในบ้านฉันได้ไง?” “...” “ถามก็ตอบสิวะ! ถ้าเป็นหมากฝรั่ง ไปไกลๆ เลยวันนี้ฉันมีคนเคี้ยวแล้ว” เธอยังคงนิ่งจนผมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แม่งเอ่ย! มานั่งอยู่ในบ้านกูยังจะเงียบใส่เจ้าของบ้านอีกเหรอวะ “เฮ้ย หันหน้ามาดิ เงียบทำไมปากอมอะไรอยู่!” “คุณอาร์กลับมาแล้วเหรอคะ?” “ใช่ ป้านิ่มให้ใครเข้ามาในบ้านผม ลากหล่อนออกไปซะ ก่อนที่ผมจะโมโห!” ป้าแม่นมของผมทำหน้าตกใจ ก่อนจะหันไปมองหล่อนที่ขยับตัวลุกขึ้นยืน ผมมองด้านหลังก็พบว่าเธอสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขา สูงไม่มากเท่าไหร่ “ลุกแล้วก็หันหน้ามา” ผมบังคับเสียงตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ ถึงแม้ว่ามันจะหงุดหงิดก็ตามที แต่ก็อยากจะรู้ว่ายัยนี่เป็นใคร! ร่างเล็กดูบอบบางหันมาสบตากับผม เธอคนนี้ดูเด็กมากแต่ใบหน้าสวยเกินอายุ ริมฝีปากบอบบาง จมูกโด่งสวยรับใบหน้าเรียว หากแต่ว่าผมกลับเห็นเธอต่างจากผู้หญิงโดยทั่วไปคือสีหน้าดูนิ่งเรียบ ผมมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและมาจบที่การสบตากันตรงๆ เป็นครั้งแรก “เธอเป็นใคร?” “หนูชื่อ ‘มีน’ ค่ะ” “อือ แล้วมาเสนอหน้าอยู่ที่บ้านฉันได้ยังไง” ผมเท้าเอวมองเธอซึ่งถอนหายใจออกมา ราวกับไม่อยากจะพูดหรือตอบคำถามผม เออคือที่นี่บ้านผมนะ ผมควรทำท่าทางแบบนี้หรือเปล่า ไม่ใช่หล่อนนะเว้ย! “หนูเป็นคู่หมั้นพี่ไงคะ พี่บอล” ว่าไงนะ! ผมฟังไม่ผิดใช่ปะ หล่อนบอกว่าเป็นคู่หมั้นของผม สายตาของผมกวาดมองเธออีกครั้ง เนี่ยนะเด็กอายุสิบเจ็ดของแม่ เด็กสิบเจ็ดที่แม่หาให้ผม... มองเรือนร่างตรงหน้าอีกครั้ง ขอคืนคำพูดที่ว่าอายุสิบเจ็ดนมตั้งเต้าหรือยัง? ใช่ เพราะนมตรงหน้าเนี่ยใหญ่พอดีกับตัวเธอ ไม่ได้แบนราบอย่างที่ผมคิด รูปร่างและหน้าตาก็คิดว่าอาจจะเป็นเด็กที่ตัดผมสั้นเท่าติ่งหู ที่ผมพูดไปก่อนหน้านั้น... ยัยเด็กคนนี้ ไม่ได้เหมือนที่ผมจินตนาการไว้เลยสักนิดเดียว “เธออายุสิบเจ็ดจริงเหรอ?” “ค่ะ หนูอายุสิบเจ็ดจริงๆ” “หึ ถามจริงนะ เราสองคนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไมเธอถึงได้ทำตามคำสั่งแม่ฉัน หรือไงพ่อแม่เธอขายเธอให้ครอบครัวฉันงั้นสิ?” “ไม่ใช่นะคะ แล้วก็อย่าดูถูกพ่อกับแม่หนูนะ” เธอมองผมตาขวาง แต่มีเหรอผมจะกลัวก็แค่เด็กเมื่อวานซืนที่เดินเข้ามาในถ้ำเสืออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร “แล้วไงแม่ฉันสั่งอะไรเธอมาบ้างล่ะ?” “ให้หนูมาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่คู่หมั้น และดูแลพี่บอลค่ะ” “รู้จักชื่อฉันด้วย เหอะ ชอบนักหรือไงคลุมถุงชนแบบนี้... ถามจริง เธอรู้จักนิสัยฉันจริงๆ หรือเปล่าถึงได้กล้าที่จะตกลงเป็นว่าที่คู่หมั้นกับฉัน” สาวเท้าก้าวไปหาเธอที่ตัวเล็กกว่าผมมาก หากแต่ว่าผมไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น กับการที่ตัวเองถูกจับคลุมถุงชนแบบนี้ เป็นคุณจะดีใจหรือไง? ไม่ ไม่ใช่สำหรับผมแน่ๆ เพราะผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาหยุด มันไม่มีวันที่ผมจะหยุดเคี้ยว ไม่มีวันนั้นแน่!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม