ยูนิคอร์นบาร์เบอร์
1202 คำ
ยูนิคอร์นบาร์เบอร์
เหนือเมฆ : เล่าเรื่อง
ภายในร้านตัดผมแบบครบวงจรนี้ ตรงโถงทางเดินแสงไฟไม่ค่อยสว่างสักเท่าไร เฮียผาเจ้าของร้านอยากให้มีบรรยากาศแบบผับผีดูดเลือด ดังนั้นผมเลยต้องทำตัวเป็นพนักงานบริการที่ดีด้วยการจับมือภานุ ตั้งใจพามันเดิน แต่นอกจากมันจะไม่ยอมให้จับแล้วยังใช้ข้อศอกคมๆ ถองเข้าใส่หน้าท้องผมเสียงปั๊กๆๆ
“เชี่ย มึงจะห้าวไปไหน รู้จักทำตัวน่ารักๆ ให้กูได้จิ้นและฟินบ้างเถอะ”
“ทำไมกูต้องทำตัวแบบนั้น ในเมื่อความจริงกูไม่ใช่คนน่ารักและแสนดี!”
ผมทำหน้าหงิกใส่ภานุ และเอ่ยกับเขาอย่างชื่นชมความหล่อใสว่า
“เชื่อกูเถอะ ทำตัวให้น่ารักเข้าไว้จะได้เหมาะสมกับหน้าหวานๆ ปากนิด จมูกหน่อยของมึงไง” ผมพูดจบก็บีบปลายจมูกโด่งเชิดรั้นของเขา เป็นตอนนั้นที่ภานุมือไวอย่างกับวอก เพราะจับมือผมข้างที่บีบปลายจมูกสวยไปไพล่หลังไว้ แล้วออกแรงบีบอย่างหนักจนผมร้องโอดโอย
“ขืนมึงยังจิ๊จ๊ะถึงเนื้อถึงตัวกูไม่เลิก กูจะไม่ใช่แค่ต่อยปาก แต่จะหักแขนมึงแล้วเฉือนไข่ยานๆ ของมึงทิ้งทั้งพวงเลย”
ผมไม่ได้กลัวคำขู่ ด้วยเสียงที่เขาพยายามทำให้เข้มกลับน่าฟังเป็นบ้า เมียเถื่อนแบบนี้ ใครได้เย็บรัวๆ คงถูกใจสุดๆ
“เออๆ ไม่ปล้ำมึงตอนนี้ก็ได้ แต่ปล่อยมือก่อนเถอะ เจ็บจนเยี่ยวจะแตกแล้ว” ผมบอกเขาไปอย่างนั้น เอาจริงๆ ร่างกายอุ่นๆ ที่แนบชิดตัวผมในตอนนี้ทำให้ผมแข็ง และแข็งจนเป้ากางเกงนักเรียนตุงจัด ส่วนน้องนิ่มของเขาก็สีอยู่ตรงบั้นท้ายผมพอดี นอกจากสีไปมา เขายังจงใจนาบน้องนิ่มที่เริ่มพองขยายกับร่องก้นผมด้วย
เชี่ย! แวบนั้น ผมหัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้ ตัวงี้แข็งค้าง รู้สึกว่าตนกำลังประสบปัญหาใหม่เข้าแล้ว
จู่ๆ กล้วยเล็บมือนางของภานุกลับพองขยายและเริ่มร้อนลวกตรงร่องก้นผม ตัวผมก็เผลอยกก้นขึ้นสูงเด้งรับอย่างรู้งาน เพื่อหวังให้เขานาบแก่นกายทาบลงไปแบบเน้นๆ
เสียว...เสียวจนขนลุกเกรียวเชียวละ
ภานุมันหื่นพอกันนั่นแหละ พอผมยั่วเข้าหน่อย เขาก็จงใจเบียดหน้าอกกับแผ่นหลังผม ส่วนเจ้าพองๆ ของเขาก็ทั้งเสียดสีและถูไถในจุดชวนสยิวอย่างยั่วๆ
และเป็นตอนนั้นที่ผมเริ่มเอะใจ
ฉิบหาย…หรือว่าผมชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำ
โอ้...ไม่นะ คนที่มีกล้วยยักษ์อย่างผม เกิดมาเพื่อสอยก้นใหญ่ๆ ของผู้ชายหน้าใสเท่านั้น!!
เมื่อเขาปล่อยผมเป็นอิสระ ผมจึงพามันไปที่เคาน์เตอร์ พร้อมอธิบายสิ่งต่างๆ ให้เขาเข้าใจ จุดนั้นมีพี่ลูกเจี๊ยบหรือชื่อจริงคือประภาส นั่งยิ้มหน้าแป้นอยู่ แกเป็นสาวประเภทสองที่ยังมีดุ้นยักษ์พร้อมใช้งาน และเป็นคนดังของที่นี่ มีหนุ่มต่างชาติกับพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยหล่อๆ ที่ชอบถูกกระทำแรงๆ เรียกหาแกเสมอ แต่หมู่นี่แกแม่งทำหน้าเชี่ยสัส ดูเศร้าเหงาหงอย คงเป็นเพราะจิตใจพะวงอยู่กับผัวแก่ที่หลงเมียเด็ก (คราวนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ และไม่มีช้างน้อย)
“ต้องจ่ายเท่าไหร่” ภานุหันมาถาม
ผมยิ้มกว้างแล้วชี้ให้มันดูที่ป้าย เป็นตอนนั้นที่เขาทำหน้าบูด
“พันห้า ไอ้สัส! นี่ร้านอะไรของมึง แพงฉิบ”
“ก็ร้านตัดผมเนี่ยแหละ คิดมากทำไม เขาให้เด็กเข้าได้ก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว” ผมบอก แล้วดันหลังให้เขาเดินลึกไปอีก จากนั้นก็เตรียมผ้าขนหนูให้อีกฝ่าย
พี่ลูกเจี๊ยบหันมามองผมแวบหนึ่ง และเอ่ยว่า
“วันนี้ทำอะไรเบาๆ หน่อย ช่วงนี้ของมันแรง”
“ได้เลยครับ เอ ว่าแต่เจ้ไม่มีแขกเหรอ”
“มี แต่เจ้ไร้อารมณ์ พวกประหลาดนั่นอยากให้เจ้เยี่ยวใส่ ยังไม่พอ มันยังขอแบบทาสต่ำๆ บอกให้ใช้ปัตตาเลี่ยนโกนหัวมัน แล้วเอาลนไฟหมออ้อย และลนไข่ด้วย!”
ผมได้ยินพี่ลูกเจี๊ยบพูดแบบนั้นก็ขนลุกไปทั้งร่าง ร้านของเฮียผาถึงจะมีบริการพิเศษ แต่พวกเราไม่ดาร์กจัด เหมือนร้านทางฝั่งใต้ของเมือง พวกนั้นดิบเถื่อน แถมเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกที่ชอบตุ๊กตามนุษย์และนิยม BDSM*
“งั้นเจ้ลูกเจี๊ยบคงต้องติ้วจิ๊มิแท่ง (กล้วย) ตัวเองไปก่อน เดี๋ยวถ้ามีแขกสุภาพๆ หลงมาเมื่อไหร่ ผมจะเชียร์ให้มันคลานเข่ามาให้เจ้ขี่ถึงที่เลย”[1]
พี่ลูกเจี๊ยบหัวเราะด้วยจริต ก่อนทำท่าหน้าเสียวสุดติ่ง พร้อมกับขยิบตาให้ผม “แต่เจ้หวังกินคอปเตอร์มากกว่า ก้นแน่นๆ เป้าใหญ่บึ้มเนี่ย จับมานั่งม้าสักครั้งคงครางเสียงแมนๆ จนเจ้เสร็จเป็นสิบรอบ”
ผมไม่ได้นึกโกรธพี่ลูกเจี๊ยบ แกกับเฮียผารักผมเหมือนน้องชาย กระนั้นก็แกล้งโวยออกไปพอเป็นพิธี
“เฮ้ย เจ้...อายุอย่างผมเนี่ย เป็นลูกเจ้ได้เลยนะ”
“ฮิๆๆ ตราบใดที่เจ้ไม่มีมดลูก และไม่ได้คลอดเด็กคนไหนออกมาจากตูด ฉะนั้นหากเป็นผู้ชาย คลำดูแล้วไม่มีหาง เจ้ก็จับกินได้หมดแหละ”
ภานุมองผมสนทนากับพี่ลูกเจี๊ยบด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ
“ดูสิ น้องคนนี้คงอยากลองแบบแซนด์วิชใช่ไหม หรือไม่ก็สอดกล้วยเข้าปากบนและปากล่าง แล้วตบท้ายด้วยยัดสองแท่งลงรูนุ่ม เรื่องแบบนั้นเจ้จัดให้ได้นะ แค่เซย์เยส รับรองได้เสียเป็นผัวเมียกันแน่นอน”
ภานุไม่ได้มีท่าทีตื่นกลัวหรือเอ๋อแดกแต่อย่างใด เขากลับวางสีหน้านิ่ง แถมอมยิ้มให้พี่ลูกเจี๊ยบเสียด้วยซ้ำ และคนที่เหงื่อแตกกลัวจนขี้ขึ้นสมองกลับเป็นผม!
“ไม่นะเจ้ เป่าเปามากับผม อีกอย่างคนนี้ผมหวงสัสๆ”
พี่ลูกเจี๊ยบส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนเอ่ยเตือนผม “แหม เจ้แค่แซวเล่น ตกใจอะไรเบอร์นั้น เล่นใหญ่ไปนะจ๊ะหนูคอปเตอร์” พี่ลูกเจี๊ยบพูดจบก็หัวเราะคิกคัก หากไม่วายมองภานุด้วยสายตาอ่านกิน
“เอ น้องคนนี้เพื่อนคอปเตอร์จริงๆ เหรอ” พี่ลูกเจี๊ยบเอ่ยถาม
และไม่ทันที่ภานุจะเอ่ยปากตอบ ผมก็ฉุดเขาเดินหนีจากพี่ลูกเจี๊ยบอย่างไว
[1] B : Bondage คือ พันธนาการ, D : Discipline คือ การลงโทษคู่รัก, S : Sadism คือ มีความสุขจากการทำร้ายผู้อื่น, M : Masochism คือ มีความสุขจากการถูกผู้อื่นทำทารุณกรรม และกล่าวได้ว่า BDSM เป็นกิจกรรมทางเพศแบบมีความสัมพันธ์ชนิดที่รุนแรงและทรมาน ซึ่งถือว่าเป็นความพึงพอใจในอีกรูปแบบหนึ่งของคู่รัก โดยมีการตกลงบทบาทที่ชัดเจน และปกติไม่มีการสลับบทบาทกัน
- ผู้เขียน
