ตอนที่ 2

1005 คำ
ระรินน์ให้เหตุผลกับสามี… ทุกวันนี้หล่อนรู้สึกเบื่อหน่ายกรุงเทพเต็มที ที่เชียงใหม่อากาศดีมาก และนี่เป็นโอกาสดีที่หล่อนจะได้รื้อฟื้นประสบการณ์ด้านพยาบาลที่เรียนมาแต่แทบไม่เคยได้ใช้ “แต่อาการป่วยของพ่อพี่… เอ่อ… มันไม่เหมือนคนอื่นๆ นะ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาพ่อแทบไม่พูดกับใครเลย… แล้วพ่อก็เอาแต่ใจตัวเอง… ” แทนไทรู้เรื่องนี้จากปากของ ‘ป้าชื่น’ หญิงวัยหกสิบซึ่งเป็นคนงานเก่าแก่ ป้าชื่นทำงานในไร่แห่งนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้าที่สันต์จะมาซื้อต่อจากเจ้าของเดิม ทุกวันนี้ป้าชื่นมาทำความสะอาดให้บ้านหลังนี้รวมทั้งหาข้าวปลาอาหารให้กับสันต์เป็นประจำ ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้แทนไทก็ตกใจมาก สัปดาห์ต่อมาเมื่อถึงวันหยุดก็รีบลางานแล้วเดินทางมาดูอาการของบิดา “ไม่เป็นไรค่ะ… รินน์คิดว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุณพ่อเหมือนคนที่ถูกทิ้งไว้นาน เท่าที่เห็นร่างกายของท่านยังแข็งแรงมากไม่ซูบผอม รินน์เชื่อว่าอาการของคุณพ่อจะดีขึ้นถ้ารินน์มาอยู่เป็นเพื่อน… ” ระรินน์ยังคงยืนยันว่าอยากมาอยู่ดูแลพ่อสามี “ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ… ” แทนไทถามย้ำอีกที กลัวว่าระรินน์จะรับมือไม่ไหว “ไม่เปลี่ยนใจค่ะ… ” น้ำเสียงหนักแน่นของภรรยาที่ได้ยิน ทำให้แทนไทรู้สึกซาบซึ้งจนต้องกุมมือหล่อนขึ้นมาบีบ “พี่ขอบใจรินน์มาก… ขอบใจที่สุด” แทนไทโอบกอดเมียรัก… รู้สึกตื้นตันอยู่ในอกจนพูดไม่ถูก เขามองคนไม่ผิดจริงๆ ตลอดสามปีที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา ผู้หญิงคนนี้ทำตัวเป็นภรรยาที่ดีเสมอมา และวันนี้หล่อนก็ยังอาสาที่จะดูแลบิดาของเขา อีกสองสัปดาห์ต่อมา ที่ไร่องุ่นของสันต์ในจังหวัดเชียงใหม่ ระรินน์มาอยู่ดูแลสันต์ได้สองอาทิตย์กว่าๆ ช่วงแรกๆ ที่ต้องมาอยู่บ้านของพ่อสามี หล่อนยอมรับว่ารู้สึกหนักใจอยู่บ้าง เพราะว่าเกือบสัปดาห์ที่หล่อนมาอยู่ร่วมชายคาบ้านกับสันต์ เขายังคงพูดน้อย วันๆ แทบไม่พูดไม่จากับใครรวมทั้งหล่อน อันที่จริง… งานดูแลพ่อสามีก็ไม่ได้หนักอะไรมาก แม้ว่าเขาจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงบ้างในบางวันแต่สันต์ก็ยังเดินเองได้ แม้อาจจะช้าหน่อยแต่เขาก็เข้าห้องน้ำและอาบน้ำเองได้ปกติ ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียงอาการหนัก และเท่าที่ระรินน์ประเมินอาการป่วยของสันต์ด้วยสายตา หล่อนเชื่อว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่อาการที่แสดงออกมาน่าจะเป็นผลมาจากจิตใจมากกว่าสภาพร่างกายที่ยังดูแข็งแรงมาก “พ่อสันต์คะ… ได้เวลากินยาแล้วนะคะ… ” ระรินน์เดินมาพร้อมกับยาในมือและแก้วน้ำเหมือนเช่นหลายๆ วันที่ผ่านมา หล่อนเอายาใส่มือของสันต์ ทว่าครั้งนี้เขาไม่กินเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ขว้างยาทิ้งไปในสนามหญ้าอย่างไม่ไยดี “อุ๊ย… พ่อสันต์มีแรงขว้างยาทิ้ง แสดงว่าอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงดีขึ้นมากนะคะนี่… ” แทนที่จะโกรธ… แต่ระรินน์มองบวก หล่อนไม่ได้แสดงอารมณ์กับความดื้อดึงของสันต์ สมกับที่เคยเรียนพยาบาลและมีจิตวิทยา เมตตาและอดทนเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลคนป่วยประเภทนี้ ระรินน์รู้ว่าผู้ชายดื้อแบบนี้หล่อนควรจะเข้าหาเขายังไง ร่างเอิบอิ่มในชุดเสื้อแขนกุดสีชมพูคอกว้างกับกางเกงขาสั้นสีดำบางๆ แนบเน้นสรีระจนดูรัดรึงทั้งบนและล่าง ค่อยๆ ขยับเข้ามานั่งใกล้รถเข็นของสันต์ “ไม่กินยาก็ไม่เป็นไร วันนี้พ่อสันต์ดูดีขึ้นมากนะคะ ดูหน้าตายังหล่อเหลา หนูว่าพ่อสันต์ควรรีบรักษาตัวให้หายแล้วหาเมียใหม่สักคนดีไหมคะจะได้ไม่เหงา… ” สะใภ้คนสวยแกล้งเย้าชวนคุย… ก่อนจะกุมมือของพ่อสามี บีบเบาๆ ให้กำลังใจ ช่วยบีบนวดมือและแขนให้กับเขาอยู่ครู่ใหญ่ๆ มือเรียวไล้ลูบท่อนแทนกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อของพ่อผัว ปกคลุมไว้ด้วยเส้นขนสีดำ ผิวสีน้ำตาลของเขาตัดกันชัดกับผิวขาวเนียนของหล่อน ระรินน์จ้องมองเส้นเลือดกระจายเป็นสายทั่วแขนของสันต์ ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ในสายตาหล่อน รูปร่างของสันต์สูงใหญ่มากเมื่อเทียบกับผู้ชายตัวเล็กอย่างแทนไทลูกชายของเขา แต่ระรินน์ก็ไม่แปลกใจที่แทนไทกับสันต์นั้นมีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันมากมาย เพราะว่าสันต์เป็นเพียงพ่อเลี้ยงของแทนไท ไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิด ย้อนไปเมื่อในอดีต… ตอนนั้นมารดาของแทนไทเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง มีแทนไทเป็นลูกติดมาด้วยหนึ่งคน ก่อนจะมาแต่งงานใหม่กับสันต์ แต่สันต์ก็เลี้ยงดูแทนไทมาด้วยความรักไม่ต่างจากลูกในไส้ และแทนไทก็รักสันต์มากเช่นกัน “พ่อสันต์ตัวใหญ่จัง… ” ระรินน์นึกชื่นชมพ่อสามี… เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก แต่ก็แน่ละสิ สันต์เป็นตำรวจเก่า นี่แหละอดีตผู้การกองปราบสายบู๊ ร่างกายของเขาจึงดูเหมือนคนที่ออกกำลังกายและผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก “พ่อสันต์หิวไหมคะ… อยากได้ของว่างไหมคะ” ระรินน์ถาม แต่ก็เหมือนพูดคนเดียวเพราะว่าสันต์ไม่ตอบ แต่ระรินน์ก็ชินเสียแล้ว “ใกล้ค่ำแล้วค่ะ… เข้าบ้านกันเถอะนะคะ… ” หลังจากนั่งบีบนวดมือและแขนของสันต์มาพักใหญ่ๆ หล่อนค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมมาทางด้านหลังรถเข็นของสันต์ ค่อยๆ ใสรถวีลแชร์พาเขาเข้ามาในบ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม