“เดี๋ยวพ่อสันต์อาบน้ำนะคะ… ”
ระรินน์กล่าวพลางเหลือบมองนาฬิกาข้างฝาผนัง รู้ว่าสันต์มักจะเข้าไปอาบน้ำตอนทุ่มกว่าๆ ซึ่งเป็นเวลาประจำของเขา หล่อนจึงช่วยเตรียมผ้าขนหนูและเสื้อผ้าไว้ให้เขาในห้องน้ำ
ระรินน์ใสรถเข็นมาที่หน้าห้องน้ำ
แต่วันนี้สันต์มาแปลก…
เขาไม่ยอมขยับเขยื้อน ต่างไปจากทุกวันที่เขาจะเกาะขอบประตูพยุงกายลุกขึ้นจากรถเข็นแล้วก้าวเข้าไปอาบน้ำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ยากลำบาก
“พ่อสันต์จ๋า… ทำไมไม่ลุกขึ้นล่ะจ้ะ… ”
ระรินน์รู้สึกแปลกใจ
“หรือว่าวันนี้พ่อสันต์อยากให้หนูช่วยอาบน้ำให้… ”
ระรินน์ลองถาม…
สันต์ค่อยๆ จ้องมองตาหล่อน แม้ไม่ได้พยักหน้าแต่ระรินน์ก็อ่านความหมายของสายตาได้ จึงรู้ว่าสันต์อยากให้หล่อนอาบน้ำให้เขา
น่าแปลกที่ระรินน์รู้สึกว่าหล่อนอ่านความคิดของเขาได้ แม้บางครั้งสันต์จะไม่พูด แต่หล่อนก็รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกทางสายตาที่ส่งมาถึงกัน
“ถ้างั้นวันนี้หนูขออนุญาตอาบน้ำให้พ่อสันต์นะจ๊ะ… ”
ระรินน์กล่าวพร้อมกับพยุงร่างสูงใหญ่ของสันต์ลุกขึ้นจากรถเข็นช้าๆ
สันต์ไม่ขัดขืน…
แขนข้างหนึ่งของเขากางออกพร้อมกับเอื้อมมือโอบรอบลำคอของระรินน์ ค่อยๆ หยัดร่างลุกขึ้นจากรถเข็น ก้าวช้าๆ ตามหญิงสาวเข้ามาในห้องน้ำอย่างว่าง่าย
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องน้ำด้วยกันสองต่อสอง ตอนนี้คนที่เกิดอาการใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างประหลาดกลับกลายเป็นระรินน์
‘บ้าจริง… ทำไมต้องตื่นเต้น’
ระรินน์ตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ทั้งที่รู้ดีว่าเพราะอะไรที่ทำให้รู้สึกใจเต้นแรงอยู่ในตอนนี้
หล่อนจ้องมองดูสันต์กำลังทรุดร่างกำยำลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกสีขาว เก้าอี้แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของผู้ชายตัวใหญ่มากและสูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรอย่างสันต์
“หนูขออนุญาตถอดเสื้อผ้าให้นะคะ… ”
ระรินน์ค่อยๆ เอามือเลิกชายเสื้อยืดสีขาวบางๆ ขึ้นมาถึงอกนูนแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ
สันต์ค่อยๆ ยกแขนสองข้างขึ้นช้าๆ ยอมให้หญิงสาวถอดเสื้อออกไปทางศีรษะอย่างว่าง่าย
ผิวสีน้ำตาลเข้มยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้ดูคมคร้ามสมชายชาตรี ระรินน์จ้องมองแผงอกกว้างของเขา แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ มีเส้นขนสีดำเป็นแพแผ่กระจายปกคลุมไปทั่ว
ที่บริเวณท้องยังแน่นไปด้วยลอนกล้ามอย่างคนที่เคยออกกำลังกายมาอย่างหนัก ทำให้รูปร่างของสันต์ในวันนี้ยังดูดีอย่างเหลือเชื่อ
“ต้องถอดกางเกงด้วยนะคะ… ”
ถึงวินาทีสำคัญ…
ตรงนี้แหละที่เป็นเหตุทำให้ระรินน์ใจเต้นแรง มือก็เริ่มสั่น หล่อนค่อยๆ เอามือปลดปมกางเกงแพรสีน้ำตาลที่ผูกกันไว้หลวมๆ ใต้ละดือ ค่อยๆ รูดกางเกงออกไปจากปลายเท้า
และภาพของอาวุธประจำกายของสันต์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ถึงกับทำให้ระรินน์ตะลึง
หล่อนจ้องมองน้องชายของสันต์ด้วยความลืมตัว จู่ๆ ก็เกิดอาการเสียววาบเข้ามาในช่องท้อง
แม้ว่ามันอยู่ในสภาพอ่อนตัว แต่ก็ยังดูยาวใหญ่มากจนต้องมองแล้วมองอีก
ระรินน์อดคิดไม่ได้ว่าถ้าสิ่งที่กำลังทำเอาใจเต้นอยู่ตรงหน้านี้แข็งตัวขึ้นมาเต็มที่ มันคงมีขนาดยาวใหญ่พอๆ กับท่อนแขนของหล่อน
“ขออนุญาตนะคะ… ”
ระรินน์สูดหายใจแรง…
รู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบ พยายามจะไม่มองตรงนั้น หล่อนค่อยๆ เอื้อมมือคว้าฝักบัวสีเงินวาวเหนือศีรษะของเขา มืออีกข้างเอื้อมเปิดก๊อกให้สายน้ำเย็นเยียบพร่างลงมากระทบร่างกำยำของสันต์
“หนาวไหมคะ… ”
ระรินน์ถาม…
แต่ก็เหมือนกับว่าพูดคนเดียว เพราะว่าสันต์ยังคงนิ่ง ไม่ตอบ สีหน้าและแววตาของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากรูปปั้นไร้อารมณ์ความรู้สึก
ใบหน้าของสันต์ยังคงนิ่งราวกับประติมากรรมเทพบุตรกรีกสุดหล่อเหลา ไม่สะทกสะท้านต่อสายน้ำเย็นเยียบ พร่างพรมลงมาอาบทั่วร่าง แต่ระรินน์ไม่เชื่อว่าเขาจะไร้ความรู้สึก
ครู่สั้นๆ ต่อมา…
ระรินน์บีบสบู่เหลว ค่อยๆ ไล้ลูบฟองสีขาวไปทั่วเรือนร่างกำยำกล้ามของพ่อสามี
“เอ่อ… ร่างกายของพ่อสันต์ไม่มีความรู้สึกเลยหรือคะ… ”
ระรินน์ไม่เชื่อว่าเขาจะไร้ความรู้สึก…
เพราะเท่าที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสองสัปดาห์กว่า หล่อนก็เห็นว่าอาการของสันต์นั้นไม่ได้แย่มากถึงกับไร้ความรู้สึก
“พ่อสันต์ไม่พูดกับหนู… แล้วหนูจะรู้ได้ยังไงคะว่าพ่อสันต์รู้สึกยังไงบ้าง… ”
หล่อนลองไล้ลูบฟองสบู่สีขาวมาที่อกของเขาที่เต็มไปด้วยเส้นขนสีดำสุดเซ็กซี่เป็นแพปกคลุมไปทั่ว
กระทั่งถึงตอนที่มือของหล่อนไล้ลูบมาที่หัวนม ตอนนี้เองระรินน์จึงจับความรู้สึกได้ว่าสันต์ไม่ใช่คนที่ไร้อารมณ์
เพราะว่าหล่อนรู้สึกได้ว่ารูขุมขนรอบๆ หัวนมของเขามีการขยายตัว เช่นเดียวกับปลายหัวนมที่กำลังตื่นตัวแข็งขึ้นมาจนมีขนาดเท่าเม็ดถั่วลิสง เสียดสีกับอุ้งมือน้อยๆ ของหล่อน
“รู้สึกอะไรบ้างไหมคะพ่อสันต์… ”
ระรินน์ถามขณะคลึงฝ่ามือไปมากับหัวนมของเขา แต่เมื่อเห็นว่าสันต์เงียบหล่อนก็นึกอยากแกล้ง
“หนูขออนุญาตนะคะ… พ่อสันต์อย่าว่าทะลึ่งเลนนะคะ หนูอยากทดสอบ แค่อยากจะรู้ว่าพ่อสันต์ยังมีความรู้สึกอยู่บ้างไหม… ”
บ้าจริง…
ระรินน์นึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ที่เผลอใจทำกำลังจะทำสิ่งน่าอายเช่นนี้
หล่อนเอื้อมมือเข้ามาที่ง่ามขาของสันต์ ค่อยๆ ลูบไล้ลำเอ็นขนาดใกล้เคียงกับกล้วยหอมใหญ่ๆ ห้อยลงมากลางหว่างขา
‘ใหญ่มาก… ’