@หมู่บ้านคุยใหญ่
หลังทานอาหารเสร็จทศวรรษมาส่งพริกหวานที่บ้าน แต่จอดห่างออกไปถึงสามสิบเมตรเพราะตัวของพริกหวานเป็นฝ่ายบอกเอง
ก่อนลงจากรถคนตัวเล็กโน้มไปหอมแก้มสากของอา ก่อนจะโอบกอดเอวสอบแล้วเอาหน้าซุกลงกับอกอุ่นๆ แผงอกของอาทศแน่นมาก!
"รักอาทศจังค่ะ"
ยิ้มหวานอย่างมีความสุข
"แล้วอาทศล่ะคะ รักพริกไหม"
เงยหน้าขึ้นถามเขาอ้อนๆ ทศวรรษก็มองลง
"รักพริกไหมคะ"
"ครับ อาก็เอ็นดูพริกเป็นปกติอยู่แล้ว"
พริกหวานหน้าบึ้ง ก่อนจะค่อยๆ ยืดตัวกลับนั่งที่ตัวเองดีๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ พริกเข้าใจว่าอายังลืมเมียเก่าไม่ได้"
เอ่ยจบรีบเปิดประตูลงจากรถไป ทศวรรษเรียกเอาไว้ไม่ทัน
มองตามหลังคนตัวเล็กเดินเร็วเพื่อไปให้ถึงบ้าน ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเครียดๆ
เขายังลบภาพที่ว่าพริกหวานคือหลานของเขาไม่ได้ถึงจะรับปากเธอไปแล้วว่าจะเอาเธอทำเมีย แต่นั่นมันเป็นเรื่องของอนาคต
หากพริกหวานอยากได้ยินคำว่ารักที่ออกมาจากความรู้สึกก็ต้องให้เวลาเขา หากพูดออกไปส่งๆ ก็ไม่ต่างจากโกหกเธอ ต้องการแบบนั้นจริงๆ เหรอ
หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหาเบอร์ที่เธอเป็นฝ่ายโทรเข้ามา ขึ้นสัญญาณโทรติดสองครั้ง ทว่าก็ถูกตัดสายไปในที่สุด
ครั้งที่สามโทรไม่ติดแล้ว เข้าใจว่าพริกหวานคงปิดเครื่องหนีเขา เขาจึงเลือกส่งข้อความแทน อย่างน้อยหากเธอเปิดมือถือคงได้เห็น ไม่พร้อมคุยไม่เป็นไร
"อาขอโทษครับ ให้เวลาอาหน่อย"
ส่งข้อความไปแล้วจึงกดเข้าแอปพลิเคชันหนึ่ง โอนเงินไปหาพริกหวานเพื่อไถ่โทษกับความผิดในครั้งนี้
จากนั้นขับรถกลับบ้าน บ้านเขากับพริกหวานอยู่ไม่ไกลกันเพราะเราอยู่หมู่สิบสองเหมือนกัน
บ้านเขาอยู่ห่างจากตัวอำเภอสามร้อยเมตร หรือจะบอกว่าอยู่ในตัวอำเภอก็ได้เพราะใกล้นิดเดียว
ไปถึงก็เห็นผู้หญิงสองคนมายืนด้อมๆ มองๆ อยู่ที่หน้าประตูรั้ว มองกลับมาทางนี้พอดี
เทียบรถจอดที่หน้าบ้าน ลักษณะเป็นบ้านสวนทรงไทยอยู่ในบริเวณพื้นที่มากถึงห้าไร่ เขาชื่นชอบบ้านไม้เป็นทุนเดิมจึงให้ช่างมาออกแบบแล้วสร้างขึ้นมาในแปรงที่ดินที่เขาซื้อ
ลงจากรถทั้งสองคนก็ยกมือไหว้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกบ้านของเขาเอง เขาจึงรับไหว้กลับ
"หวัดดีค่ะผู้ใหญ่ทศ นิ่มพานังนิดมันมาไหว้ค่ะ"
ทศวรรษมองไปยังคนที่ถูกแนะนำว่าชื่อ'นิด'ก่อนจะพยักหน้าออกมา
"มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ"
ถามคนที่อายุน้อยกว่าเขาทั้งคู่ คนแม่น่าจะสี่สิบ ส่วนคนลูกน่าจะรุ่นพริกหวานไม่ก็รุ่นน้องลงไป
"พูดสิ"
คนเป็นแม่ดันหลังลูกสาวให้เข้าหาอีกฝ่าย นิดทั้งอายและประหม่าอยู่ในตัว
"พะ..พอดีนิดทำขนมหวานก็เลยแบ่งมาให้ผู้ใหญ่ชิมค่ะ"
เอ่ยพร้อมยื่นถุงขนมที่มีกว่าสามอย่างด้วยมือสั่นๆ ตะโก้เผือก ขนมต้มดอกอัญชัน และวุ้นใบเตยมะพร้าวน้ำหอมให้ไป
"ขอบคุณครับ"
ทศวรรษรับมา ก่อนจะเปิดมันออกดู ขนมทุกอย่างถูกจัดเรียงวางในกล่องมาอย่างสวยงามน่าทาน
"มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ"
ถามย้ำอีกที เขาเป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่มาแล้วกี่ปีมันรู้ แขกไปใครมาหากแวะมาหาอาจมีเรื่องให้ช่วย เยี่ยมส่วนเยี่ยม ต้องการความช่วยเหลือก็อีกส่วน
"ไม่เชิงหรอกค่ะ"
"งั้นเข้าไปคุยกันในบ้านนะครับ"
ทศวรรษเปิดประตูรั้วไม้แบบบานเลื่อนออก ขับรถเข้าไปจอดใต้ต้นมะขามร่มรื่น บริเวณพื้นที่รอบๆ เขาปลูกพืชผลที่กินได้หลายชนิด มะนาว มะละกอ ผักยืนต้นต่างๆ
บางทีลูกบ้านก็แวะมาขอบ้าง เขาไม่ได้หวงเพราะคนกันเอง ทำเสร็จก็มีแบ่งมาให้ทาน บ้านเขาต้อนรับแขกแทบจะทุกวันอยู่แล้ว
ทศวรรษดับเครื่องยนต์ลงแล้วเดินไปหา ผายมือให้ลูกบ้านนั่งรอตรงโต๊ะไม้ตัวยาว มีเก้าอี้ประมาณสิบตัวเอาไว้ต้อนรับแขกและคุยงานทั่วไป
แต่หากต้องได้ว่าความลูกบ้านเมื่อไหร่ ต้องไปยืมเก้าอี้พลาสติกที่วัดเพราะคนมาเยอะมาก
เขาไปเอาน้ำออกมาเสิร์ฟ สองแม่ลูกก็รีบเอ่ยขอบคุณทันทีอย่างเกรงใจ
ทศวรรษนั่งตรงหัวโต๊ะแล้วมองหน้าทั้งสอง
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับว่ามาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจครับ"
เขาเป็นพ่อผู้ใหญ่ของชาวบ้านหมู่สิบสอง เดือดร้อนอะไรก็ขอให้บอกมาเถอะเขายินดีช่วยอย่างเต็มที่ ให้สมกับที่ลูกบ้านไว้ใจเลือกเขามารับใช้พี่น้อง
"ไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายหรอกค่ะพ่อผู้ใหญ่ นิ่มแค่.."
วางมือลงบนไหล่ของลูกสาวที่นั่งใกล้ผู้ใหญ่ทศ
"นิ่มพานังนิดมันมาฝากเนื้อฝากตัวค่ะ หากมีอะไรให้มันช่วยก็บอกได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ เรียกมันมาใช้งานได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยค่ะ"
พูดแค่นี้อีกฝ่ายคงรู้เพราะเขาก็ไม่เด็กแล้วนะ เพราะได้ยินว่าพ่อผู้ใหญ่บ้านพวกเธอหย่าเมียแล้ว จะมีอะไรล่ะถ้าไม่ใช่ฝากให้ผู้ใหญ่ทศช่วยพิจารณาลูกสาว
ว่าก็ว่าเถอะ ถึงอีกฝ่ายจะอายุมากแล้วก็จริง แต่นั่นมันเป็นเพียงตัวเลข เพราะภายนอกของผู้ใหญ่ทศดูดี๊ดูดี ไม่เหมือนคนวัยห้าสิบเลยสักนิด
อีกอย่างเป็นตั้งพ่อผู้ใหญ่ของคนในหมู่นี้ ฐานะทางบ้านก็ดี เท่าที่รู้ๆ มานอกจากเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วยังมีอสังหาให้เช่าอีกเยอะแยะ
หากลูกสาวของเธอได้มาเป็นเมียคงสุขสบายไปทั้งชาติ ถึงได้รีบพามาก่อนที่บ้านหลังอื่นจะมาเยี่ยมหายังไงล่ะ
ทศวรรษคิดตาม สักพักจึงพยักหน้าออกมา ทำเอาฝ่ายนั้นที่รอว่าผู้ใหญ่ทศจะพูดอะไรฉีกยิ้มกว้าง สะกิดแขนลูกสาว
นิดรีบล้วงเอาเบอร์โทรตัวเองที่เตรียมมาไว้ออกจากกระเป๋าสะพายวางลงตรงหน้าผู้ใหญ่ทศ
"เบอร์โทรนิดค่ะ หากผู้ใหญ่อยากให้นิดช่วยอะไรโทรมาได้เลยนะคะ"
ทศวรรษพยักหน้าแล้วหยิบมันมา พอสองแม่ลูกเห็นฝ่ายนั้นไม่คุยอะไรเพิ่มจึงสะกิดลูกสาว
"งั้นเราสองคนขอตัวกลับก่อนนะคะผู้ใหญ่ทศ"
"ครับ"
ทศวรรษลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปส่งสองแม่ลูกถึงหน้าประตูรั้ว ทั้งคู่ก็เดินกลับบ้านไป
มองเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับ เขาเองก็โตแล้วมันรู้จุดประสงค์ของสองแม่ลูก
แม่ของนิดตั้งใจจะฝากลูกสาวให้เขาพิจารณาทำเมีย หลายคนในหมู่บ้านต่างรู้ว่าเขาเป็นโสดหย่าเมียเรียบร้อย
แต่ไม่คิดหน่อยหรือไง เขาก็อายุปูนนี้แล้วนะ ใจคอจะให้เขาเอาคนรุ่นลูกทำเมียจริงๆ หรือไง
ขยำกระดาษแล้วโยนทิ้งลงถังขยะไปกำลังจะเดินเข้าบ้าน ทว่าสายตากลับเห็นใครบางคนกำลังมองมาทางนี้
"พริก"