ตอนที่ 7 บริหารเอวไม่มีพัก

1814 คำ
หลังกินข้าวอิ่ม บุหรี่ในซองถูกเคาะออกมามวนนึงก่อนจะใช้ปากคาบ แต่พอนึกอะไรบางอย่างได้ทศวรรษกลับดึงมันออกแล้วโยนทิ้งลงถังขยะทั้งซอง เดินไปหาน้ำหวานในตู้เย็นออกมาดื่ม แล้วเข้าไปหาพริกหวานในห้อง ก็เห็นอีกคนนอนดูทีวี "อาทศมานอนกับพริกค่ะ" มือเรียวอ้าออกให้อีกฝ่ายเดินมาหา ทว่าทศวรรษกลับส่ายหัว แต่พอเห็นพริกหวานหน้าบึ้งจึงเดินไปนั่งลงด้านหน้า พริกหวานก็เอาแขนตวัดรัดรอบเอวเขามาทันที "โซฟาตัวนิดเดียวจะให้อานอนยังไง" "อาก็ขึ้นมาคร่อมพริกสิคะ" คร่อมไปคร่อมมาอาทศต้องอยากเสียบเธอบ้างแหละ จากนั้นก็...เริ่มบรรเลงบทรักกันต่อเลย อิอิ ทศวรรษมองคนที่พูดจาสองแง่สองง่ามก่อนจะส่ายหัวออกมา แต่ละคำที่พ่นออกมาก็คือทะลึ่งตึงตังทั้งนั้น พริกหวานย้ายศีรษะมาด้านหน้าแล้วยกขึ้นหนุนขาแกร่งแทน ทศวรรษจึงเขยิบเอาแผ่นหลังพิงพนักโซฟา แขนแกร่งถูกสองมือเรียวจับให้โอบช่วงไหล่ของเธอเอาไว้ ขณะที่พริกหวานก็นอนดูทีวีไป สิ่งที่ทำให้เจ้าของบ้านสนใจมากกว่าทีวีก็คือขาขาวๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นสีดำยาวสองคืบ ดูแต่งตัวมาบ้านผู้ชาย เอื้อมมือไปหยิบเสื้อแขนยาวมาคลุมให้ พริกหวานเงยหน้าขึ้นมอง "ทำไมคะ ถ้าอาทศหิวก็ทำได้นะคะ" ทศวรรษส่ายหัว "เพิ่งกินข้าวอิ่มเดี๋ยวจุก" "งั้นเราย่อยแล้วทำกันเลยนะคะ" "ทำไมถึงมีแต่เรื่องพวกนี้ในหัวนะ" มือหนานวดลงตรงขมับของพริกหวาน พอลงน้ำหนักนานๆ หญิงสาวร้องโอดโอยออกมา "อื้อเจ็บนะคะ!" ก่อนจะกัดมือเขากลับไปเพื่อทำโทษ ทศวรรษนิ่วหน้า ทว่ายอมทนให้พริกหวานทำตามอำเภอใจ พอขึ้นรอยแดงมือเรียวกลับลูบไล้แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา "เจ็บไหมคะ" "โดนกัดก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว" "แล้วทำไมอาไม่บอกให้พริกหยุดคะ" "ถ้าพริกไม่อยากให้อาเจ็บตัวพริกจะไม่ทำตั้งแต่แรก" หญิงสาวรู้สึกผิด คำพูดคำจาของคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็แบบนี้สินะ ไม่ได้ตำหนิ แต่สอนให้เธอรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ แทนที่จะดุแต่กลับใช้คำพูดที่ดูซอฟต์ลง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็รับรู้ว่าตัวเองทำผิดอยู่ดี "จะกลับตอนไหนเหรอโอ๊ย!" คราวนี้คนโดนกัดเข้ามาแรงกว่ารอบแรกเผลอร้องเสียงหลงออกมา "กัดอาทำไมพริก!" "ก็ใครให้ถามแบบนี้คะ อาทศกำลังไล่พริกอยู่รู้ตัวไหม" กำลังรู้สึกผิดอยู่แท้ๆ แต่อีพริกหวานไม่อยากเห็นใจอาทศแล้ว อยู่ดีๆ มาไล่เธอกลับบ้านได้ยังไง "หายจากบ้านมานานพ่อแม่เราจะถามหาเอาได้ แล้วยิ่งพริกมาอยู่ที่บ้านของอานานๆ เกิดมีใครมาเจอเข้าจะว่ายังไง" "ช่างหัวมันค่ะ" "พูดไม่เพราะ" พริกหวานลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วแล้วนั่งคร่อมตักแกร่งพร้อมกัดปากตัวเองเซ็กซี่ มองใบหน้าคมคายอย่างมีเลศนัย สองแขนโอบรัดรอบคอของเขาเอาไว้แล้วดึงตัวเองเข้าใกล้ "ลงโทษพริกเลยไหมคะ" "เรื่องอะไรครับ" "เรื่องที่พริกพูดไม่เพราะไงคะ ต่อไปหากพริกพูดอะไรที่ไม่เข้าหูอา อาก็ลงโทษพริกได้เลยนะคะ กระแทกมาแรงๆ ได้เลยค่ะ" สะโพกสวยบดคลึงเจ้าลูกชายของอาทศให้เขารู้ว่าเธอหมายถึงที่ตรงไหนที่เขาสามารถลงโทษเธอได้ เอาให้เธอเดินขาถ่าง หรือนอนโรงพยาบาลสักสามวันเจ็ดวันไปเลยเป็นไง อยากรู้ว่าอาทศน่ะไหวไหม ถ้าไหวก็ทำมาเธอพร้อมรับมือ สัญญาจะไม่โทษอาทศสักนิดเลย "ไม่ล่ะ พริกไม่ได้พูดอะไรผิดขนาดนั้น" ทศวรรษจับสะโพกสวยให้หยุดขยับ พยายามจะยกอีกคนลงแต่พริกหวานกลับติดหนึบ "ถ้าไม่อยากลงโทษก็กินพริกหน่อยสิคะ พริกอยากให้อากินค่ะ" ทศวรรษส่ายหัว "อายังไม่หิว" "งั้นให้พริกกินลูกชายอาทศหน่อยนะคะพริกหิว" ดันตัวเขาให้เอนหลังไปแล้วเลิกเสื้อยืดสีขาวของเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว โน้มใบหน้าลงไปตวัดเลียยอดอกสีชมพูจนมันแข็งเป็นไต ฮื่อออ อาทศเป็นคนผิวสองสีแต่กลับมียอดอกสีชมพูเฉย แล้วด้านล่างล่ะ จะชมพูด้วยมั้ย อ๊ายยยย!!! ต้องชมพูแน่ๆ "พะ..พริก!" ทศวรรษบีบระบายความเสียวซ่านไปกับสะโพกอวบ พอพริกหวานดูดดุนเขาหลับตาพริ้มลง กัดฟันตัวเองจนเส้นเลือดปูดขึ้นตามขมับ อาวุธคู่กายด้านล่างเริ่มขยายเหยียดยาว พริกหวานรับรู้ได้ว่าอาทศของเธอเครื่องติดแล้ว มือเรียวข้างหนึ่งปล่อยจากเสื้อมาป้วนเปี้ยนตรงกระดุมกางเกงก่อนจะรูดซิปลงช้าๆ มือล้วงเข้าใต้กางเกงชั้นในสีขาวสัมผัสได้ถึงเส้นขนนุ่ม 'ผู้ใหญ่ทศ!' ทศวรรษลืมตาพรึบขึ้น อุ้มพริกหวานลงไปนั่งที่โซฟาอย่างรวดเร็วแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป ก็เจอลูกบ้านตัวเองมาด้วยอาการตื่นตระหนก "มีอะไรเขียว!" ถามคนอายุน้อยกว่าเขาครึ่งนึง แถมยังเป็นหูเป็นตาช่วยเขาด้วย "ไอ้แจ๊สมันอาละวาดครับ" "ไปๆ!" "เดี๋ยวครับ!" "ว่า" "รูดซิปก่อนไหมครับพ่อผู้ใหญ่" เขียวเกาหัวตัวเองยิกๆ แหม..เป้าตุงมาเชียว ทศวรรษมองลงที่กางเกงของตัวเองทันที ก่อนจะรีบรูดซิปกลับขึ้นพร้อมติดกระดุมกางเกงเข้า พริกหวานนะพริกหวาน ทำเรื่องขายหน้าให้เขาแล้ว! "ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะครับพ่อผู้ใหญ่ แต่มันจำเป็นจริงๆ ครับ" ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าผู้ใหญ่ทศที่เพิ่งหย่าเมียได้ไม่ถึงอาทิตย์กลับหาของแซ่บมากินต่อซะแล้ว แหม..พ่อผู้ใหญ่บ้านหมู่สิบสองของเรานี่ก็แซ่บไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย เลขห้าแล้วแต่ยังบริหารเอวไม่มีพัก อิอิ "ไปๆ" ทศวรรษพยายามไม่สนใจคำแซวทั้งที่หน้าแดงไปแล้ว แต่เขาไม่มีเวลามาอายเพราะชีวิตลูกบ้านสำคัญกว่า พอมาถึงบ้านที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากข้างบนบ้าน และตัวต้นเหตุกำลังจับข้าวของที่มีอยู่โยนลงมาด้านล่าง ส่วนผู้เป็นเมียถูกชาวบ้านกันตัวออกมา นั่งกอดลูกน้อยร้องไห้ "เกิดอะไรขึ้นละไม" คนเป็นเมียไม่พูด เอาแต่สะอื้นไห้มองผัว "เกิดอะไรขึ้นเขียว" "ไอ้แจ๊สมันเมายาครับ" "แจ้งตำรวจหรือยัง" "เมียมันไม่ให้แจ้งครับ" "ทำไมล่ะละไม" ผู้ใหญ่ทศมองลงที่เมียของแจ๊สอย่างไม่เข้าใจ ผัวเมายาอาละวาดหนักขนาดนี้ทำไมยังไม่แจ้งตำรวจอีก หรือต้องรอให้มันฆ่าตายก่อน "ถ้าพี่แจ๊สเข้าคุกแล้วใครจะหาเลี้ยงเราสองแม่ลูกคะ" ถึงผัวเธอจะเสพยา แต่เขาก็หาเลี้ยงครอบครัว มีนานๆ ครั้งที่คลุ้มคลั่ง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายครอบครัว มีแต่ลงมือกับข้าวของเครื่องใช้ "แต่ปล่อยเอาไว้แบบนี้สักวันหนึ่งเราจะโดนเองนะ ไม่แน่ชาวบ้านแถวนี้ก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย" "อย่าเลยค่ะพ่อผู้ใหญ่ ละไมขอล่ะ ไม่งั้นเราสองแม่ลูกจะเอาเงินที่ไหนกินที่ไหนใช้คะ" เธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เดือนเดียวมันไม่สามารถไปทำงานที่ไหนได้ ก็ต้องอาศัยผัวหาเลี้ยง ผู้ใหญ่ทศหมดความจะพูด คนที่เป็นเสาหลักของบ้านดันมาติดยา "ติดขัดเรื่องเงินใช่ไหม" ละไมพยักหน้า "เดี๋ยวฉันดูแลเอง เขียวโทรแจ้งตำรวจ ถ้ามันไม่หายไม่ต้องให้ตำรวจปล่อยมันออกมานะ" "ครับพ่อผู้ใหญ่" เขียวรีบโทรแจ้งตำรวจทันที ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาทีตำรวจมากันหนึ่งคันรถ พร้อมเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้จนสำเร็จเพราะแจ๊สไม่ได้มีอาวุธทำร้ายใคร ทำให้ลูกบ้านที่มามุงต่างพากันทยอยกลับบ้าน เหลือเพียงละไม ผู้ใหญ่ทศ เขียว และลูกบ้านคนอื่นที่เป็นผู้ชายอีกสี่คน "ไอ้แจ๊สมันหาให้ใช้วันละเท่าไหร่" เปิดประเด็นถามเลย อะไรแก้ได้ตอนนี้แก้ไขไปก่อน "วันละร้อยค่ะ" "ฉันให้เดือนละหมื่น" ผู้ใหญ่ทศควักเงินออกจากในกระเป๋ากางเกงออกมานับ เป็นเงินสดส่วนหนึ่งที่กดไปเที่ยวร้านคาราโอเกะเมื่อคืนเอายื่นให้ละไมไป ฝ่ายนั้นรีบไหว้พร้อมรับเงินด้วยสองมือก่อนจะปาดน้ำตา "ขอบคุณพ่อผู้ใหญ่มากเลยนะคะ บุญคุณครั้งนี้ละไมจะไม่มีวันลืมเลยค่ะ" ทศวรรษพยักหน้า "ทุกวันที่หนึ่งไปหาฉันที่บ้านนะ บางทีฉันอาจลืม ไม่ต้องเกรงใจ" วางมือบนบ่าลูกบ้านให้สบายใจในเรื่องนี้ "ส่วนไอ้แจ๊ส ให้มันหายดีก่อนค่อยให้มันกลับมา เดี๋ยวฉันตามเรื่องเอง แต่ถ้ามันออกมาแล้วทำเหมือนเดิมอีกฉันก็จำเป็นต้องให้ตำรวจมาลากมันไปอีก ละไมเข้าใจด้วย เพราะไม่ใช่แค่ละไมกับลูก ชาวบ้านคนอื่นๆ เขาก็กลัว" "ค่ะพ่อผู้ใหญ่ ละไมเข้าใจค่ะ ขอบคุณพ่อผู้ใหญ่มากๆ นะคะ" ทศวรรษพยักหน้าก่อนจะวางมือลงบนศีรษะเด็กน้อยที่เพิ่งคลอดแล้วนึกเวทนา แต่ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้เดี๋ยวมันกระทบใจเปล่าๆ ใครเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ในเมื่อละไมปล่อยให้ตัวเองท้องทั้งที่ครอบครัวลำบากก็ต้องดูแลลูกและตัวเองไป ส่วนเขาช่วยได้เท่าที่ช่วย หันไปบอกเขียวและลูกบ้านคนอื่นๆ ช่วยเก็บของของละไมกลับขึ้นบนบ้าน พอไม่มีอะไรแล้วผู้ใหญ่ทศจึงเดินกลับบ้าน คุยอะไรกับเขียวมาตลอดทาง ก่อนแยกกันควักตังค์ให้เขียวไปพันนึงสำหรับค่าเป็นหูเป็นตาช่วย และอีกสองพันให้คนที่ช่วยขนของขึ้นบ้านของละไมเอาไปแบ่งกัน "ฝากไปให้คนที่เหลือด้วยเขียว" "ครับพ่อผู้ใหญ่ แล้วนี่จะกลับไปกินของแซ่บต่อเลยไหมครับ" ".." "อะ..อ๋อ..กินไม่กินก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เนอะ ผมไปแล้วครับ" เขียวรีบวิ่งกลับหลังทันทีไม่งั้นเดี๋ยวโดนถีบมา ทศวรรษเดินเข้าบ้าน ตรงไปยังห้องพักผ่อนด้านล่างที่เขาเพิ่งออกมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก็เจอพริกหวานนั่งหน้าบึ้งมองมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม