ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนตอนที่รอยกับชานส์ยังเป็นแค่เด็ก รอยในตอนนั้นเป็นเพียงเด็กชายที่โดนพ่อตัวเองเกลียด เขาไม่เคยได้ความรักจากพ่อแท้ ๆ ตลอดสิบกว่าปี ตอนเขาอายุได้สามขวบ โดโนเดลขอหย่ากับแม่เขาเหตุผลเดียวที่พ่อเขายอมแต่งกับแม่เพราะพวกผู้ใหญ่ต้องการให้พ่อแต่งกับผู้หญิงที่ดีพร้อมอย่างวิกตอเรียก็คือแม่รอย ในช่วงที่ทั้งสามอยู่ด้วยกันโดโนเดลได้แอบมีความสัมพันธ์กับแม่ของชานส์ แน่นอนหลังจากหล่อนได้ให้กำเนิดชานส์ โดโนเดลขอหย่ากับวิกเตอร์เรียเหตุเพราะเขามีลูกกับหญิงที่เขาต้องการ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้น แต่ด้วยโดโนเดลเป็นพ่อแท้ ๆ ของรอยเขาจำต้องส่งเสียให้รอยเรียนจนจบ วันที่พ่อเขามาหาเขากับแม่ที่บ้านหลังเก่าเขาได้พาชานส์มาด้วย นั้นเป็นครั้งแรกที่รอยได้เจอน้องชายต่างแม่
จากนั้นชานส์มักจะแอบมาเล่นกับรอยเป็นประจำ ไม่ว่าจะเวลาไหนชานส์จะตัวติดกับรอยเสมอ รอยยิ้มของเด็กน้อยทำให้รอยเห็นว่าอย่างน้อยครอบครัวเน่าเฟะยังมีแสงสว่างอยู่กับเขา
วันเวลาผ่านไปพวกเขาโตขึ้นสิ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจในตัวทั้งสองคน ใบหน้าที่เหมือนกันอย่างกับแกะแต่ทั้งคู่ไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกัน นั้นทำให้รัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้ ทั้งอยู่ในเครือข่าย 'พันธุกรรม' มันน่าเหลือเชื่อที่พี่น้องคนแม่แต่มีใบหน้าที่เหมือนกัน นรกก็มาเยือน...โดโนเดลใช้โอกาสนี้ใช้เงินฟาดหัวรัฐบาลว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีอยู่จริงเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเพราะคนสองคนหน้าคล้ายกันเท่านั้น เขาขอให้รัฐบาลลบตัวตนของรอยทิ้งบุคคลเดียวที่ควรอยู่บนโลกมีได้แค่ชานส์เท่านั้น ไม่แค่นั้นพ่อเขาตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ด้วย และทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์
รอยเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาทำร้ายร่างกายคนที่ทำงานให้พ่อเขา โดนจับเข้าคุกหลายครั้งหลายคราจนถึงที่สุดเขาก็ฆ่าคนและฆ่ามาเรื่อย ๆ ได้ฉายา 'ฆาตกรล่องหน' เพราะเมื่อเขาลงมือฆ่าไม่มีใครเคยเห็นตัวเขา
ชานส์ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้รอยเขาถูกพ่อเขาฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานรัฐ เมื่อเขาเรียนจบได้เข้าบรรจุที่สถานนีเขตเอด้วยผลงานดีเด่นตลอดสองปีทำให้เขาได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก เขาได้รับมอบหมายให้ตามจับฆาตกรล่องหนผู้เลื่องชื่อ เขาคิดแผนการทุกอย่างแต่ผลที่ได้คือเขาเสียเจ้าหน้าที่ฝีมือดีไปยี่สิบกว่าคนภายในหนึ่งเดือน ดังนั้นเขาอยากที่จะจับด้วยตัวเขาเอง เขาล่อฆาตกรให้ไปติดกับที่โกดังตรงท่าเรือเขตเอ ในขณะที่เขากำลังจะได้ตัวฆาตกรเขากลับไปคนที่ฆาตกรได้ตัวซะก่อนพร้อมบาดแผลที่อก แสงจันทร์สาดส่องลงมาจากช่องว่างบนหลังคาโกดัง ปรากฎใบหน้าของชายที่เหมือนตน
"รอย"
รอยมองชานส์ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เจ้าหน้าที่กำลังเสริมกำลังพังประตูโกดังเข้ามา รอยมองชานส์สลับกับประตูโกดังก่อนหนีไปทิ้งให้ชานส์ตะลึกงันกับความจริง...ที่พี่ชายต่างแม่คือฆาตกรล่องหน
ชานส์หวนนึกถึงอดีต เขาปิดหนังสือวางลงบนโต๊ะต่อให้ทำตัวให้ยุ่งมากก็ตามก็ไม่อาจหยุดคิดเรื่องนี้ได้เลยเขาเงยหน้ามองนาฬิกา
“เที่ยงคืนแล้วเหรอ” เขายืดเส้นยืดสายก่อนใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างนวดตาลุกขึ้นเดินไปห้องนอนชั้นบน
“ดับไฟ” เขาออกคำสั่งกับระบบไฟในบ้านเตรียมตัวเข้านอนแต่ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงสายตาน่ากลัวจากข้างนอกเขาลูบแขนที่ขนลุก “เปิดไฟระดับหนึ่ง”
ไฟในห้องสว่างนิดหน่อยแต่มันพอเห็นทางที่จะเดินได้ เขารีบเดินไปหยิบโทรศัพท์กดโทรหาหมายเลขของเดวิดทันที
“เจ้าหน้าที่เมอร์ริซ่าครับ”
“เดวิดนี่ผมเอง”
“ชานส์ มีอะไรเหรอ”
ชานส์เล่าเรื่องที่เขารู้สึกอยู่นะตอนนี้ให้เดวิดฟัง ปลายสายเงียบไปนาทีสองนาทีก่อนจะตอบ
“ผมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปอยู่บริเวณนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะรายงานผมทันที”
“โอเค”
“ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่”
“กำลังจะเข้านอนน่ะ แต่ก็อย่างที่พูดเมื่อกี้น่ะแหละ”
“รีบขึ้นบนห้องซะ อีกยี่สิบนาทีพวกเขาจะไปถึง”
ชานส์พยักหน้ารับเขาวางโทรศัพท์ไม่วางใจถึงจะโทรบอกเดวิดแล้วก็ตามเขาจ้องมองข้างนอก ในความมืดนั้นมีมัจจุราชซ่อนตัวอยู่หรือเปล่านะ เขาสลัดความคิดในหัวหันไปออกคำสั่งอีกครั้ง
“ปิดไฟ” ไฟดับลงเขารีบวิ่งกลับห้อง ปิดประตูบานเลื่อนไม้แล้วล็อคกลอนจังหวะนั้นเห็นแสงไฟรถตำรวจกระพริบข้างนอกก่อนหายไปเขาเดินไปดู เห็นรถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเขา ชานส์เปิดผ้าม่านไว้แบบนั้นเลิกผ้าห่มสอดตัวไปข้างใต้
“เปิดไฟระดับหนึ่ง” ภายในห้องนอนสว่างคล้ายแสงดวงอาทิตย์ที่สว่างเหมือนตอนใกล้ตกดินมันทำให้ชานส์นอนหลับเสมอ และเขาก็หลับอย่างสบายใจ...แมัจจุราชจะอยู่ในห้องก็ตาม
ฉันอยู่ในห้องนอนของน้องชายหลบซ่อนอยู่ในเงามืดตรงมุมห้อง เขานอนหลับสบายบนเตียงนุ่ม
“นานแค่ไหนกันนะที่ไม่ได้เห็นนายหลับสบายใจแบบนี้" อดไม่ได้เลยที่จะลูบผมเขาไม่ได้ จำได้เลยเมื่อตอนเด็กชานส์มักงอแงไม่ยอมนอนจะต้องเป็นฉันที่คอยกล่อมให้เด็กขี้แยคนนี้หลับทุกคืน แม่ของเขาเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่หล่อนไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้านแม้หล่อนจะรักไอแก่นั้น แต่หล่อนก็นอนกับใครมาหลายคน วันไหนที่ชานส์ร้องไห้งอแงมาหาฉันที่บ้านที่อาศัยอยู่กับแม่ฉัน 'คุณนายวิกตอเรีย' แม่ของชานส์ไม่อยู่บ้านอีกแล้ว เขาเป็นเด็กที่ต้องการพ่อแม่แต่ไม่เลยสักนิดที่สองคนนั้นจะดูแล กระทั้งสอนให้อ่านหนังสือก็เป็นฉัน สอนสิ่งมากมายต่าง ๆ นา ๆ ก็เป็นฉันเสมอมาแล้วทำไมฉันจะทวงคืนของล้ำค่าชิ้นนี้ไม่ได้
"สักวันเราจะได้อยู่ด้วยกันพอถึงตอนนั้นจะไม่มีใครแยกเราพี่น้องจากกันอีก" ฉันก้มลงจูบเลือนผมชานส์ที่มักทำทุกครั้งที่ชานส์หลับไป "ราตรีสวัสดิ์น้องชาย" ฉันมองนาฬิกาที่หัวเตียงเกือบตีหนึ่งแล้ว เหลือเวลาไม่มากเหลืออีกหลายคนที่ต้องจัดการ “เซ็งชิบ งั้นฉันไปก่อนนะ”
ฉันเดินออกประตูหลังบ้านเจ้าหนุ่มนั้น เดวิดอะไรนั้นหรือเปล่านะ เรียกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในมาดูแลชานส์ดีที่แอบจอดรถไว้ด้านหลัง ฉันเดินขึ้นรถสปอร์ตสีเงินเรื่องหลายอย่างที่เกิดขึ้นไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าเพียงแค่ฆ่ามันไม่พอคิดไปคิดมาฉันอยากชำแหละคนพวกนั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับไอแก่บ้านั้น ฉันตุบมือกับพวงมาลัยดังปึกเบาะหลังมีเสียงดังอู้อี้ ฉันหันไปมองหญิงสาวคนหนึ่งที่โดนมัดมือมัดเท้าถูกปิดตาไว้
ฉันเอียงคอมองหล่อน ลูบผมสีดำสนิทของหล่อน “ฉันชำแหละเธอก่อนดีกว่า"
ชานส์ลืมตามองรอบ ๆ ตัวก่อนมองที่นาฬิกาดิจิตอลตอนนี้เวลาแปดโมงแล้วที่สำคัญเขาไม่คิดที่อยากจะลุกด้วยเมื่อคืนนี้เขารู้สึก...ดีตั้งแต่หลับก็มีเมื่อคืนนี้แหละที่เขาหลับลึกแบบสบายใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาจำใจต้องหยิบมันมาดู
“โฮวินสันต์ครับ”
“เฮ้ชานส์นี่ฉันเองนะวันนี้จะมาทำงานป่ะเนี่ย”
“ไม่หน่ะครับ ผมอยากพักหน่อย”
“โอเคทีหลังช่วยโทรบอกหน่อยนะ อย่าหายไปเงียบ ๆ อีกเข้าใจไหม”
เขากำลังจะตอบกลับแต่...เจ้านายเขาตัดสายไปแล้ว
“เอ้าซะงั้น” ชานส์เลิกผ้าห่มออก
ชานส์โชคดีที่หัวหน้าเขาเป็นคนอารมณ์ดีแถมใจกว้างและ...โชคดีที่เขามีวันหยุดเหลือเฟือ เสียงโทรศัพท์ดังอีกรอบ
"เดวิดเหรอ" ชานส์กดรับ "ฮัลโหล"
"ชานส์คุณควรรีบเปิดโทรทัศน์ด่วนด้วย"
ชานส์รุดออกจากห้องลงข้างล่าง "เกิดอะไรขึ้น" เขากดเปิด
"เหยื่อรายใหม่"
"ข่าวล่าสุดเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาพนักงานขับรถสาธารณะคนหนึ่งพบศพหญิงสาวตามตัวเธอถูกหันเป็นชิ้น ๆ ใบหน้าเธอถูกทุบตีเละเทะ เจ้าหน้าที่ไม่พบกระเป๋าตังค์แต่เชื่อว่าเธอคือ มิสแองเจลลิส เมอร์เมียร่า แสดงสาวที่โด่งดังมีข่าวว่าหล่อนหายตัวไปเมื่อสองวันก่อนครั้งล่าสุดที่พบเธอกลับมาจากการแสดงที่เมืองโอเลนแต่ไม่ได้กลับไปที่บ้าน เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการเรียกค่าไถ่ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะยังไม่สรุปผลจนกว่าจะเจอหลักฐานที่แน่ชัดกว่านี้..."
"เดี๋ยวผมโทรกลับ" ชานส์ปิดโทรทัศน์ มิสแองเจลลิสถ้าเขาจำไม่ผิด หล่อนเป็นลูกศิษย์ของแม่เขาตอนที่หล่อนยังเป็นนักแสดงดาวดังหลังจากที่เจ้าหล่อนดังก็ทรยศความไว้ใจที่แม่มี นั้นเป็นครั้งแรกที่พ่อเขานอกใจแม่หลังแม่จับได้เธอขอหย่ากับพ่อแล้วออกจากบ้านไปเธอไม่แม้แต่จะมองพ่อด้วยซ้ำ เสียงโทรศัทพ์ดังอีกรอบแต่เป็นโทรศัพท์บ้าน
"บ้านโฮวินสันต์ครับ"
"ผมผู้อำนวยการสูงสุดโรจิน ผมโทรมารบกวนหรือเปล่า"
"ห๊ะ...เอ่อไม่ครับ"
'ผู้อำนวยเนี่ยนะโทรหา'
"โอ๊ะขอโทษด้วยคุณคงไม่คาดคิดว่าคนอย่างผมจะโทรหาว่าไหม ฮะแฮ่มเข้าเรื่องเลย...เรื่องเกี่ยวกับข่าวเมื่อเช้าหน่ะผอยากรบกวนคุณหน่อย"
"ผม...เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ผมไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนะครับ" เพราะชานส์เป็นประชาชนทั่วไปเขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่อีกแล้ว
"ผมไม่ได้โง่ ผมอ่านรายงานเกี่ยวกับตัวคุณแล้ว มันทำให้ผมประหลาดใจคุณได้รับเกรียติบัตรเจ้าหน้าที่ยอดเยี่ยมที่อายุน้อยที่สุดพร้อมความสามารถหลากหลายที่ชวนตะลึง หมายความว่าคุณมีสัญชาตญาณเป็นเลิศ ทำไมคุณไม่ใช่มันให้เกิดประโยชน์สักหน่อยล่ะ"
"คือ..."
"นี่ไม่ใช่การขอร้องคุณโฺฮวินสันต์แต่เป็นคำสั่ง ผมต้องการสมองอันน้อยนิดของคุณอย่างคุณมาช่วยคลี่คลายคดีนี่ในเมื่อรายงานนี้บอกว่าคุณเคยเจอกับฆาตกรของเราแบบตัวต่อตัว มาที่สถานนีคุณจะเข้าร่วมทีมของผู้กับกำดีน คุณจะได้ทำในสิ่งที่ค้างคาด้วยจริงไหมรีบย้ายก้นมาซะ" สายตัดไป...
'น่าต่อยปาก'
เกือบยี่สิบนาทีชานส์ไปถึงสถานนีที่เคยเป็นที่ทำงานของเขา
"ไม่น่าเชื่อว่าต้องกลับมาที่นี่อีก" เขาบ่นพึมพำก่อนเดินเข้าไป "บอกทีสิว่าจะไล่ผมกลับ"
เดวิดกับแฮร์รี่มองเขาหัวจรดเท้าทั้งคู่มองหน้ากันก่อนพยักหน้านำทางชานส์ไปห้องประชุมด้านใน
"ทำหน้าเป็นตูดลิงไปได้" เดวิดแหนบ
"มาเป็นผมดูมะ" ชานส์เล่าเรื่องเมื่อเช้าให้เพื่อนทั้งสองฟังแฮร์รี่ถึงกลับหัวเราะ
"สมกับเป็นคุณเลย ถ้าเป็นผมไม่ปฏิเสธแน่"
"นั้นคุณไม่ใช่ผมแฮร์รี่เขาคิดว่าเขาเป็นใคร เขาไม่ใช่เจ้านายผมด้วยซ้ำ!"
เดวิดพาชานส์มาหยุดที่หน้าห้องประชุม "เอาน่าคุณไม่คิดพวกผมคิด เขาเป็นเจ้านายพวกผมคุณไม่โดนแต่พวกผมเด้งแน่ เขาชินกับการออกคำสั่ง...ก็แค่นั้น"
"คำสั่งกับผีสิ"
เดวิดเปิดประตูเข้าไปภายในห้องไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยทุกอย่างยังเหมือนเดิม บรรยายกาศเดิม ๆ เสียอย่างเดียวเจ้าคนเมื่อเช้าที่โทรมา...ผู้อำนวยการโรจิน
"อ้อคุณมาแล้วช้าจริงรู้ไหมว่างานของเราไม่คืบหน้าเพราะต้องรอคุณคนเดียวเนี่ย เสียเวลา ๆ ไม่เข้าใจว่าคุณเคยถูกจ้างให้ทำงานที่นี่ได้ไง"
ทั้งห้องเงียบกริบพวกเขารอดูปฏิกิริยาของชานส์ว่าจะตอบโต้กับการดูถูกนี้ยังไง
ชานส์ยิ้มเมมปาก "นั้นก็เรื่องของคุณผมเป็นเพียงชาวบ้านที่มาช่วย คุณไม่ใช่เจ้านายผมและผมไม่ใช่ลูกน้องคุณและคุณไม่...ไม่มีสิทธิอะไรเลยที่จะมาสั่งผมให้ทำอะไรต่อมิอะไรถ้าอยากนัก" ชานส์เพยิดหน้าไปทางคนที่เหลือ "นี่ไงนั่งหัวโด่กันอยู่เนี่ยจะมาเสียเวลากับผมทำไมไม่ทราบคุณพูดเองมันสมองอย่างผมมันน้อยนิดเกินไป ถ้าไม่ว่ากันผมขอตัว" ชานส์เตรียมหันหลังกลับ
"ชานส์" ผู้กำกับดีนรั้งเข้าไว้ "เราต้องการให้คุณช่วย ช่วยจับพี่ชายคุณ..นั่งลงก่อน"
ชานส์มองเดวิด เขาพยักหน้าชานส์จึงนั่งลงทางฝั่งขวาของแฮร์รี่ติดกับผู้กำกับดีน
"ยุติคารมณ์เท่านี้ก่อนเรามีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ" เจ้าหน้าที่หญิงดูท่าอวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น "เข้าเรื่องเลย"
ผ่านไปสองชั่วโมงพวกเขาเตรียมแผนมากมายในการดักจับฆาตกรเลื่องชื่อชานส์เพียงนั่งฟังเงียบ ๆ
"คุณคิดว่าแผนพวกนี้เป็นไงพอที่จะจับเขาได้ไหม" ผู้อำนวยการมารตินจากฝ่ายสืบสวนถามชานส์ ชานส์ยอมรับชายคนนี้แทบไร้ที่ติเขาคิดรอบคอบทุกอย่างว่าจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ฆาตกรรู้ว่าพวกเขากำลังเตรียมแผนการในครั้งนี้...มันก็เท่านั้นชานส์รู้เขาเคยลองทุกอย่างแล้ว...
"อะไรทำให้พวกคุณคิดว่าจะจับเขาได้"
"อะไรเหรอ" ผู้อำนวยการโรจินชี้ที่หัวตัวเอง "สมองไงคุณโฮวินสันต์ฆาตกรมีหัวแต่เราตั้งหลายหัว มีเจ้าหน้าที่กี่นายครั้งนี้เราจับเขาได้แน่..อ้อใช่ ๆ ๆ คุณกลัวเสียหน้าใช่ไหมเพราะเมื่อแปดปีก่อนคุณเองก็วางแผนจับเจ้านั้นแต่กลับได้แผลเป็นมาแทน พวกเราไม่ทำผิดพลาดซ้ำสอง ผมจะไมยอมให้มันพลาดเหมือนเมื่อคราวของคุณหรอก ผู้อำนวยการมารตินถามความเห็นคุณไม่ใช่ให้คุณย้อน"
ชานส์ชักเหลืออด "จะหาเรื่องผมให้ได้ใช่ไหม...โอเคงั้นผมถามหน่อยแผนที่พวกคุณคิดมีเปอร์เซ็นต์แค่ไหนที่จะจับเขาได้ คำตอบไม่เลยไม่มีแผนไหนใช่ได้เลยทำไมน่ะเหรอเพราะผมเคยลองมาหมดแล้ว สิ่งที่ผมได้คือเสียเจ้าหน้าที่ในหน่วยไปหลายนายเพียงเพื่อจับคนคนเดียว คุณก็เห็นนี่ผู้กำกับดีนวันนั้นที่สวนสาธารณะรูปินคุณก็เห็นตอนที่เขายิงปืนจริงไหม ใช่ไหมเดวิดคุณก็เห็นเหมือกัน!" ชานส์มองหน้าผู้อำนวยการมารติน "ผมถามหน่อยคุณจะใช้เจ้าหน้าที่กี่นายไปจับเขา ผมเสียเจ้าหน้าที่ไปเกือบยี่สิบนายภายในเดือนเดียวตอนตามจับเขาแล้วคุณล่ะ คุณทนรับความเสียหายที่เกิดได้มากแค่ไหน...คุณรู้บ้างรึเปล่า" ชานส์ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
"ชานส์" เดวิดเรีกยเขา
"คุณมันเห็นแก่ตัวคิดจะให้ผู้บริสุทธิ์ตายกี่คนกันคุณถึงจะสบายใจ ชอบใช่ไหมให้คนอื่นมาเป็นแพะรับบาปแทนผมว่าคุณกับเจ้าฆาตกรไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เพียงแค่คุณมันเป็นไอโง่ที่หวาดกลัวจนน่าสมเพช!" ผู้อำนวยการด่าชานส์เป็นชุด
ชานส์พูดโดยไม่หันไปมอง "ผมมันอาจเป็นไอโง่ที่มัวแต่ซ่อนในหลุม แต่ไอโง่อย่างผมก็เคยต้อนเขาจนมุมมาแล้ว...สุดท้ายเป็นผมเองที่จนมุม พวกคุณบอกว่าผมฉลาดนักหนาถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมคงจับเขาได้แล้วไม่ต้องถึงมือพวกคุณหรอก" ประโยคหลังชานส์ตัดเพ้อกับตัวเขาเอง "เขาหน่ะไร้เทียมทานส่วนพวกคุณก็แค่เด็กอมมือเท่านั้นแหละ" ว่าจบชานส์เปิดประตูเดินออกไป