โยนถุงเงินลงตรงหน้าซีหยิน กดริมฝีปากกับปากบางอีกครั้งซีหยินจัดแจงอาภรณ์ให้กับหงเหวินย่อกายอ่อนหวานคว้าเอาถุงเงิน มากำไว้
“ถูกใจข้าจริงๆ ”
ซีหยินหันหลังกลับ หงเหวินกับดึงร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งปลดอาภรณ์ออกอีกหน ผลักร่างเล็กลงบนพื้น แข็งกดเอวหนาขย่มเขย่าเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซีหยินกอดรัดเล็บคมจิกลงบนแผ่นหลัง ส่งเสียงร้องครางหวานแว่วเหมือนเคย ก่อนที่หงเหวินจะถึงสวรรค์อีกครั้งติดๆ กัน
“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”
ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่
ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิว
ในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้น
บ้านเสิ่น
“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”
“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”
“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”
เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร
“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้ง
ป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ
ในขณะเดียวกัน
“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”
ร่างสูงของฟ่านหงเหวิน ยืนเหม่อมองออกนอกหน้าต่างแต่เอ่ยคำพูดเฉียบขาดจนท่านกวงจำต้องยอมจำนน
“ขอรับคุณชาย”
ตอบรับง่ายดายราวกับว่าหงเหวินคือคนที่ต้องย่ำเกรงกว่าบิดามารดาเสียอีก
“ท่านช่วยข้า ในครั้งนี้ การซื้อขายระหว่างเราเป็นท่านที่ข้ายอมให้ผูกขาดการขายชาดีของแคว้นฉีที่บ้านฟ่านขนเข้ามาที่นี่ทั้งหมด”
ท่านเกายิ้ม ประสานมือตรงหน้า
“ขอบคุณคุณชายอย่างยิ่งข้าน้อยยินดีรับใช้”
หงเหวินเอามือไพล่หลังเดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย คุ้นเคยกับการที่เป็นผู้กุมอำนาจทั้งปวง
บ้านเสิ่น
“คุณหนูเจ้าขา หญิงนางหนึ่งท่าที แปลกประหลาดราวกับคนในหอคณิกามาขอพบคุณหนูเจ้าค่ะ”
เปาหลิวลุกขึ้น ก้าวเดินยังห้องรับรองแขก
“คุณหนูเสิ่น”
ผู่หยงกล่าวทักทาย อดชื่นชมใบหน้าที่แสนจะงดงามแล้วเรือนร่างยังงดงาม ไม่แพ้กัน อกอูมอวบอิ่มดันผ้าแพรบางเบาออกมาเสียแทบจะล้นทะลัก ไล่มาถึงช่วงเอวกลับคอดกิ่ว สะโพกที่ก้มกลึง จนหญิงที่พบเห็นหญิงงามมากเช่นผู่หยงอดที่จะกลืนน้ำลายลงคอเสียไม่ได้
“ท่านน้ามีเรื่องใดกัน”
“คุณหนูอยากได้ทองสี่พันชั่งหรือไม่”ไม่อ้อมค้อม
“ท่านน้าหมายความว่าอย่างไร”
“ครั้งเดียว คืนเดียว พอเช้าก็รับทองสี่พันชั่งไปสบายๆ ไม่มีผูกมัดไม่มีเงื่อนไขอื่นใด มีใต้เท้าท่านหนึ่งต้องการตัวคุณหนู อยากเป็นคนแรกของคุณหนู ..แค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น”
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า
“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”
“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว
“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”
ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา
“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”
เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี
ลุงกวงยิ้ม บางๆ
“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”
ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วัน
เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ
“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน
”
“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงยิ้มรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ข้าจะขนของออกไปแล้ว ลุงกวงให้เวลาข้าอีกหนึ่งวัน”
“เฮ้อ เห็นแก่ว่าคุณหนูมีความมุ่งมั่นลุงให้เวลาหนึ่งวัน แล้วจะแวะมาอีกที”
ลุงกวงกลับไปแล้ว เปาหลิวนั่งนิ่งไม่ขยับกาย
“พวกเราไม่อยากย้ายออกไปคุณหนูเราขออยู่ที่นี่รับใช้คุณหนูไม่รับเงินก็ได้เราจะช่วยคุณหนูฟื้นฟูบ้านเสิ่นให้รุ่งเรือง”เสียงสวาใช้และบ่าวเดิมในบ้านต่างส่งเสียงร้องขอไม่อยากจากบ้านเสิ่นไป
“แต่ ไม่มีบ้านเสิ่นแล้ว ลุงกวงกำลังจะขายบ้านหลังนี้”
“คุณหนูเจ้าขาพวกเราไม่มีทางไป เราอยู่ที่นี่มาตั้งแต่นายหญิงยังไม่ตายผูกพันกับบานหลังนี้ไม่น้อยคุณหนูหาทางคุยกับลุงกวงอักครั้งดีไหม”
เหล่าคนรับใช้ในบ้านเสิ่นต่างคุกเข่าอ้อนวอนมีเพียงป้าเหยาเท่านั้นเข้าใจว่า เป็นไปไม่ได้ เปาหลิวถอนหายใจยาว
แพรสีดำปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท
สวมเลื้อคลุมสีดำสนิทเช่นเดียวกับท้องฟ้าในคืนนี้ เร้นกายออกจากบ้านเสิ่นไปในทันที
“โอะๆๆๆ คุณหนูเสิ่น ขอบคุณที่มาเจ้าค่ะ”
ผู่หยงดีดลูกคิดรางแก้วสามพันหักเอาจากของเปาหลิวอีกหนึ่งพันชั่งเป็นสี่พันชั่ง ช่างง่ายดายหอมหวานเสียจริง
“ เชิญเจ้าค่ะเชิญเลย ข้าจะแต่งตัวให้เสียใหม่”
“ไม่ข้าอยากจะไปแบบนี้ รีบไปจะได้รีบกลับ รับทองสี่พันชั่งเหมือนที่ท่านน้าบอก”
“โอ้ได้เลยคร้าาาา ใต้เท้าฮงรอที่บ้านพักนอกเขตวังหลวงข้าจะส่งเกี้ยวพาคุณหนูไปเอง”
“ข้าต้องทำอะไรบ้าง”ผู่หยงยิ้มจีบปากจีบคอพูด
“ไม่ต้องทำอะไรแค่ยอมตามใจใต้เท้าฮงก็แค่นั้น ยอมให้ใต้เท้าฮงเป็นนายเสียหนึ่งคืน”
“ใต้เท้าฮงทำไมข้าไม่รู้จัก”ขมวดคิ้วเรียงเป็นเส้นสวย เข้าหากัน
“คุณหนูเจ้าขาใต้เท้าฮงผู้นี้เป็นพ่อค้ารอนแรมมาจากแคว้นฉีอันไกลโพ้น มาแล้วก็ไป รับรองเรื่องที่คุณหนูเป็นของเขา คนแคว้นฉินไม่มีใครรู้แน่” เปาหลิวหลุบตามองพื้นเสีย
“เอาน่าคุณหนูงานนี้ ข้าน้อยรับประกันว่าคุ้มจริงๆ"
เปาหลิวได้ยินเสียงกลืนน้ำลายลงคอของอีกคน
“ข้าร่วมรักกับหญิงใดไม่เคยเปิดเผยใบหน้า”
ซ้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนพาเดินไปยังแท่นนอน ก่อนจะผูกแขนสองข้างติดกับแท่นนอน เปาหลิวตื่นตกใจอย่างที่สุด
“ใต้เท้า ปล่อยข้าเถอะ ข้ากลัวแล้วข้าไม่อยากได้แล้วทองคำของท่าน” หงเหวินยกยิ้มบนใบหน้า
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิว
ที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม
“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้”เสียงสั่นระรัวตกใจ