ทำไม คุณแม่จะต้องไปปกป้อง ยัยเด็กนั่นด้วย

1243 คำ
แต่ปรัณย์เริ่มจะโวยวาย เพราะเขาไม่พอใจที่มารดาจะมาเห็นคนอื่นดีกว่าลูกในไส้ “ทำไม คุณแม่จะต้องไปปกป้อง ยัยเด็กนั่นด้วย” “อ้าว ก็เป็นลูกสะใภ้ของแม่ที่รับรู้และเห็นด้วยนี่สิ ไม่ใช่ผู้หญิงที่แกจะโฉบเอาไปค้างอ้างแรมแบบทำตัวมักง่าย เหมือนเ**กลากไปไทยลากมา” เขาเองก็รู้ว่ามารดาประชดไปถึงคู่ขาของเขา ที่แก้วกานต์นับวันเขานั้นมีแต่จะหลงในเสน่ห์ของหล่อน ซึ่งเขานั้นก็ยังหมายมั่นให้เป็นคู่ชีวิตเบอร์หนึ่งของเขา “ผมเข้าใจครับ แต่คุณแม่ควรจะรู้ด้วยว่า แก้วเท่านั้นที่ผมจะพาเธอเข้ามาในฐานะสะใภ้และเป็นเบอร์หนึ่งของผม” “ฝันไปเถอะย่ะ ว่าแม่จะคิดไปแบบนั้นกับแก แม่มีเพียงหนูรวีเท่านั้นที่ยอมรับ ส่วนแกจะไปตกหล่นเรี่ยราด ทำตัวมักง่ายก็อย่าลามมาถึงที่บ้าน ได้หนูรวี นี่ใจแม่พระมาก ที่ให้สิทธิ์แกทำแบบนั้น แต่แกควรจะตระหนักเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง และหน้าที่ของคนที่มีครอบครัวแล้ว” ถ้อยคำที่ประชดใส่ของคุณนิ่มนวลผู้เป็นมารดาก็รังแต่จะเพิ่มความหงุดหงิดใจให้เขามากกว่าเดิม อย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่มันก็เป็นเพราะ ผู้หญิงที่ชื่อ รินรวีนั่นเอง และคุณนิ่มนวลขี้คร้านจะเถียงเขาต่อ เพราะลูกชายอารมณ์หงุดหงิด ตัดสินใจด้วยอารมณ์พาลอย่างนี้ เพราะความเคยชิน ดังนั้นคุณนิ่มนวลจึงได้ผละไปทางอื่น ยังคงปล่อยให้ปรัณย์นั้นหัวเสียตามอารมณ์ที่ขึ้นลงของเขา เหมือนพายุร้ายที่ยังไม่ยอมสงบลง ************** เธอก้าวไปถึงที่ทำงานในเช้าของวันแรกเจ็ดโมงครึ่ง รินรวีถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับทุกคนที่นี่ และพนักงานพอจะรู้ว่าหล่อนเป็นใคร ห้องทำงานของรินรวีติดกับท่านประธาน มีการจัดตกแต่งเอาไว้อย่างเรียบร้อย เพื่อต้อนรับเธอเฉพาะ เป็นเวลาที่รินรวีจะต้องศึกษาเกี่ยวกับการงานที่หล่อนจะต้องปฏิบัติ จากการแนะนำของพนักงานอาวุโสที่เข้ามาเทรนด์งานให้ตามคำสั่งของคุณนิ่มนวลและคุณมาตาวี สถานที่แห่งนี้ รินรวีจึงได้พับกับคุณมาตาวีและคุณปารตี เธอถือว่าเป็นเจ้าของและเป็นคุณป้าและคุณน้าของปรัณย์ “อ้าวแม่รวี ยินดีด้วยจ้ะ ที่หนูเข้ามาทำงาน” เสียงทักนั้นคือคุณมาตาวี ผู้เป็นป้าของสามี นางเดินเข้ามาสำรวจ เพราะเห็นว่าห้องทำงานตรงนี้ผ่านการตกแต่งไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เพิ่งจะแล้วเสร็จ “คงเบื่อการอยู่บ้านสินะ ก็ดี จะได้ไม่เหงา ฝึกการเรียนรู้ไปด้วย อีกหน่อยก็ต้องมาช่วยเหลืองานอยู่ดี” “ค่ะ คุณป้า” รินรวีตอบท่าน “แล้วนี่พ่อปรัณย์ล่ะ อยู่ข้างในห้องนั่นใช่ไหม” คุณมาตาวีชี้นิ้วไป เพราะเธอคิดว่า วันนี้ภรรยาของหลานชายมาทำงานเป็นวันแรก เขานั้นคงจะตื่นลุกขึ้นทำงานแต่เช้าเหมือนกันซึ่งเป็นห้องของท่านประธาน การถามถึงเขาคุณป้าสามี ที่พักอยู่ทางจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคกลาง ซึ่งนานๆจะแวะเยี่ยม ทำให้รินรวีรู้สึกอึดอัดพอสมควร เพราะคำตอบนั้นหล่อนรู้ดี และเป็นผู้เยาว์กว่า กวรโกหกผู้อาวุโสเห็นท่าจะไม่ดีนัก “เอ้อ คุณปรัณย์ ยังไม่ลุกตื่นจากที่นอนเลยค่ะ รวีเห็นว่าคงเพลียจัด เลยปล่อยให้นอนต่อ” รินรวีพยายามหาทางออกให้แก่ตัวหล่อนเองเช่นกัน ก็เพื่อจะไม่ให้ถูกจับผิดในสายตาของผู้มีวัยอาวุโสมากกว่าสองคนในเวลานี้ คงจะเพิ่งระแวงหล่อน และอาจจะหมายไปถึงเคลือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมลึกที่ยังไม่มีใครรู้ว่า หล่อนกับหลานชายของท่านทั้งสอง ไม่ได้นอนบนเตียงเดียวกัน เมื่อตอบออกไปแล้ว รินรวีก็ยังหายใจหายคอไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ แต่สำหรับเธอก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว เพราะรินรวีไม่ได้ตระเตรียมหาคำตอบเอาไว้ล่วงหน้า สถานการณ์ต่างๆเธอไม่เคยคาดเดาว่า เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฝ่ายของคุณมาตาวีเลยถอนใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าของหลานชาย “มันน่านักนะ ตาปรัณย์ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวัน ทั้งๆที่มีครอบครัวแล้ว ยังทำอะไรเป็นเด็กๆ สนุกไปเรื่อย” รินรวีนั้นฟังถ้อยน้ำเสียงที่เหมือนดุไปถึงสามีของหล่อน ที่ในเวลานี้ รินรวีก็ไม่รู้ว่า เขานั้นลุกขึ้นมาจากที่นอนแล้วหรือเปล่า แต่หล่อนก็ยังสงบปากเสงี่ยมคำเอาไว้ แต่ท่านก็หันสายตามาตำหนิใส่รินรวีอยู่บ้าง “เธอก็เหมือนกันแม่รวี อยู่ด้วยกันเป็นผัวเป็นเมียก็ควรจะปลุกให้รู้จักหน้าที่กันบ้าง ก็รู้อยู่ว่า นิสัยของตาปรัณย์เป็นแบบนี้” รินรวีก็ได้แต่รับคำนี้เอาไว้โดยก้มหน้า แต่ครั้นพอตำหนิแล้วนั้น หลังจากสองหญิงสาวใหญ่ได้เข้ามาสำรวจตรวจตราเพียงชั่วครู่นางทั้งสองก็ออกไป รินรวีถอนหายใจก็เกือบไปแล้วล่ะ ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ถามอะไรลึกลงไปกว่านี้ ซึ่งคิดว่า หล่อนน่าจะหาคำตอบให้พวกท่านไม่ได้แน่ กับการที่จะมาคาดคั้นพฤติกรรมการเป็นอยู่ เอาใจใส่ในตัวของสามีมากแค่ไหน ทั้งๆที่แต่งงานแล้ว สองผู้ใหญ่อาจจะตำหนิดุเธอมากมายเช่นกัน อยู่คนเดียวในห้องอีกครั้ง จนกระทั่งเวลาเก้าโมงครึ่งนั้น มีเสียงเคาะประตูหน้าห้อง หล่อนก็เลยคิดว่า อาจจะเป็นจิตติมา พนักงานเก่าแก่ของบริษัทที่มารดาของสามีช่วยไหว้วานให้มาเทรนด์งานแก่หล่อน “คุณจิตติมาหรือคะ รอแป้บนะคะ รินกำลังจะไปเดี๋ยวนี้” ครั้นพอเปิดประตูออกไปแล้วนั้น จึงได้พบว่าร่างสูงโปร่งของเขายืนอยู่ด้วยท่วงท่าและมาดกวน แต่ก็รู้สึกดีว่า เขานั้นแต่งกายใส่สูทผูกไทด์มาเรียบร้อยดีเหมือนกัน เขาคงพร้อมที่จะทำงานแล้วสินะ สายตากวาดมองมายังรินรวีเหมือนบึ้งตึงดุ “มีคนมาพูดให้ฉันฟังว่า เธอมาทำงานในวันแรกแต่เช้าเชียว” รินรวีพยายามไม่ตอบโต้เขา หล่อนรู้ถึงสายตาที่พยายามหาเรื่องของเขา แทนที่จะเป็นคุณจิตติมา กลับกลายเป็นเขา หน้าของหล่อนเลยหงิกบ้าง “ฉันคิดว่าอาจจะเป็นคุณจิตติมามากกว่าที่เคาะประตู แต่ไม่นึกเลยค่ะ ว่าจะเป็นคุณ คุณปรัณย์” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว หล่อนจึงเป็นฝ่ายตำหนิเขาบ้าง “เป็นฉันแล้วยังไง นี่เธอคงไม่พอใจอีกละสิ” เขาทำท่าจังก้ายืนขวางทางที่นอกประตู ทำยักคิ้วหลิ่วตาใส่หล่อน รินรวีแสนเกลียดชังนักท่าทางแบบนี้ของเขา ไม่ทำให้หล่อนรื่นรมย์สบายใจเลย “แล้วอย่ามาเฉไฉว่า เป็นคุณจิตติมาที่เข้ามาเคาะประตูห้องนี้” “ก็ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆนี่คะ เพราะคุณจิตติมาจะเข้ามาที่นี่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม