“ถึงไม่ได้บอก แต่ก็กลับมาเจอกันที่บ้านอยู่แล้วนี่คะ” รินรวีตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็มีรอยยิ้มแต้มแต่ง เพื่อไม่ให้เธอดูเย็นชาและแข็งกระด้างมากเกินไป “เสียงพูดไม่หวานเลยนะ มะนาวไม่มีน้ำก็ไม่ผิด”เขาล้อและเหน็บเอา “ก็ใช่สิคะ คุณปรัณย์ก็รู้ว่ารวี เป็นอย่างนี้ มาแต่ไหนแต่ไร” รินรวีเถียงเขาออกไปอย่างลืมตัว และเป็นคำพูดถือดีที่ปรัณย์ไม่ชอบยิ่ง สีหน้าของเขาจึงเข้มขึ้นมาทันที “ใช่ ฉันก็รู้ดีก่อนแต่งงานเสียอีก” เขาอยากพูดถึงนิสัยที่แก้ไม่หายของเธอ รินรวีใบหน้างอง้ำเมื่อถูกเขากล่าวพาดพิงถึงในอดีต “แล้วคุณปรัณย์จะให้รวีทำอย่างไรล่ะคะ” “อ้าวก็ปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่สิ นิสัยอะไรที่ไม่ดีก็เลิกทำ จะได้เอ้อ ดูดีขึ้นบ้าง” คำนี้เหมือนดุและตำหนิ นี่เขาเตือนสติเธอหรือ รินรวีคิด เปล่าหรอกนะ คนอย่างปรัณย์เขามาทำดีกับเธอเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะความสะใจ ผู้หญิงอย่างแก้วกานต์ที่เผอิญหล่อนได้พบกับคุณผดุงเข้าก